eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

 แถลงการณ์สมัชชาคนจน

หยุดพฤติกรรมคางคกขึ้นวอ สอพลอจนได้ดี

                นับเป็นเวลา 53 วันการชุมนุมของสมัชชาคนจน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาตามมติคณะกรรมการกลางเพื่อแก้ไขปัญหา สมัชชาคนจน 16 กรณี ซึ่งรัฐบาลได้ออกมติคณะรัฐมนตรี 25 กรกฎาคม 2543 ซึ่งสมัชชาคนจนยืนยันว่า ไม่ใช่มติ ครม.ที่ปฏิบัติตามความ เห็นของมติคณะกรรมการกลางฯ และเป็นมติ ครม.ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทั้ง 16 กรณีได้ ซึ่งเมื่อมีการเปิดเวทีสาธารณะเพื่อการชี้แจงการ แก้ปัญหาสมัชชาคนจน ตัวแทนรัฐบาลก็ไม่สามารถชี้แจงได้ว่า มติ ครม.25 ก.ค.2543 ว่าเป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาของคณะ กรรมการกลางฯ แต่อย่างใด หากแต่ยังคงยืนยันความเห็นของหน่วยงานราชการเช่นเดิม ซึ่งรัฐบาลก็ยังคงโหมการโฆษณาชวนเชื่อว่า ได้แก้ ไขปัญหาปัญหาคนจนเป็นที่เรียบร้อย และพยายามกล่าว หาป้ายสีเพื่อทำลายความชอบธรรมของการชุมนุมตลอดเวลา สมัชชาคนจนมี ความเห็นและท่าทีดังต่อไปนี้

1.ต่อกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล ซึ่งขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ละเมิดมติคณะรัฐมนตรี ตามที่รัฐบาลนี้ยืนยันว่าได้ แก้ปัญหาเขื่อนปากมูลแล้ว โดยปิดประตูระบายน้ำจำนวน 2 บาน จากทั้งหมดจำนวน 8 บาน ตั้งแต่วันที่  29  สิงหาคม  2543 โดยไม่ยำเกรง ว่าเป็นอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ แต่รัฐบาลก็ยังคงนิ่งเฉยดูดาย เสมือนว่ารู้เห็นเป็นใจกับการไฟฟ้าฯ ทั้งที่ปัญหาน้ำท่วมได้เกิดขึ้น ทั่วภาคอีสานก็สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างหนักหนาแสนสาหัสอยู่แล้ว ยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหารัฐภัยที่ปิด บานประตูระบายน้ำ เขื่อนปากมูลกักกันไม่ให้มีการระบายสู่แม่น้ำโขง  นี่หรือคือการแก้ปัญหาที่อ้างว่าเป็นคืบหน้าของรัฐบาล ซึ่งหากรัฐบาลยังกระทำตัวเป็น ลูกน้อง กฟผ.ไม่สามารถสั่งการให้ กฟผ. ปฏิบัติตามมติ ครม.ได้ก็ควรยกประเทศนี้ให้ กฟผ. มาบริหารแทน เพื่อให้การได้เป็นลูกน้อง กฟผ.สมบูรณ์อย่างแท้จริง

2.กรณีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้เรียกประชุมหน่วยราชการ 19 หน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาด ไทย กระทวงคมนาคม กระทรวงแรงงานฯ  สำนักงานตำรวจสันติบาล สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ฯลฯ เมื่อวานนี้ เพื่อจัดตั้งองค์กรถาวรรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ โดยนายบัญญัติได้ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้มีคณะกรรมการเพื่อให้มีการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากขึ้น โดยจะมีอนุกรรมการด้านต่างๆ เช่น รักษาความ ปลอดภัย การจราจร การขนส่ง กรณีที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับ รวมทั้งในต่างจังหวัดก็จะให้มีคณะกรรมการ โดยให้ผู้ว่าราชการเป็นประธาน นั้น

สมัชชาคนจนเห็นว่า การประชุมเพื่อจัดตั้งองค์กรถาวรรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวนั้น คือความพยายาม ที่รัฐบาล ต้องการจัดตั้งหน่วยราชการเพื่อจัดการและกำจัดการชุมนุมของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งหวังสลายการชุมนุมของ ประชาชนเป็น สำคัญ ไม่ใช่เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอสาเหตุหลัก เพราะรัฐบาลปัจจุบันไม่มีนโยบายและมาตรการต่อการแก้ไขปัญหา คนจนอย่างแท้ จริง แสดงถึงธาตุแท้ของรัฐบาลชวน หลีกภัยที่ต้องการทำสงครามกับคนจน ด้วยกลไกราชการทุกกระบวนการ

3.ต่อกรณีนายอรรคพล  สรสุชาติ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาโดยตลอดว่า รัฐบาลสามารถแก้ปัญหา สมัชชาคนจนคืบหน้าไปมากแล้วและยืนยันว่า มติ ครม 25 ก.ค.และ 8 ส.ค.43 มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา ขณะนี้กำลังติดตามการ ดำเนินการตาม มติ ครม.ส่วนที่สมัชชาคนจนยังไม่พอใจตนจะไม่ตอบโต้ เพราะมีหน้าที่เพียงรายงานความคืบหน้ายืนยันว่ารัฐบาลจะดูแล คนจนให้มีความเสมอภาคทั้งผู้มาชุมนุมและไม่มาชุมนุมอย่างเท่าเทียมกัน ขณะที่วารสาร สลน.สัมพันธ์เอกสารชวนเชื่อของสำนักนายก รัฐมนตรียังคงใส่ร้ายและกล่าวหาการชุมนุมของสมัชชาคนจนอย่างรุนแรง

สมัชชาคนจนเห็นว่าการที่รัฐบาลใช้บุคคลเช่นนายอรรคพล  สรสุชาติ ซึ่งไม่มีอำนาจและไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในการแก้ไขปัญหาออกมาให้ สัมภาษณ์บิดเบือนเบี่ยงเบน และใส่ร้ายป้ายสีการชุมนุมรายวัน คือพฤติกรรมศรีธนญชัย ตอกย้ำการเล่นเกมการเมืองเพื่อการไม่แก้ไขปัญหา

เราขอเรียกร้องให้รัฐบาล ทบทวนแนวทางนโยบายและพฤติกรรมต่างๆที่ผ่านมาและหันกลับมาเป็นผู้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ด้วยจิตสมานฉันท์

สมัชชาคนจน

1 กันยายน 2543


 สดุดีจิตใจ สืบ นาคะเสถียร

                เนื่องในวันที่ 1 กันยายน  ของทุกปี ประชาชนชาวไทยจำนวนมากได้ร่วมกันรำลึกถึง คุณงามความดีของ คุณสืบ นาคะเสถียร ในด้านต่างๆดังต่อไปนี้

1.ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณสืบ นาคะเสถียร ได้เป็นแบบอย่างที่ดีเลิศของข้าราชการกรมป่าไม้ ที่อุทิศตนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและไม่ ยำเกรงต่ออันตรายใดๆทั้งจากมนุษย์และธรรมชาติ ในการปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้และมวลสรรพชีวิตทั้งหลายที่อาศัยป่าเป็นเครื่อง ยังชีพ

2.การทำงานด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น และความรับผิดชอบที่สูงส่งของ คุณสืบ นาคะเสถียร ได้สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติที่ล้มเหลวของรัฐไทยที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย

3.การเสียสละชีวิตของคุณสืบ นาคะเสถียร เป็นการกระตุ้นจิตสำนึก และมโนธรรมครั้งสำคัญในสังคมไทย ให้ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ ด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งผู้มีอำนาจและระบบราชการที่ล้าหลังเป็นผู้สร้างปัญหา ในขณะเดียวกันการดำรงชีพที่ ขาดการเคารพต่อวิถีของธรรมชาติของมนุษย์สมัยใหม่ ก็เป็นสาเหตุสำคัญในการทำลายป่าไม้อย่างมหาศาล

                สมัชชาคนจนมีความเห็นว่า เจตนารมย์ของคุณสืบ นาคะเสถียร จะต้องได้รับการสืบทอดต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นของชนรุ่นหลัง ทั้งนี้เราไม่อาจปล่อยให้ชะตากรรมของมนุษย์และธรรมชาติต้องตกอยู่ในการกำกับของหน่วยงานรัฐใดในโลกอีกต่อไป ประชาชนในชาติ ต่างๆจะต้องร่วมมือกันในการกอบกู้วิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาการทำลายป่า ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ชุมชนในท้องถิ่นต่างๆจนถึงระดับภูมิภาค ให้อำนาจการตัดสินใจในการใช้ทรัพยากรป่าไม้ ได้รับการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง รอบคอบ จากกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในหลากหลายภูมินิเวศน์ ระบบลุ่มน้ำและภูมิปัญญาของชาวบ้านในท้องถิ่นต่างๆ

                สมัชชาคนจนขอน้อมรำลึกสดุดี คุณสืบ นาคะเสถียร ผู้มีจิตใจกล้าหาญ และเสียสละเพื่อการพิทักษ์ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ และจะเป็นมรดกของมวลมนุษยชาติสืบไป

ด้วยจิตคารวะ

สมัชชาคนจน

1 กันยายน 2543

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา