eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

แถลงการณ์

คืนสันติภาพให้ประชาชาติ คืนธรรมชาติให้ประชาชน

                นับตั้งแต่การทดลองเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลสุดบานประตู เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๔๔ เพื่อศึกษา การฟื้นฟูลุ่มน้ำมูน  ปลาจำนวนมากได้กลับคืนสู่ลุ่มน้ำมูนที่ประกอบด้วยลุ่มน้ำสาขา ป่าบุ่งป่าทาม  เกาะแก่ง  อันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย  ที่หากิน ในช่วงฤดูอพยพของทุกปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนสองฝั่งแม่น้ำมูนก็กลับฟื้นคืนมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน  แต่ กฟผ.ก็ได้ทำการปิดประตูน้ำทั้ง ๘ บาน อีกครั้งหนึ่งในวันที่ ๖ ตุลาคม ๔๔ โดยมิได้มีการบอกกล่าวหรือให้สัญญาณใด ๆ ล่วงหน้า ผลก็คือ ปลาจำนวนมากที่กำลังอพยพกลับลงสู่แม่น้ำโขงตามฤดูกาลได้ตายไปเป็นจำนวนมาก เรือประมงนับร้อย ๆ ลำ เครื่องมือประมงหลายขนาดหลายชนิดเสียหายโดยที่ปราศจากผู้รับผิดชอบแต่อย่างใด นโยบายการฟื้นฟูลุ่มน้ำมูนเป็นเพียงลมปาก เป็นการซื้อเวลา ไม่มีความจริงใจใด ๆ จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

                และเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๔ สหรัฐอเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามกับรัฐบาลตาลิบันของประเทศอาฟกานิสถาน อันจะเป็นชนวนสำคัญที่จะก่อให้เกิดสงครามลุกลามบานปลายไปทั่วโลก สมัชชาคนจนถึงแม้ไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย แต่การทำสงครามก็ไม่ใช่คำตอบของเสถียรภาพ สันติภาพที่ถาวรแต่อย่างใด เราประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน ก็ล้วนแต่ประสบสงครามในชีวิตประจำวัน จากผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งกว่า ทำศึกแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการดำรงชีวิตของพวกเรา พรากครอบครัวอันอบอุ่น นำความอดอยากหิวโหยมาสู่ลูกหลานของพวกเรา แม้จนกระทั่งปัจจุบัน กฟผ.ก็ยังกระทำการบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ตนใช้อำนาจเงินซื้อมา จัดตั้งกลุ่มมวลชนต่าง ๆ ให้ปะทะกันเอง ปลุกระดมให้เกิดการแตกแยกร้าวฉานในชุมชนต่าง ๆ ทั่วลำน้ำมูน การตัดสินใจเดินเท้าด้วยระยะทางกว่า ๗๐๐ กม. เข้า กทม.ในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการสันติวิธีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ยุติการก่อสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ

                สมัชชาคนจนขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและประชาชนไทย ประชาชนทั่วโลก ดังต่อไปนี้

๑.ยุติสงครามแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติที่รัฐและทุนกระทำต่อประชาชน และหรือประเทศที่เข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการทหารกระทำต่อรัฐและประชาชาติที่อ่อนแอกว่า

๒.ยุติการกดขี่ข่มเหงที่รัฐ กฟผ. และหน่วยงานเจ้าของโครงการเขื่อนต่าง ๆ กระทำต่อประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาโดยตลอด

๓.คืนธรรมชาติที่สมบูรณ์ให้กับประชาชนด้วยการเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล เขื่อนราษีไศล อย่างถาวร รวมทั้งชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากโครงการอย่างยุติธรรม

๔.สร้างสันติภาพ และความเป็นธรรมอย่างถาวรในสังคมไทย และสังคมโลก ด้วยความเคารพในการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกเผ่าพันธุ์ ในการกำหนดนโยบายการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเท่าเทียมกัน

  สมัชชาคนจน

๙ ตุลาคม ๒๕๔๔

  ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

กำหนดการการเคลื่อนขบวน “เดินเท้าทางไกลเพื่อคืนสันติภาพสู่ประชาชาติ คืนธรรมชาติสู่ประชาชน”

 

 ๐๗.๓๐ น.                อาสาสมัคร และชาวบ้านหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืนรวมตัวกันที่หน้าเวทีวัฒนธรรมหมู่บ้าน

๐๘.๐๐ น.                พิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อต่อแขนผู้เดินเท้าทางไกล

๐๘.๓๐ น. พิธีกรรม                    -สวดมนต์ไหว้พระ สวดอิติปิโสฯ

                                                                -ประกาศเจตนารมย์

                                                                -สมาธิ

                                                                -ปล่อยนกพิราบสู่ท้องฟ้า

๐๙.๐๐ น.                  -รับน้ำไชยมงคลจากพระสงฆ์

-เคลื่อนขบวนออกจากหมู่บ้านแม่มูนฯ

หมายเหตุ                  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯจะเดินทางเข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ และร่วมส่งขบวนเดินเท้าด้วย

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา