แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตอย่าบีบบังคับให้ประชาชนไม่มีทางเลือก
จากกรณีการชุมนุมอย่างสันติวิธีของสมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 1
เรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำ
ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2543
นับเป็นเวลากว่า 5
วันแล้วที่มีการดำเนินกิจกรรมอยู่บริเวณที่ชุมนุมโดยไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้ใด
การชุมนุมเป็นไป
โดยสันติวิธี
แต่ได้รับการตอบโต้
ใส่ร้ายป้ายสี
ปลุกระดมให้เกิดการปะทะอย่างรุนแรงตลอดเวลา
ล่าสุดได้มีเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าพลัง
น้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน
สถานีตำรวจภูธรอำเภอสิรินธร
ให้ดำเนินการจับกุม 14 แกนนำ
ทั้งหมด 7 ข้อหา
จากเหตุการณืดังกล่าวสหพันธืนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
(สนนท.)ซึ่งได้เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ตั้งแต่แรก
และร่วมต่อสู้กับสมัชชาคนจนมาโดยตลอดมีความคิดเห็น
ดังต่อไปนี้
1.เราขอประนามการกระทำในครั้งนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ที่พยายามบีบบังคับประชาชนคนยากจนที่กำลังจะหมดทางสู้อย่างถึง
ที่สุด
ซึ่งการาไฟฟ้าฝ่ายผลิตนอกจากจะไม่สนใจความเดือดร้อนที่เกิดจากการกระทำของฝ่ายตนเอง
พยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
รวมทั้งใช้วิธีการต่างๆเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนอย่างถึงที่สุดโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นวิธีการใดๆ
ซึ่งข้อกล่าวหา ทั้ง 7
ข้อกล่าวหา
มีลักษณะไม่แตกต่างกับการตั้งข้อกล่าวหาการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ในอดีต
เพื่อเป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐในการ
เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์
เป็นการใช้อำนาจกฎหมายล้าหลังซึ่งอยู่ในมือมาเป็นเครื่องมือในการกดดัน
ข่มขู่ และบีบบังคับพีน้อง
ประชาชนให้หยุดการเคลื่อนไหว
โดยที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่แท้จริง
ซึ่งที่ผ่านมากลไกรัฐ ราชการ
มักใช้วิธีการดังกล่าวใน
การข่มขู่พี่น้องประชาชนที่ไม่ยินยอมต่อความไม่เป็นธรรมเสมอ
ตลอดเวลาเราต่อสู้ด้วยความอดทนมาโดยตลอด
แต่การอดทนของเราก็มีขีดจำกัดเช่นกัน
ดังนั้นหากบีบบังคับและทำร้ายกันมากเกินไป
โดยไม่มีทางออกให้ประชาชน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะได้รับบทเรียนอย่างที่คาดไม่ถึง
2.การชุมนุมโดยสงบอย่างสันติวิธีของพี่น้องสมัชชาคนจนในครั้งนี้
หากเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่ง
ประเทศไทย (สนนท.)
ซึ่งได้เข้าร่วมปฏิบัตการกับพี่น้องสมัชชาคนจนตั้งแต่ต้น
ขอเรียกร้องต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตให้ดำเนินคดีดัง
กล่าวต่อพวกเรานิสิตด้วย
เราพร้อมที่จะต่อสู้ทางกฎหมายเนื่องจากเราอยากที่จะพิสูจน์ว่า
กระบวนการทางกฏหมายของไทย
มีความศักดิ์สิทธิ์
เพียงพอที่จะให้ความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้ทุกข์ยากหรือไม่
รวมทั้งต้องการพิสูจน์ ว่ารัฐธรรมนูญอันเป็น
กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ
ที่ระบบุชัดเจนในมาตรา 44
ที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ
โดยปราศจาก อาวุธ
สามารถบังคับใช้ได้จริงหรือเปล่า
หรือว่าอำนาจของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีเหนือรัฐธรรมนูญ
หากบทสรุปเป็นเช่นนั้นต่อไปสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
และประชาชนจะได้ไม่ต้องเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยการ
ชุมนุมแต่จะแสวงหาแนวทางอื่นต่อไป
เชื่อมั่นในพลังประชาชน
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)
แถลงโดยนายอุเชนทร์
เชียงเสน
เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
21 เมษษยน 2543 ณ สันเขื่อนปากมูล
|