ลำดับสถานการณ์
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 และ 7 สันเขื่อนปากมูล
19 พ.ย. 2543
เวลา 05.30 น
มีกำลังของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นชายฉกรรจ์
จำนวน 200 คน
ได้เข้ารื้อหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
7 สิ่งปลูกสร้าง (เพิงพักหลังคามุงหญ้าคา) จำนวน 5 หลัง
โดยขณะนั้นมีชาวบ้านอยู่จำนวน
15-20 คน ชาวบ้านสมัชชาคน จน
ที่ชุมนุมอยู่พยายามข้อร้อง
แต่กลุ่มคนดังกล่าวไม่ฟัง
กลับใช้กำลังเข้าผลักดัน
จนทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ
1 คน ต้องหามส่งโรงพยาบาล
กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ใช้ไฟเผาหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
7 ไฟไหม้ทั้งหมด
เวลา 15.00 น
มีกำลังของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
จำนวน มากกว่า 100 คน
เดินมาจากฝั่งสำนักงานเขื่อนปากมูลตรงมา
ที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน 1
ด้านฝั่งขาวของถนนข้ามเขื่อนปากมูล โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้ไล่ให้ชาวบ้านออก
ในทันที
โดยบอกว่าหากชักช้าจะไม่รับประกันความปลอดภัย
ในขณะเดียวกันชาวบ้านได้ข้อร้องกลุ่มคนดังกล่าวว่าอย่า
ทำลายข้าวของและอย่าใช้กำลัง
แต่กลุ่มคนดังกล่าวไม่ฟัง
กลับใช้กำลังเข้าผลักดันจนทำให้ชาวบ้านสมัชชาคนจน
ได้รับบาดเจ็บ
ใครวิ่งหนีไม่ทันก็ถูกทุบตี
พร้อมกันนั้นกลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้ไฟเผาบ้านชาวบ้าน
โดยเผาพร้องกันที่ละ
หลายๆหลัง
มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ
จำนวน 10 กว่าคน
เวลา 16.00 น.
กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนมากกว่า
100
คนได้เดินข้ามถนนมายังฝั่งซ้ายแล้วใช้กำลัง
ไล่ต้อนชาวบ้านให้มาอยู่รวมกัน
อยู่บริเวณลานกลางหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 (หน้าเวที)
และกระจายกำลังจุดไฟเผา
ทั่วทั้งหมู่บ้าน
เวลา 17.30 น.
มีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณรอบๆ
หมู่บ้าน ตุ่มน้ำ หม้อข้าว
ถูกลูกกระสุนเสียหายจำนวน
มาก ชาวบ้านต้องวิ่งหนีไฟ
ไปพร้อมๆ กับหลบลูกปืน
ไฟไหม้ทั่วทั้งหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 มีชาวบ้านสมัชชาคนจน
ได้รับบาดเจ็บจำนวน 20 กว่าคน
มีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 คน
ทุกคนถูกนำส่งโรงพยาบาล อ.โขงเจียม
( มีเสียงปืน ดังเป็นระยะ
จนถึง เวลา 19.30 น.)
เวลา 19.50 น.
ไฟไหม้หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 จำนวน 572 หลังคา
มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 35
คน มีอาการสาหัสจำนวน 3 คน
ชาวบ้านต้องอพยพออกจากหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 ทั้งหมด
โดยย้ายมาอยู่ตรงหมู่บ้าน
หัวเหว ห่างกัน 1.7 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันได้มีรถดับเพลิงมายังที่เกิดเหตุ
แต่ไม่มีการฉีดน้ำดับไฟแต่อย่างใด
และมี
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังที่เกดเหตุ
จำนวน 10 นาย
แต่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ
วันที่ 20
พฤศจิกายน 2543
เวลา 06.00 น.ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มเดิม
ได้จุดไฟเผาหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืนอีกครั้ง
ทำให้บ้าน
เรือนของชาวบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหมด
วันที่
21 พฤศจิกายน 2543
เวลา 16.30 น.ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์
จำนวนมากกว่า 200 คน
ได้เดินมาจากฝั่งสำนักงานโครงการเขื่อนปากมูล
( ฝั่ง อ.สิรินธร )
เดินข้ามเขื่อนตรงมาที่
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
ซึ่งห่างกัน ประมาณ 1
กิโลเมตร พร้อมอาวุธครบมือ (
มีไม้หน้าสาม , มีท่อนเหล็ก )
เดินตรงเข้ามาหาชาวบ้านที่รวมตัวกันอย่างสงบ
( มีชวาบ้านสมัชชาคนจน อยู่ 150
คน )
___________________________________________________________________________________
แถลงการณ์สมัชชาคนจน
จากสถานการณ์ที่มีกลุ่มจัดตั้งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นชายล้วนจำนวนกว่า
100 คนบุกเข้าไปในหมู่บ้าน
แม่มูนมั่นยืนบริเวณสันเขื่อนปากมูลในเวลาประมาณ
15.00 นของวันที่ 19 พฤศจิกายน 2543 และใช้กำลังคุกคาม
ขับไล่ชาวบ้านแล้วทำการจุดไฟเผาบ้านเรือนชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย
รวมทั้งใช้กำลังเข้าทุบตีลุ่มชาวบ้านที่
ขัดขวางการกระทำดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บกว่า
30 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน
นอกจากนี้ยังใช้ปืนยิงรอบๆ
หมู่บ้านอีกด้วย จากสถานการณ์ดังกล่าว
สมัชชาคนจนขอประณามการกระทำอันป่าเถื่อน
ไร้มนุษยธรรม
ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
และกลุ่มจัดตั้งดังกล่าว
ที่ใช้ กำลังเข้าทำร้ายคนจน
โดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม
และกฎหมาย
พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเหิมเกริม
ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่ทำตัวเป็นรัฐอิสระไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
สมัชชาคนจนขอประณามเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปล่อยให้มีการกระทำอันป่าเถื่อนดำเนินไป
โดยไม่มีการส่งเจ้าหน้าตำรวจ
เข้าไปดูแลช่วยเหลือแต่อย่างใด เป็นการพิสูจน์ถึงกลไกอำนาจรัฐที่ไม่เคยปกป้องดูแลคนจนแต่อย่างใด
สุดท้ายนี้สมัชชาคนจนขอยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรม
แม้ว่าจะถูกกระทำอย่างป่าเถื่อนก็ตาม เพื่อพิสูจน์ความเดือด
ร้อน
ทุกข์ยากของเราที่เกิดจากการพัฒนาของรัฐให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจต่อไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมใน
ที่สุด
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน
19 พฤศจิกายน 2543
________________________________________________________________________________________
ที่ สคจ.พิเศษ / 25423
20 พฤศจิกายน 2543
เรื่อง ลงพื้นที่
ดูสภาพหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 สันเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม
จ.อุบลราชธานี ที่ถูกเผา
เรียน เชิญสื่อมวลชน ทุกท่าน
ทุกแขนง
นับตั่งแต่วันที่ 23
มีนาคม 2542
ที่สมัชชาคนจนได้รวมตัวกันที่สันเขื่อนปากมูล
เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
โดยได้ก่อตั้งหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1
โดยยึดมั่นการเรียกร้องตามแนวทางสันติวิธีมาตลอด
ภายหลังรัฐบาลได้แต่งตั้ง
คณะกรรมการกลางแก้ไขปัญหา 16
กรณีปัญหาสมัชชาคนจน
วันที่ 11 กรกฎาคม 2543
สมัชชาคนจนได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติคณะ
กรรมการกลาง
ที่ได้สรุปปัญหาและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้รัฐบาล
เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
รัฐบาล
กลับความรุนแรงเข้าแก้ไขปัญหา
โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม
หน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่
16-17 กรกฎาคม 2543
และยัดเหยียดข้อหาให้กับชาวบ้าน
225 คน และรัฐบาลยังได้บิดเบียนข้อเท็จจริงอยู่ตลอดเวลา
โดย
กล่าวหาว่ารัฐบาลได้แก้ไขปัญหาให้แล้ว
แต่สมัชชาคนจนเรียกร้องในสิ่งที่ผิดกฎหมาย
ทั้งที่ความจริงยังไม่มีการ
แก้ไข ปัญหาแม้แต่กรณีเดียว
สมัชชาคนจนพยายามติดต่อประสานงาน
เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
แต่ไม่เคยได้รับความร่วมมือ
แม้แต่ครั้งเดียว วันนี้ (19 พ.ย. 2543)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้เกณฑ์ชายฉกรรจ์มากกว่า
100 คนเข้าไปไล่ทุบตีชาวบ้าน
และเผาหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1
พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 ถูกเผาทั้งสิ้น จำนวน 572
หลังคาเรือน
และมีชาวบ้านบาดเจ็บจำนวน 32
คน และอีก 3 คนอาการสาหัส
เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีหน่วยงานราชการส่วนใดมาดูแล
หรือยับยั้งเหตุการณ์แม้แต่คนเดียว
เพื่อให้ความจริงได้ปรากฏต่อสังคม
สมัชชาคนจนจึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนทุกท่าน
ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ
และโทรทัศน์ ลงดูพื้นที่
ที่ถูกเผาเพื่อได้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
โดยมีกำหนดการดังต่อไปนี้
วันที่ 20 พ.ย. 2543 เวลา 18.00 น. ออกเดินทางจากหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
8
วันที่ 21 พ.ย. 2543 เวลา 07.00 น. 17.00 น.ถึงพื้นที่ ดูพื้นที่ที่ถูกเผาและชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บเวลา 18.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพ
ฯ
หมายเหตุ ผู้สื่อข่าวที่จะร่วมเดินทางด้วยในครั้งนี้
กรุณาแจ้ง ที่ เบอร์ 01-3931512
ภายในเวลา 17.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 2543 ( เดินทางโดยรถตู้
รถจอดที่
ที่ชุมนุมหน้าทำเนียบ )
|