แถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริง
กรณีน้ำไม่ท่วมอุบล
ไฟไม่ดับแน่นอน
จากกรณีที่กพฝ.และจังหวัดอุบลราชธานีออกประกาศและจะแถลงข่าวตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าชาวบ้านสมัชชาคนจนที่เดือดร้อนจาก
เขื่อนปากมูลและกดรณีอื่นๆอีก
๘ ปัญหา
ได้เข้าชุมนุมที่ลานจอดรถข้างโรงปั่นไฟฟ้าเขื่อนปากมูล
ทำให้เจ้าหน้าที่ของ กฟผ. ไม่
สามารถเข้าไปทำงานในห้องเครื่องได้
จะเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมและไฟฟ้าดับในจังหวัดอุบลฯและภาคอีสานนั้น
สมัชชาคนจน ขอชี้แจงดังนี้
ต่อกรณีที่ไม่สามารถควบคุมประตูน้ำได้
ซึ่งจะทำให้น้ำท่วมบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนปากมูล
สมัชชาคนจนขอชี้แจงดังนี้
๑.เขื่อนปากมูล
ได้ปักหลัก ๑๐๘ เมตร รท.ก. (หลักเหลืองดำที่มีอยู่ทั่วไปตามหมู่ยบานริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนปากมูล
) จากระดับน้ำทะเล ปานกลาง (ม.รท.ก)ซึ่งเป็นระดับเก็บกักน้ำสูงสุดของเขื่อน
ถ้าน้ำจะท่วมก็คือ
ระดับน้ำต้องสูงกว่าระดับ
๑๐๘ เมตร รท.ก. ซึ่งขณะนี้
เราพบว่าระดับน้ำยังไม่ถึง
๑๐๘ เมตร รท.ก
๒.กฟผ.ได้ชี้แจงกับชาวบ้านที่ชุมนุมที่สันเขื่อนตั้งแต่วันแรกแล้วว่า
กฟผ.ได้ยกเครื่องควบคุมประตูไร้สาย
(รีโมท) ไปที่ขอนแก่นแล้ว
และสามารถควบคุมการเปิดปิดประตูระบายน้ำจากขอนแก่นได้เลย
และตลอดเวลาที่ชุมนุมชาวบ้านไม่ได้แตะต้องเครื่องจักร
หรือเข้า
ไปภายในตัวอาคารควบคุม
เพียงชุมนุมอยู่ภายนอก
ต่อกรณีเรื่องไฟฟ้าในจังหวัดอุบลฯจะดับหากไม่มีการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่เขื่อนปากมูล
ข้อเท็จจริงเป็นดังนี้
ในวันที่
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๓
ตัวแทนสมัชชาคนจน ๑๐ คน ส.ว. ๗
คน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ
นายศิวะ แสงมณี
ได้ประชุมกันที่
ศูนย์สาธารณสุขมูลฐาน อำเภอ
โขงเจียม และ มล. ชนะพันธ์
กฤษดากร
ยอมรับในที่ประชุมว่า
หากหยุดผลิตไฟฟ้าที่เขื่อนปากมูลจะ
ไม่กระทบต่อไฟฟ้าภาคอีสานและในจังหวัดอุบลราชธานี
กฟผ.มีไฟฟ้าที่อื่นเหลือพอป้อนให้ชาวอีสานได้
ถ้าเขื่อนปากมูลหยุดผลิต
ไฟฟ้าทั้ง ๔ เครื่อง
ภาคอีสานและจังหวัดอุบลฯก็ยังมีไฟฟ้าใช้
หากไฟฟ้าในอุบลฯและภาคอีสานจะดับก็มีเพียงกรณเดียงคือสายส่ง
ไฟของไฟฟ้ามีปัญหา
และข้อมูลจากกองสารนิเทศฝ่ายประชาสัมพันธ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯที่บางกรวย
ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๓
ระบุว่า ระบบ ไฟฟ้าของ กฟผ.มีกำลังไฟฟ้าสำรองในระบบถึง
๕,๐๐๐ เมกกะวัตต์
ถ้าไม่ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนปากมูลก็สามารถเปิดโรงไฟฟ้าที่อื่น
เหลือพอป้อนให้ภาคอีสานได้
และกฟผ.เองมีสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเชื่อมโยงทั่วประเทศ
มีคุณภาพดีที่สุด
ดังนั้นพี่น้องชาวอุบลฯไม่
ต้องเป็นห่วงว่าไฟฟ้าจะดับ
แต่ถ้าไฟฟ้าดับก็คือ กฟผ.
จงใจกลั่นแกล้งชาวอุบลฯ
โดยปิดไฟแล้วโยนความผิดให้ผู้ชุมนุมของ
สมัชชาคนจนที่เขื่อนปากมูล
ความเดือดร้อนของพี่น้องชาวเขื่อนปากมูลและสมัชชาคนจน
เป็นการสูญเสียอาชีพประมงอย่างถาวร
๑๐
ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไม่มี
ปลาในอ่างเก็บน้ำเหมือนก่อนสร้างเขื่อน
เมื่อกระแสไฟฟ้ามีพอใช้
และเหลือถึง ๕,๐๐๐
เมกกะวัตต์หากกฟผ.หยุดผลิตไฟแล้วเปิด
ประตูน้ำทั้ง ๘ บาน
ปลาจากแม่น้ำโขงก็จะว่ายขึ้นสู่แม่มูนจนถึงแก่งสะพือและจังหวัดอุบลฯก็จะได้กลับมากินปลาแม่มูนอีกครั้ง
เราขอให้ชาวอุบลฯทั้งมวล
อย่าหลงเชื่อข้อมูลของกฟผ.
เพียงฝ่ายเดียว
การเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล
คืนธรรมชาติให้แม่มูน
คืนความ สมบูรณ์ของพันธ์ปลา
แล้วไปผลิตไฟโดยโรงไฟฟ้าอื่นซึ่ง
กฟผ.มีอยู่แล้ว
จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่จุดชาวบ้านเดือดร้อนก็จะเลิกชุม
นุมกลับบ้านไปทำมาหากินเหมือนเดิม
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
๒๙
พฤษภาคม ๒๕๔๓
**************************************************************************************
ประกาศจังหวัดอุบลราชธานี
เรื่อง
สถานการณ์ของเขื่อนปากมูล
ด้วยทางจังหวัดอุบลราชธานี
ได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.)
ว่าตามที่กลุ่มสมัชชาคนจนได้บุกเข้ายึดพื้นที่
บริเวณโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูล
ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม
๒๕๔๓ จนถึงปัจจุบัน
และห้ามเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและบำรุงรักษาตาม
ระยะเวลา
แม้จังหวัดอุบลราชธานีจะได้ร่วมเจรจาขอให้ผู้ชุมนุมไม่ให้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
แต่ก็ไม่เป็นผล
ผลสืบเนื่องดัง
กล่าวทำให้เครื่องกำเนินไฟฟ้าได้หยุดเดินไปแล้ว
๒ เครื่อง
และหากไม่ได้รับการบำรุงรักษาภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม
๒๕๔๓
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะหยุดทำงานทั้งหมด
ผลกระทบที่จะได้รับคือ
๑.ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำที่กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ
ได้ตามกำหนดไว้
เพราะระบบการควบคุมบางส่วนอยู่ในโรงไฟฟ้า
ทำให้พื้นที่ เกษตร
ราษฎรที่เลี้ยงปลาในกระชัง
และบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำมูลจึงอาจถูกกระทบได้
๒.ระบบส่งไฟฟ้าจะถูกกระทบ
โดยไฟฟ้าจะขาดหายไปส่วนหนึ่งทำให้ขาดความมั่นคงของระบบส่งไฟฟ้า
ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อ
การใช้ไฟฟ้าในบางจุดได้
จังหวัดอุบลราชธานีได้ประสานกับ
กฟผ.ในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งรีบ
โดยพยายามลดผลกระทบจากภาวะน้ำล้นเอ่อ
และ ระบบไฟฟ้าเต็มที่แล้ว
จึงขอประกาศให้ทางจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงเตรียมรับสถานการณ์ดังกล่าว
ประกาศ
ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๓
(นายประภาส
บุญยินดี)
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
ปฎิบัติการแทน
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
|