แถลงการณ์
สมัชชาคนจน
กรณีรัฐบาลปิดกั้นเสรีภาพในการชุมนุม
โดย
รัฐบาลสั่งการสกัดรถไฟ
ไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้ามาชุมนุมยังทำเนียบรัฐบาล
จากการที่สมัชชาคนจน
จะได้เดินทางมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
โดยรถไฟจากจังหวัดอุบลราชธานีมายังกรุงเทพฯ
เพื่อให้รัฐบาลเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการกลางที่ได้ข้อสรุปและ
เสนอต่อรัฐบาล
มากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว
แต่รัฐบาลยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด
การเดินทางมาชุมนุมของสมัชชาคนจน
กลับถูกรัฐบาลสกัดกั้น
โดยให้การรถไฟหยุดเดินรถจากจังหวัดอุบลราชธานี
เข้าสู่กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นการปิดกั้นสิทธิ
เสรีภาพ
ขั้นพื้นฐานของประชาชนในการชุมนุมโดยตรง
ซึ่งรัฐบาลอ้างมาโดย
ตลอดว่ารับฟังเสียงประชาชน
แต่กรณีสมัชชาคนจนชุมนุมมากว่า
1 ปี แล้ว
ในการแสดงความคิดเห็น
และการชุมนุม
อย่างสงบและปราศจากอาวุธ
กลับไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้
สมัชชาคนจน
ได้ยอมถอยออกจากพื้นที่ชุมนุมที่สันเขื่อนปากมูลเพื่อเปิดทางให้
กฟผ.
ได้เข้าทำงานในเขื่อนปาก
มูลแล้ว
แต่รัฐบาลกลับเบี้ยว
ไม่ดำเนินการสั่งการใด ๆ
เพื่อการแก้ไขปัญหาให้กับสมัชชาคนจนตามมติกรรมการกลาง
สมัชชาคนจนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ
เพื่อร้องเรียนต่อสังคม
และเร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการ
ตามมติคณะกรรมการกลาง
การสกัดกั้นการเดินทางมาชุมนุมของสมัชชาคนจน
จึงถือว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิขั้นพื้นฐาน
ของประชาชน
สมัชชาคนจน
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา
ตามมติกรรมการกกลาง
ทันทีตามแนวทางที่คณะกรรมการกลาง
ได้เสนอให้รัฐบาลอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่
6 มิ.ย. 2543
และหยุดการสกัดกั้นการเดินทางมาชุมนุมทวงสัญญา
ของเรา
เพื่อให้เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน
10 กรกฎาคม 2543
|