eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

เกิดแน่"เสือเต้น" กรมชลฯขยับสร้าง ชงครม.ขอ200ล.

นสพ. แนวหน้า  11 พค 47

อธิบดีกรมอุตุเผยปีนี้ฝนชุกกว่าปีที่แล้ว เตือนชาวบ้านในพื้นที่ติดภูเขา โดยเฉพาะภาคเหนือ ตะวัน ออกระวังดินถล่ม เข้าล็อกกรมชลฯ เตรียมชง ครม.ของบ 200 ล้าน ประเดิมขั้นตอนแรกสร้าง เขื่อนแก่งเสือเต้น ยันแก้ได้ทั้งน้ำท่วม-ภัยแล้ง รับประกันชาวบ้านรับค่าชดเชยสุดคุ้ม

เวลา 14.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประ ทาน นายอนันต์ แทนสถิตย์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และ นายสุเมธ ชัยพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสำ รวจที่ดินและพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวสรุปสถานการณ์น้ำพร้อม เตรียมรับมือฤดูฝน โดย นายอนันต์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ประเทศไทยจะเข้า สู่ฤดูฝนซึ่งปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน จะมีฝนตกชุก จึงขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาและ หุบเขา เพิ่มความระมัดระวังการเกิดดินถล่มอย่างรุนแรง

ขณะที่ นายสามารถ กล่าวว่า กรมชลประทานได้เตรียมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ส่วนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากใน หลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.แพร่ และ สุโขทัย นั้น จำเป็นต้องแก้ปัญหาทุกวิถีทาง ตั้งแต่การสร้าง ฝายแม้ว การทำทางระบายน้ำ การผันน้ำ การทำแก้มลิงเก็บน้ำ รวมทั้งการสร้างเขื่อนแก่งเสือ เต้น ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานกำลังจัดทำแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณปี 2548 จำนวน 100-200 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้ในการเตรียมดำเนินการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยจะใช้สำ หรับรวบรวมข้อมูล สำรวจความคิดเห็น และใช้ทหารเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่

ส่วนจะสามารถสร้างได้เมื่อไรนั้น คงต้องรอให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งงบประมาณที่จะ ต้องใช้ในการก่อสร้างทั้งหมด น่าจะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้ม เพราะสามารถแก้ปัญหาให้ กับลุ่มน้ำยมได้ทั้งระบบ ไม่ว่าเรื่องน้ำท่วมหรือภัยแล้ง ทั้งยังสามารถใช้พลังน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ได้

"ผมยืนยันว่า การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น มีความคุ้มทุน แต่จะสร้างเมือ่ไหร่นั้นคงต้องรอ ไปก่อน ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ เรารอมาได้ 50 ปี ก็ต้องรอต่อไป และหากจะก่อสร้างก็จะมีมาตร การชดเชยให้แก่ราษฎรไม่ให้เดือดร้อน และยืนยันว่าจะต้องรวบรวมข้อมูลทุกอย่างมาประกอบ การตัดสินใจ เช่น จำนวนไม้สักทอง หรือที่ระบุว่า บริเวณดังกล่าวมีรอยเลื่อนของโลกที่อาจะเกิด แผ่นดินไหวได้ และเห็นด้วยที่จะมีการทำประชาพิจารณ์ก่อนการก่อสร้าง" นายสามารถ กล่าว

กรมชลฯของบ200ล.ดันเขื่อนแก่งเสือเต้น

กรุงเทพธุรกิจ  วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2547

คาดใช้งบกว่าหมื่นล้าน อธิบดีลั่นนานเท่าไรก็รอ พร้อมทำประชาพิจารณ์
กรมอุตุฯ เผยปีนี้ฝนชุกกว่าปีที่แล้ว คาดปริมาณน้ำมากกว่าปีที่แล้ว 10-20% เตือนชาวบ้านในพื้นที่ติดภูเขา โดยเฉพาะภาคเหนือ ตะวันออก ระวังดินถล่ม ด้านกรมชลฯ เตรียมเสนอของบ 200 ล้านบาท ศึกษาความเป็นไปได้โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น คาดวงเงินก่อสร้างกว่าหมื่นล้านบาท โดยจะใช้ทหารลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน เตรียมทำประชาพิจารณ์ก่อนก่อสร้าง

เมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายอนันต์ แทนสถิตย์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และนายสุเมธ ชัยพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจที่ดินและพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวสรุปสถานการณ์น้ำ พร้อมเตรียมรับมือฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง

นายอนันต์กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงนี้ของเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งในปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 10-20% แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน จะมีฝนตกชุกโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ตราด ซึ่งขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา หุบเขาต้องระวังเพราะอาจเกิดดินถล่มที่รุนแรงได้

นายสามารถ กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาภัยแล้ง กรมชลประทานใกล้จะหมดภาระหน้าที่แล้ว และอีก 1 เดือน จะเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมต่อไป ทั้งนี้การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนกรมชลประทานจะกักเก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนต่างๆ ก่อน ซึ่งอ่างเก็บน้ำสามารถรองรับได้ เพื่อใช้ในการเกษตรและอุปโภค เนื่องจากคาดว่าในช่วงเดือนมิถุนายน- กรกฎาคม อาจจะมีฝนทิ้งช่วง และจะค่อยพร่องน้ำออกในช่วงปลายฤดูฝน

อย่างไรก็ตาม นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารทรัพยากรน้ำคงจะตั้งหน่วยเฉพาะกิจเข้ามาบริหารจัดการน้ำในภาพรวม โดยในส่วนของกรมชลประทานจะประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เพื่อหารือให้ทางจังหวัดเตรียมความพร้อมในการรับมือ

สำหรับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจ.แพร่ และสุโขทัยนั้น นายสามารถกล่าวว่าการแก้ปัญหาต้องทำทุกอย่างตั้งแต่สร้างฝายแม้ว การทำทางระบายน้ำ การผันน้ำ การทำแก้มลิงเก็บน้ำ รวมทั้งการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ซึ่งขณะนี้กรมชลฯ กำลังจัดทำแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณปี 2548 จำนวนประมาณ 100 -200 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรีในการเตรียมดำเนินการโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น

งบประมาณดังกล่าวจะใช้ในการรวบรวมข้อมูล สำรวจความคิดเห็น และใช้ทหารเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มลงพื้นที่ไปแล้ว โดยจะเน้นการทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ไม่ได้เข้าไปสร้างความรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนจะสามารถสร้างได้เมื่อไรนั้น คงต้องรอให้ ครม.ตัดสิน ซึ่งงบประมาณในการก่อสร้างที่ประมาณการไว้ตั้งแต่ปี 2541 วงเงิน 8,200 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้คาดว่างบประมาณจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท แต่ก็ถือว่าคุ้มทุนเพราะจะแก้ปัญหาลุ่มน้ำยมได้ทั้งระบบ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง และยังสามารถใช้พลังน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งตนพร้อมที่จะชี้แจงว่าคุ้มทุนแน่นอน

"ผมยืนยันว่าการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น มีความคุ้มทุน แต่จะสร้างเมื่อไรนั้นคงต้องรอไปก่อน ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ เรารอมาได้ 50 ปี ก็ต้องรอต่อไป และหากจะก่อสร้างก็จะมีมาตรการชดเชยให้แก่ราษฎรที่ต้องอพยพ ไม่ให้เดือดร้อน และยืนยันว่าจะต้องรวบรวมข้อมูลทุกอย่างมาประกอบการตัดสินใจ เช่น จำนวนไม้สักทอง หรือที่ระบุว่าบริเวณดังกล่าวมีรอยเลื่อนของโลกที่อาจจะเกิดแผ่นดินไหวได้ และก็เห็นด้วยที่ควรจะมีการทำประชาพิจารณ์ก่อนการก่อสร้าง" นายสามารถ กล่าว

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา