แถลงการณ์
บทบาทลวงโลก กฟผ.โกหก
อินเตอร์
ตลอดการชุมนุมของสมัชชาคนจนเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอันเกิดจากโครงการพัฒนาของรัฐ
โดยการ
ยึดหลักการชุมนุมอย่างสันติวิธีและในความจำเป็นที่ต้องเข้าปักหลักที่ลานจอดรถ
ข้างโรงปั่นไฟเขื่อนปากมูล
ก็เพื่อเสนอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯและรัฐบาลดำเนินการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลให้ปลา
ได้ขึ้นมาวาง
ไข่ตามวัฏจักรวงจรชีวิตที่เคยอพยพในฤดูกาล
ก่อนการสร้างเขื่อนแทนข้อเรียกร้องเรื่องค่าชดเชย
เนื่องจากผล
กระทบที่เกิดขึ้นมิได้เกิดเฉพาะผู้เรียกร้องในสมัชชาคนจนเท่านั้น
แต่ผลกระทบเกิดขึ้นตลอดทั้งลุ่มน้ำ
เนื่องจาก
การสูญเสียทรัพยากรปลาและระบบนิเวศน์ที่เคยอุดมสมบูรณ์
ฉะนั้น
การเปิดประตูระบายน้ำให้ปลากลับขึ้นไป
วางไข่ก็เท่ากับเป็นการคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับ
พี่น้องทั้งลุ่มน้ำมูนด้วย
ที่ผ่านมาสมัชชาคนจนถูกบิดเบือน
เจตนาการชุมนุมมาโดยตลอด
โดยข้ออ้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ
ที่มุ่งทำลายความชอบธรรม
หลีกหนีความรับ
ผิดชอบในปัญหาที่เกิดขึ้นจากเขื่อนปากมูล
นับตั้งแต่ข้อหาว่าชาวบ้านผู้เดือดร้อนตั้งตัวเป็นซ่องโจรสะสมอาวุธ
กล่าวหาว่าปิดถนน
กล่าวหาว่าทำลายทรัพย์สินทางราชการ
น้ำจะท่วมเมืองอุบลฯ
และไฟฟ้าจะดับทั่วภาคอีสาน
ซึ่งข้อกล่าวหาต่างๆ
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
เพราะเนื่องจากปัจจุบันเหตุการณ์ไม่ได้เป็น
เช่น นั้นเลยแม้แต่น้อย
กระทั่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯได้ใช้ข้ออ้างทางเทคนิคในความจำเป็นว่าต้องนำเครื่องมือขนาด
ใหญ่ เข้าซ่อมบำรุง
และโกยกองสวะออกจากหน้าเขื่อน
และต้องนำนักประดาน้ำดำลงไปนำขอนไม้ขนาดใหญ่
ออกจากหน้าอาคารปั่นไฟ
ซึ่งต้องใช้พื้นที่ทั้งหมดในบริเวณลานจอดรถ
จนเป็นประเด็นที่สืบเนื่องมาหลายวัน
สร้างความปั่นป่วนให้คณะกรรมการกลางและผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ
จนต้องไม่ได้ทำงานอะไร
สุดท้าย เมื่อ วันที่ 17 มิ.ย.
ที่ผ่านมา
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ
ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำขึ้นสูงกว่า
2 เมตร เพื่อรักษาระดับน้ำ
เหนือเขื่อน
อันเป็นผลทำให้ผักตบชวาและกองสวะด้านหน้าถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดลงใต้เขื่อนจนหมดสิ้น
ไม่มี
เหลือค้างที่หน้าเขื่อนแต่อย่างใด
ซึ่งก็เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นว่า
การไฟฟ้าสามารถที่จะเคลียร์กองสวะได้อยู่
แล้ว แต่ปัญหาคือ
การไฟฟ้าไม่ทำ
พยายามใช้ข้ออ้างทางเทคนิคดังกล่าวมาเป็นเงื่อนไขต่อรองเพื่อสร้างภาพให้
กับตัวเอง
โยนความเป็นผู้ร้ายให้กับชาวบ้านที่เป็นผู้เดือดร้อน
สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นแก่สังคม
มีเจตนา สร้างความแตกแยก
และมีพฤติกรรมมุ่งให้เกิดความรุนแรง
เหมือนกับที่การไฟฟ้าเคยใช้วิธีการนี้เมื่อครั้งเริ่มมี
การสร้างเขื่อนปีพ.ศ.2534
หรือเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว
การเป็นนักโกหก
ไม่ได้สร้างสิ่งที่ดีงามอะไรแก่สังคมเลย
มีแต่จะ
ทำให้หลักศีลธรรมแห่งสังคมพุทธศาสนาต้องมัวหมองลง
เป็นการสร้างแบบอย่างที่เลวร้ายแก่สาธารณชนรุ่นหลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฟผ.เป็น
องค์กรรัฐวิสาหกิจที่ขึ้นตรงต่อรัฐและบริหารงานโดยนโยบายของรัฐ
นั่นเท่ากับ
รัฐบาลเองย่อมรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำต่างๆเหล่านี้
โดยมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
สมัชชาคนจนเห็นว่า
การที่รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาแก้ไขปัญหานั้นเป็นการกระทำที่เหมาะสมถูกต้องแล้ว
แต่การไฟฟ้า ฝ่ายผลิตฯ
ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐจะต้องยอมรับมติและผลการตัดสินใจของคณะกรรมการอันเป็นเสมือนตัวแทน
ของรัฐบาลชุดนี้ด้วย
มิฉะนั้น
แม้จะมีการตั้งกรรมการขึ้นมาอีกกี่ชุดก็ไม่มีความหมายอะไร
หาก กฟผ. ยังทำตัว
เป็นองค์กรเหนือรัฐ
มีอำนาจล้นฟ้าอยู่เช่นนี้
เราขอเรียกร้องให้ กฟผ.หยุดสร้างภาพ
หยุดโกหก หยุดบิดเบือน
และขอให้สังคมหันมาช่วยกันตรวจสอบ
จับตามอง
นโยบายการทำงานของ กฟผ.และร่วมกันผลักดันให้
กฟผ. ได้ใช้หลักธรรมะ
ความจริง
ในการแก้ไขปัญหาเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมและเป็นบรรทัดฐานให้ลูกหลาน
เยาวชนในประเทศ
ได้มีความภาคภูมิใจในผืนแผ่นดินที่เขาอยู่
มิใช่เขาเกิดมารับรู้แต่พฤติกรรมที่ผิดศีลธรรม
มีแต่กลโกงและเล่ห์เหลี่ยมของผู้นำประเทศเท่านั้น
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน 20 มิถุนายน 2543
***************************************************************
ข้อตกลงสมัชชาคนจน
เกี่ยวกับการเข้าทำงานของ
กฟผ
1.กฟผ.จะต้องชี้แจงความจำเป็น
และเหตุผลในการเข้าทำงาน
เป็นลายลักษณ์อักษร
ระบุวันเวลาที่ชัดเจน
และให้ กฟผ.สามารถนำรถ
และเจ้าหน้าที่เข้าทำงานได้ตามความจำเป็นเท่านั้น
2.ขอให้ กฟผ.เข้าทำงานในเวลาราชการ
(08.00 น.-16.00 น.)
3.ในช่วงเวลาการทำงานตั้งแต่
08.00 น.-16.00 น.ชาวบ้านยินดีให้ความร่วมมือกับ
กฟผ.ทุกอย่าง
ในการเข้าทำงาน
ไม่ว่าจะเป็น แรงงาน
และการดูแล เครื่องมือ
อุปกรณ์
รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ของ
กฟผ. (เฉพาะเวลาราชการเท่า
นั้น)
แต่เมื่อหมดเวลาการทำงานตามข้อ
2 ขอให้เจ้าหน้าที่ กฟผ.
ออกจากบริเวณที่ชุมนุมและนำรถ
เครื่องมือ
อุปกรณ์ต่างๆ
ออกไปด้วยเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้าทำลาย
4.ให้มีการลงนามระหว่าง
สมัชชาคนจน กฟผ.และผู้ว่าราชการจังหวัด
เรื่องการยุติความเคลื่อนไหวมวลชน
ทุก
กลุ่มยุติการให้ข่าวบิดเบือน
หรือสร้างสถานการณ์ใดๆ
อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน
ซึ่งจะนำไป สู่ความรุนแรง
เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการกลาง
และรัฐบาล
5.ขอความกรุณาจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ
ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประสานงานกลาง
ลงมาชี้แจงกับชาวบ้านเรื่อง
ความจำเป็นในการเปิดทางให้กฟผ.เข้าทำงาน
อีกทั้งประสานให้กฟผ.ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการในเบื้อง
ต้น
เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกัน
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
20 มิถุนายน 2543
|