แถลงการณ์
ขอสนับสนุนปฏิบัติการสันติวิธีของสมัชชาคนจนเข้าทำเนียบรัฐบาล
เพื่อให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติคณะกรรมการกลางฯและคัดค้านการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนจังหวัดเชียงรายได้ติดตามการแก้ปัญหาสมัชชาคนจนของรัฐบาลมาโดยตลอด
เราพบว่ารัฐบาล
มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงต่อชาวบ้านเสมอ
เพราะรัฐบาลต้องการรักษาโครงสร้างที่ซ่อนความรุนแรงไว้
โดยแสดงออกผ่าน
นโยบายพัฒนาประเทศที่ทำให้คนยากจนเป็นผู้เสียเปรียบ
เป็นผู้เสียสละอยู่ร่ำไป
เมือคนยากจนนำเสนอปัญหารัฐบาลก็มอง
เป็นเรื่องการเมือง
จึงปฏิบัติต่อชาวบ้านเหมือนเป็นศัตรู
ด้วยวิธีการรุนแรงหลายระดับตั้งแต่การบิดเบือน
การทาสีภาพสกปรก
ให้ผู้ชุมนุม การล่อหลอก
การยืดเวลา
จนถึงความรุนแรงที่ชัดแจ้งอย่างการจัดม็อบชนม็อบ
การใช้กำลังเข้าสลาย
เราเข้าใจดีถึงความกดดันของผู้เสียเปรียบในสังคม
เพราะพวกเราก็ประสบอยู่ดังกรณีผันน้ำกก-อิง-น่าน
การสร้างโครงการ ขนาดใหญ่
เราจึงติดตามการนำเสนอปัญหาของสมัชชาคนจนและการแก้ปัญหาของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะระยะใกล้ นี้คือ
กรณีการชุมนุมที่ลานจอดรถเขื่อนปากมูล
เราชื่นชมที่สมัชชาคนจนได้รักษณาการต่อสู้แนวสันติวิธีไว้อย่างเหนียวแน่น
จนทำให้เกิดข้อเสนอของคณะกรรมการกลางฯออกมาซึ่งน่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงด้วยดี
แต่รัฐบาลก็ไม่มีความจริงใจพอ
ดังนั้นเมื่อสมัชชาคนจนเคลื่อนมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลขณะนี้
เราจึงเต็มใจสนับสนุนใน
แนวทางสันติวิธีของสมัชชาคนจน
เราขอเรียกร้องว่า
1.รัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงใดๆกับกลุ่มผู้ชุมนุมในรูปแบบต่างๆอีกต่อไป
ทั้งในรูปของการซื้อเวลา
การบิดเบือน การสร้าง
ม็อบชนม็อบ
และการสลายม็อบหรือการใช้กำลังใดๆ
2.ให้รัฐบาลนำข้อเสนอของคณะกรรมการกลางฯไปปฏิบัติทันที
และให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโดยด่วนทั้ง
16 กรณีปัญหา (โดยเฉพาะการเปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนปากมูลทั้ง
8 บาน)
เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลมองผู้ชุมนุมว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ต้องเอาชนะเหมือนการเอาชนะคู่แข่งวทางการเมืองอื่นๆ
มิฉะนั้นราก
เหง้าของโครงสร้างความรุนแรงที่รัฐบาลรักษาอยู่จะยังผลิตคสวามรุนแรงเชิงรูปธรรมออกมาเรื่อยๆ
และมือที่เปื้อนเลือดจะ
ต้องถูกกาลเวลาเปิดเผยเหมือนกรณีอื่นๆในที่สุด
มิตรภาพจริงใจ
เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนจังหวัดเชียงราย
(คชร.)
ฝ่ายงานด้านจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำ
อาทิตย์ที่
17 กรกฎาคม 2543
|
