แถลงการณ์เครือข่ายประชาชน
38 องค์กร
กรณีเขื่อนปากมูลและราษีไศล
24
พฤษภาคม 2543
สืบเนื่องมาจากการชุมนุมอย่างสันติวิธีของพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูลและเขื่อนราษีไศลเรียกร้องให้รัฐบาลดำ
เนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนเพื่อให้ปลาได้เดินทางไปวางไข่ในแม่น้ำมูน
ซึ่งเป็นการคืนชีวิต
ให้แม่น้ำ
เพื่อรักษาระบบนิเวศและคืนธรรมชาติให้ยั่งยืน
การชุมนุมของชาวบ้านในครั้งนี้
ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย
ที่รับรองด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ
และข้อเรียก
ร้องของรัฐบาลนั้นก็ชอบธรรม
ดังนั้นรัฐบาลจักต้องเคารพสิทธินี้และต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้อง
แต่รัฐบาลภายใต้การนำของ
นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี
กลับลอยตัวเหนือปัญหาโดยโยนความรับผิดชอบไปให้กับนายอำนวย
ปะติเส ซึ่งมีอำนาจในการ
ตัดสินใจ
รวมทั้งจังหวัดและการไฟฟ้าฝายผลิตแห่งประเทศไทย
รับผิดชอบ
ซึ่งได้สะท้อนถึงจุดยืนของรัฐบาลได้อย่างดีว่าไม่สนใจ
ปัญหาความเดือดร้อนของคนจน
ที่ผ่านมารัฐบาลยังได้ปล่อยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและหน่วยราชการท้องถิ่นใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อด้วย
เพื่อทำลายความชอบธรรมของการชุมนุมโดยกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มผู้ชุมนุมและบิดเบือนข้อมูลความเป็นจริง
ล่าสุดกรณีการให้สัมภาษณ์ของรมต.สาวิตย์
โพธิวิหค และรมต.พรเทพ
เตชะไพบูลย์ที่ได้สัมภาษ์อย่างไม่สร้างสรร
ก่อให้เกิดความ
ขัดแย้งมากขึ้นโดยไร้เหตุผลแทนที่จะเร่งรีบหาแนวทางแก้ไขปัญหา
ซึ่งวิธีการเช่นนี้รัฐบาลชุดใช้มาโดยตลอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมของคนจน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นการกระทำของนักเผด็จการในคราบเสื้อคลุมประชาธิปไตย
นั่นเอง
ที่สำคัญการชุมนุมของพี่น้องประชาชนกรณีผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในครั้งนี้นั้น
ย่อมสะท้อนและตอกย้ำให้เห็นว่า
เขื่อนที่แต่เดิมเชื่อกันอย่างงมงายว่าเป็นส่วหนนึ่งของการพัฒนานั้น
แท้จริงแล้วคือ หายนะของการพัฒนา
เพราะการสร้างเขื่อน
ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและความทุกข์ยากของประชาชนอย่างที่รับรู้กันอยู่
เหตุที่เป็นเช่นนีเนื่องจากรัฐไทยซึ่ง
รวมทั้งนักการเมืองถูกครอบงำด้วยวิธีคิดแนวทางการพัฒนาจากประเทศตะวันตก
โดยมีกลไกองค์กรข้ามชาติอาทิเช่น
ธนาคารโลก ไอ.เอ็ม.เอฟ เอดีบี
ให้การสนับสนุนในด้านงบประมาณเพื่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมนิยม
ที่เปิดโอกาสให้ทุนข้ามชาติเข้า
มาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
โดยไม่ได้คำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและชุมชนคนท้องถิ่นนั้น
ได้ส่งผลกระทบต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อมและความทุกข์ยากของประชาชน
อันเป็นแนวทางการพัฒนาที่ไม่มีความเป็นธรรมและยั่งยืน
ซึ่งถึงเวลาที่รัฐไทยต้องทบทวนแนวทางการพัฒนาและแสวงหาทางเลือกด้านพลังงานใหม่
ดังนั้น
เราจึงมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชนและดำเนินการแก้ไขปัญหาคนจนอย่างจริงจังและจริงใจ
ดังนี้คือ
1.รัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงต่อการชุมนุมด้วยสันติวิธีของประชาชนด้วยวิธีการใดๆก็ตามโดยเด็ดขาด
2.รัฐบาลต้องหยุดกระทำการลอยตัว
และใส่ร้ายป้ายสีประชาชนโดยเฉพาะรมต.สาวิตย์และรมต.พรเทพ
3.รัฐบาลต้องเร่งเจรจาแก้ไขปัญหากับประชาชนโดยเร่งด่วน
4.ในกรณีปากมูลให้รัฐบาลยึดผลการศึกษาของคณะกรรมการเขื่อนโลกเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
5.รัฐบาลต้องยุติการสร้างเขื่อนและแสวงหาทางเลือกด้านพลังงานใหม่
6.รัฐบาลต้องทบทวนแนวทางการพัฒนาโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตากรรมชีวิตของตนเองเพื่อการพัฒนาที่เป็น
ธรรมและยั่งยืน
มิใช่ปล่อยให้ทุนข้ามชาติครอบงำและยึดครองอย่างที่เป็นอยู่
ด้วยความเชื่อมั่นพลังประชาชน
เครือข่ายประชาชน
38 องค์กรต่อต้านเอดีบี
กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ
กลุ่มพิทักษ์
รักษ์ท้องถิ่นคลองด่าน จ.สมุทรปราการ
กลุ่มสานฝันลุ่มน้ำวัง
กลุ่มอนุรักษ์กาญจน์
จ.กาญจนบุรี
กลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก
จ.ประจวบคีรีขันธ์
กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
บ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์
กลุ่มฮักเมืองน่าน
ชุมนุมสหพันธ์สหกรณ์เกษตรอีสาน
คณะกรรมการประสานงานแก้ไขปัญหาเกษตรกร
จ.เชียงราย
คณะกรรมการประสานงานแก้ไขปัญหาเกษตรกร
จ.พะเยา
โครงการละครชุมชน
เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
4 ภาค
เครือข่ายกลุ่มเกษตรภาคเหนือ
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำกก-อิง-น่าน
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำแม่ถอด
จ.ลำปาง
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำแม่มอก
จ.ลำปาง
เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำแม่สอย
จ.ลำปาง
เครือข่ายป่าไม้ที่ดิน
อีสาน
เครือข่ายผู้ติดเชื้อ
เอช ไอ วี
เครือข่ายน้ำภาคอีสาน
เครือข่ายผู้บริโภค
จังหวัดเชียงใหม่
เครือข่ายสิทธิมนุษยชนสตรี
เครือข่ายสตรีชนบทเชียงราย-พะเยา
เครือข่ายแรงงาน
เครือข่ายสลัม
4 ภาค
เครือข่ายองค์กรชุมชนเมืองเชียงใหม่
ศูนย์สื่อประชาชน
สภาเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคตะวันออก
สมาพันธ์ประมงพื้นบ้านภาคใต้
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม
16 สถาบัน
สมัชชาเกษตรกรอีสาน
สมัชชาชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย
สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย
สมัชชาคนจน
สมัชชาลุ่มน้ำมูล
เครือข่ายป่าชุมชนต้นน้ำปิง
สมัชชาป่าชุมชนภาคเหนือ
|