แถลงการณ์สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนถูกเผา
พวกเราถูกยิง รัด บานผีสิง
ต้องรับผิดชอบ
จากกรณีที่กลุ่มอันธพาลจัดตั้งของ
กฟผ. ได้บุกทุบตี ฟัน ยิง
ชาวบ้านหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 และ 7 ที่ริมสัน
เขื่อนปากมูน อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน
ติดต่อกันถึงวันที่ 20
พฤศจิกายน 2543 ทำให้บ้าน
เรือนจำนวน 580 หลังคาเรือน
โรงเรียน โรงพยาบาล
เรือนรับรอง ร้านค้า
และอนุสาวรีย์ เวที
หอประชุมถูกเผาทำลาย
เป็นเถ้าถ่านทั้งหมด
ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน
สาหัส 3 คน
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและใน
เครื่องแบบที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
แต่ไม่มีการเข้าห้ามปรามการกระทำของกลุ่มอันธพาล
ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ 05.30 น.
ถึงเวลา 19.50 น.
ไม่มีเจ้าหน้าที่ของราชการเข้าควบคุม
และแม้แต่รัฐบาลก็ไม่ได้สั่งการใดๆให้มีการระงับเหตุการแต่
อย่างใด
เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน
โหดร้าย
เหตุการที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า
การเมืองการปกครองของไทยยังอยู่ใน
ยุคมืด
ไม่ได้รับแสงการปฏิรูปการเมืองสาดส่องเข้าถึงแต่อย่างใด
นี่เป็นธาตุแท้ที่เป็นทรรราชย์ทมิฬมารของการเมือง
ไทยที่สวมเสื้อคลุมประชาธิปไตย
และประดับประดาให้สวยงามด้วย
การปฏิรูป
อันเป็นภาพรวมตาหลอกลวง
ประชาชน
ประชาชนที่ใช้สิทธิชุมชนโดยสงบและปราศจากอาวุธตามกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกประการต้องได้รับความ
คุ้มครองจากรัฐบาล
รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของกลไกรัฐดังต่อไปนี้
รัฐบาลต้องนำตัวผู้สั่งการ
ที่มีการวางเพลิง เผาทรัพย์
ทำร้ายร่างกาย
ทำลายทรัพย์สินและไล่ยิงประชาชนมาดำเนิน
คดีโดยด่วน
รัฐบาลต้องดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เข้ามาควบคุมสถานการณ์
รวมทั้งต้องลงโทษพนักงาน
กฟฝ. โดยด่วน
รัฐบาลต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย
ต่อร่างกาย ชีวิต
และทรัพย์สินทั้งค่าทำขวัญอย่างเป็นธรรม
พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรับบาลต้องไถ่ปาบของตนเองที่ทำไว้กับประชาชนโดยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา
ให้คนจนทุกหมู่เหล่า
ขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคประกาศนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เป็นจริงในการแก้ไขปัญหาให้คนจนอย่าง
ชัดเจนเป็นรูปธรรม
สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงและถูกจุด
ให้นายกรัฐมนตรีประกาศขอโทษประชาชน
โดยด่วน
สมัชชาคนจนยืนยันว่าตราบใดที่ปัญหาความเดือดร้อนยังไม่ได้รับการแก้ไข
เรายังต้องเรียกร้อง
ต่อไป
แม้ว่าจะมีการยั่วยุให้เกิดการปะทะหรือใช้กำลังเข้าทำร้ายจนทรัพย์สินเสียหาย
และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาด
เจ็บเพียงใดก็ตาม
เราจะยึดมั่นตามแนวทางสันติวิธีต่อไป
เราขอตั้งปณิธานว่า
เราได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
เราพร้อมที่จะเสียสละ
ไม่กลัวความลำบากและ
ไม่กลัวการกระทำใดๆ
เราจะไม่ยอมศิโรราบให้แก่ทรราชย์เป็นอันขาดไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ลำบากยากเข็ญเพียงใด
แม้ว่าจะเหลืออยู่เพียงคนเดียวเราก็จะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้ความจริงปรากฎต่อสังคม
ให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น
เราจะยึดมั่นในความจริง
คือสัจจะ
เราจะยอมรับความทุกข์ยากเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
คืออหิงสา เราจะ
ใช้ความอดทนต่อการถูกกระทำคือ
ตบะ
ยึดมั่นตามแนวทางสันติวิธี
ด้วยความเชื่อมั่นใจพลังประชาชน
สมัชชาคนจน
20
พฤศจิกายน 2543
|