แถลงการณ์สมัชชาคนจน
เข้าทำเนียบรัฐบาลเร่งชวนแก้ปัญหา
เนื่องจากความเดือดร้อนของพวกเราผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เสียสละเพื่อการพัฒนา
ขณะนี้นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น
การเรียกร้องที่
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืนยืดเยื้อเป็นเวลากว่า
1 ปี แต่รัฐบาลโดยนายชวน
หลีกภัย นายกรัฐมนตรี
ยังไม่มีท่าทีใดๆที่แสดงถึงความจริงจัง
และจริงใจในการแก้ไขปัญหา
แม้ว่าพวกเราจะได้เรียกร้องให้นายชวนลงมาดูปัญหาด้วยตัวเอง
แต่ก็ได้การยืนยันจากรัฐบาลว่ามา
พบไม่ได้
อีกทั้งยังให้ตัวแทนมาบอกกับสังคมว่า
หากลงมาหาคนจนกลุ่มนี้ภาพของรัฐบาลก็จะเป็นการเลือกปฏิบัติ
ซึ่งสมัชชาคนจน เห็นว่า
การแก้ไขปัญหาผู้เดือดร้อนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลมิใช่บ่ายเบี่ยง
บิดเบือน
เพื่อหาความชอบธรรมให้กับตนเองไปเรื่อยๆ
เพียงเพื่อให้ครบเทอม
ในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
ตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ
ข้าราชการตำรวจ พลเรือนอื่นๆ
รับหนังสือแก้ปัญหา
ของชาวบ้านโดยที่ไม่มีอำนาจที่แท้จริงในการแก้ไข
รวมทั้งวุฒิสมาชิกจังหวัดอุบลราชธานี
กรุงเทพมหานคร
และจังหวัดอื่นๆ อาจารย์
นักวิชาการสถาบันต่างๆ
สื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันหาทางให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี
แต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย
ก็ยังใช้วิธีการเดิม คือ
เป็นไปตามขั้นตอนของทางราชการ
และรอตรวจสอบข้อเท็จจริง
ตั้งกรรมการแก้ไขปัญหาเพื่อซื้อเวลาให้
ชาวบ้านหมดแรงหรือหมดความอดทน
สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างชาวบ้าน
พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ
ข้าราชการชั้นผู้น้อย
และระดับจังหวัด
ความตึงเครียดดังกล่าวได้ยืดเยื้อมากกว่า
14 วันแล้ว
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอันเนื่องมาจากความอดทนอดกลั้น
ของทุกฝ่ายที่ขาดสะบั้นลง
ดังนั้นสมัชชาคนจนจึงจำเป็นต้องตัดสินใจใช้ปฏิบัติการเข้าทำเนียบเพื่อพบนายชวน
หลีกภัย นายกรัฐมนตรี
เพื่อมิให้สามารถ หลีก เลี่ยง
หนีปัญหาลอยตัวอีกต่อไป
ทั้งยังจะทำให้ส่วนราชการอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ไปได้ตามปกติ
เราต้องการเจรจา
กับนายกรัฐมนตรีที่บอกว่าเป็นลูกชาวบ้านเมื่อชาวบ้านมาเยี่ยมถึงที่
หวังว่านายกรัฐมนตรีจะให้การต้อนรับเยี่ยงพ่อแม่พี่น้อง
หรือคน ไทยร่วมแผ่นดิน
เรามีข้อมูล
มีนักวิชาการและองค์กรพันธมิตร
ทั้งในและต่างประเทศที่สนับสนุนข้อเรียกร้องของเราและมีน้ำหนัก
เพียงพอไม่จำเป็นต้องซื้อเวลาด้วยการหาข้อมูลใหม่อีก
การกระทำครั้งนี้เรารู้ดีว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคำถาม
คำขู่เข็ญและคำประณามจากผู้ที่ไม่เข้าใจ
ซึ่งเรายินดีที่จะน้อมรับและถ้ารัฐบาล
จะจับพวกเราทั้งหมดไปขังคุกพวกเราก็ยอม
จะไม่มีการขัดขืน
แต่ถ้าเลือกจับเพียงไม่กี่คนเราจะไม่ยินยอมอย่างแน่นอนเพราะเป็น
เรื่องความเดือดร้อนของทุกคนที่เข้าร่วมการเรียกร้องครั้งนี้
สมัชชาคนจนขอวิงวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ผู้รักความเป็นธรรมทั้งมวล
ได้พยายามใช้แนวทางของพุทธศาสนาในการแก้ไขปัญหา
นั่นคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ
มรรค
อะไรคือเหตุแห่งทุกข์และหนทางในการดับทุกข์ของชาวบ้านที่เดือดร้อนมานานกว่า
30 ปี
ด้วยจิตรคารวะ
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 1-7
และในทำเนียบรัฐบาล
28
พฤษภาคม 2543
|
