eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

อดอาหารใจถึงใจ

                พระไพศาล วิสาโล

                ม็อบรับจ้างพร้อมเสมอที่จะส่งเสียงเอ็ดตะโร ขว้างปาก้อนหิน ปิดถนน

                ชาวบ้านซึ่งโลภไม่รู้จักพอพร้อมเสมอที่จะเดินขบวนถือป้าย ตากแดดตากฝนชุมนุมล้อมทำเนียบ แต่ใครเลยจะยอมอดอาหาร ไม่มีกำหนด หรือแม้แต่อดนานเป็นอาทิตย์ก็เถอะ

                ในทำนองเดียวกัน คนที่อดอาหารเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ส่วนตัว ย่อมทำเช่นนั้นไม่ได้นาน เพราะถึงเงินหมื่นเงินแสนจะ หอมหวาน แต่ก็ไม่อาจเทียบกับชีวิตได้

                ใครบ้างที่จะยอมเอาชีวิตไปเดิมพันกับเงินซึ่งไม่แน่ว่าจะได้มาหรือไม่

                การที่ชาวบ้านจากสมัชชาคนจนพร้อมกันดาหน้าปีนกำแพงทำเนียบทั้งๆที่รู้ดีว่าเสี่ยงต่อการถูกจับกุมทุบตีเป็นอย่างยิ่ง เป็น เครื่องพิสูจน์เกินพอแล้ว่าพวกเขาไม่ใช่ม็อบรับจ้าง พวกเขายาตรามากรุงเทพฯเพราะความทุกข์ที่เรื้อรังสะสมมานานปี โดยการยอมให้ ตำรวจทุบตีอย่างดุษณี พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความทุกข์ที่ผลักดันเขามาหน้าทำเนียบนั้นมากมายกว่าความเจ็บปวดของจากการ ทุบตีของตำรวจหลาย เท่านัก

                วันนี้พวกเขาอาจหลุดพ้นจากข้อหาม็อบรับจ้างไปมากแล้ว กระนั้นตราบาปที่รัฐบาลและคนกรุงเทพฯจำนวนไม่น้อยประทับ บนหน้าผากของเขาว่า “โลภไม่รู้จักพอ” ก็ยังติดอยู่

                ถึงตอนนี้พวกเขาแทบไม่มีหนทางใดอีกแล้วที่จะลบล้างข้อกล่าวหานั้น นอกจากการอดอาหาร พวกเขาอดอาหารมิใช่เพื่อ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจของพวกเขาเท่านั้น หากยังเพื่อตอกย้ำตนเองให้แน่วแน่มั่นคงอยู่บนหนทางที่ถูกต้องและชอบธรรม

                การอดอาหารนั้นเป็นสันติวิธีประเภทหนึ่ง แต่สันติวิธีประเภทนี้มิได้มุ่งหวังให้เกิดพลังทางการเมือง หรือก่อผลกระทบทาง สังคมเท่านั้น หากยังเป็นไปเพื่อผลในทางจิตใจของผู้กระทำด้วย นั่นคือเพื่อขัดเกลาจิตใจให้เกิดเจตนาอันบริสุทธิ์

                การอดอาหารกับการชำระให้สะอาดบริสุทธิ์เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ออก ในวงการสุขภาพเป็นที่ยอมรับมากขึ้นแล้วว่า การ อดอาหารนั้นชำระอวัยวะภายในให้ปลอดจากสารพิษและสิ่งปฏิกูลได้เป็นอย่างดี

                ในทางจิตใจ การอดอาหารช่วยให้จิตใจสงบได้ง่าย ความคิดฟุ้งซ่านน้อยลง (ซึ่งเป็นอาการที่สัมพันธ์กับร่างกายที่ทำงานช้าลง) ในสภาวะเช่นนี้ กิเลสโดยเฉพาะกามราคะและความโลภจะระงับลงหรือกำเริบไม่บ่อย เกิดความรู้สึกโปร่งเบา ด้วยเหตุนี้นักปฏิบัติธรรม จำนวนไม่น้อยที่เน้นภาวนาแบบสมถะ จึงนิยมการอดอาหารครั้งละหลายวัน

                ในทำนองเดียวกันนักสันติวิธีหลายคนเลือกที่จะอดอาหารท่ามกลางการต่อสู้เรียกร้อง ทั้งนี้เพื่อลดทอนหรือสยบความโกรธ เกลียดและความเห็นแก่ตัวอันอาจเกิดขึ้นระหว่างการเผชิญหน้ากับคู่กรณี

                ขณะเดียวกันก็ใช้โอกาสนี้พิจารณาทบทวนการกระทำของตนเอง ว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมหรือเพื่อประโยชน์ส่วน ตน เป็นไปเพื่อความถูกต้องชอบธรรมหรือเพื่อสนองทิฐิมานะของตนเอง การอดอาหารช่วยให้เห็นตนเองได้ชัดเจนขึ้นก็เพราะในยาม นี้กิเลสคลายอำนาจในการครอบงำจิต จิตสงบและใสขึ้น จึงเห็นตนเองตามที่เป็นจริงได้ง่ายขึ้น

                สันติวิธีจะมีพลังได้ก็เพราะมีธรรมเป็นพื้นฐาน ดังนั้นนักสันติวิธีจึงจำเป็นต้องตรวจสอบและรักษาแนวทางการต่อสู้ให้สอด คล้องกับธรรมเสมอ จึงจะบรรลุจุดมุ่งหมายได้

                นี่คือเหตุผลที่สำคัญประการหนึ่งที่สมาชิกสมัชชาคนจนประกาศอดอาหาร หลายคนกล่าวว่าที่ทำเช่นนั้นเพราะต้องการ ปฏิบัติธรรม กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขาปรารถนาที่จะขัดเกลาตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าที่มาเรียกร้องหน้าทำเนียบนั้นมิใช่เพราะโลภไม่รู้จัก พอ หลายคนบอกว่าต้องการแผ่เมตตาให้รัฐบาล เมตตาจะเกิดขึ้นได้ด้วยจิตใจที่เบาบางจากความโกรธเกลียด การอดอาหารเป็นหน ทางหนึ่งที่จะบรรเทาความโกรธเกลียดได้ จึงช่วยให้การแผ่เมตตาเป็นไปได้อย่างแท้จริง

                การอดอาการเป็นโอกาสที่ชาวบ้านจะได้พิจารณา (ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น) ว่าการต่อสู้เรียกร้องของคนนั้นทำด้วยเจตนาที่เห็น แก่ตัวหรือเพื่อความถูกต้องชอบธรรม ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อพี่น้องจำนวนมากมายที่ทุกข์ยากเดือดร้อนเพราะการพัฒนาที่ ไม่ เป็นธรรม

                การอดอาหารเป็นเครื่องพิสูจน์เจตนาก็เพราะว่า ต่อเมื่อมีใจมุ่งมั่นแน่วแน่ในธรรมเท่านั้น จึงจะอดอาหารได้อย่างยืนหยัด อดทน คนที่เห็นแก่ตัวเองย่อมปราศจากกำลังใจที่จะยืนหยัดในวิธีการนี้

                และด้วยจิตที่มุ่งธรรมเท่านั้น การอดอาหารจึงจะสอดคล้องกับพุทธวิธี แม้จะต้องอดถึงตายก็ตาม ก็พระพุทธองค์ไม่ได้ตรัสไว้ หรือว่า “นรชนควรสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ ควรสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต ควรสละทรัพย์ อวัยวะและชีวิตเมื่อระลึกถึงธรรม”

                ถึงที่สุดแล้วการอดอาหารของชาวบ้านแห่งสมัชชาคนจนเป็นการประกาศให้สังคมไทยรับณึ้ว่า ความทุกข์ที่พวกเขาและพี่น้อง เผชิญอยู่นั้นยิ่งใหญ่กว่าความทุกข์ทรมานจากการออาหารมากมายหลายเท่านัก อีกทั้งความเป็นธรรมที่พวกเขาเรียกร้องก็มีคุณค่าอย่าง ยิ่งถึงขั้นที่พร้อมจะแลกด้วยชีวิต

                ความเป็นธรรมนั้น ใครๆก็พูดได้ตราบใดที่ยังอยู่ในห้องแอร์ มีกินมีใช้สุขสบาย แต่ถ้าเขายังเรียกร้องความเป็นธรรมอยู่ทั้งๆที่ กำลังทุกข์ทรมานอยุ่นั้น นั่นแสดงว่าสิ่งที่เจฃขาเรียกร้องต้องมีความหมายต่อตัวเขามากมากจนเขาพร้อมจะสละชีวิตเพื่อให้ได้มา

                วันนี้สมัชชาคนจนได้พิสูจน์ให้คนกรุงเทพฯเห็นแล้วว่า ตนโลภไม่รู้จักพอหรือไม่ บัดนี้ถึงคราวที่คนกรุงเทพฯที่กล่าวหาเขา เหล่านั้น ควรจะพิสูจน์ตนเองบ้างแล้วว่า ตนเองก็ไม่ได้โลภอย่างนั้นเหมือนกัน การ กล่าว หาคนที่ยากจนข้นแค้นว่าไม่รู้จักพอ ในขณะ ที่ตัวเองอยู่อย่างสุขสบายนั้นเป็นความไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง

                ร้ายไปกว่านั้นก็คือทั้งที่สุขสบายแล้ว ก็ยังเรียกร้องให้ชาวบ้านเสียสละด้วยการยอมสูญเสียบ้านเรือนไร่นา แหล่งยังชีพ (เช่น ป่าเขาและแม่น้ำ) เพื่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าและน้ำราคาถูกให้กับตนต่อไป

                ก็ชาวบ้านที่กำลังชุมนุมหน้าทำเนียบเหล่านนี้มิใช่หรือทีเป็นผู้เสียสละให้ครกรุงเทพฯมาแล้ว แต่ขณะที่พวกเขาจนลง เรากลับ รวยขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ เรายังจะเฉยเมย ต่อความทุกข์ยากของเขา และเรียกร้องให้เขาอดทนรับผลแห่งการเสียสละต่อไปอีกหรือ

                อย่าปล่อยให้พวกเขาทุกข์ไปกว่านี้อีกเลย อย่างน้อยก็ช่วยบอกรัฐบาลทีว่า ใครกันแน่ที่โลภไม่รู้จักพอ

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา