eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

แถลงการณ์สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ

ฉบับหยุดใช้อำนาจรัฐเผด็จการตามมติเมตตาทัณฑ์ ด้วยความรุนแรง ปราบปรามการชุมนุมของคนจน

18 กันยายน 2545 ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

ตามที่นายชัยสิทธิ์ โหตระกิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 300 นายเข้าสลายการชุมนุมสมัชชาคนจนที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลฯ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทั้งระดับนโยบาย คือกรณีให้มีการเปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวรเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและชุมชน และกรณีที่นายทุนท้องถิ่นบุกรุกที่ดินสาธารณะของชุมชนบ้านดอนคำพวง ซึ่งเป็นเกาะกลางแม่น้ำมูน ที่ชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษามาหลายชั่วอายุคน ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.พิบูลมังสาหารใต้แก่งสะพือลงไปและก็ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาจนกระทั่งปัจจุบัน จากการดำเนินการอย่างเด็ดขาดของจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเวลา 06.00น.ของเช้าวันที่ 18 กันยายน 2545 ในการเข้าสลายผู้ชุมนุมกลุ่มสมัชชาคนจนที่ทุกข์ยากเข้ามาหลบฝนเพื่อขอเข้าอาศัยเพิงพักพักชั่วคราวในศาลากลางจังหวัดครั้งนี้ จนเป็นเหตุได้รับความบาดเจ็บหลายสิบคนนั้น สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ในนามเครือข่ายองค์กรประชาชนผู้ร่วมชะตากรรมจากการพัฒนาและนโยบายที่ลำเอียงแห่งรัฐขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้อง ต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้

1.เราขอประนามการใช้อำนาจความรุนแรงของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่อ้างว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมายกีดขวางทางจราจรและอ้างมติคณะรัฐมนตรีเผด็จการเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2545 เรื่องหลักการและแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในการชุมนุมเรียกร้อง เข้าสลายความทุกข์ยากของประชาชนอย่างป่าเถื่อนและโง่เขลา ทั้งนี้เพราะมติดังกล่าวได้การปรับปรุงใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 ว่า กรณีการใช้หลักเมตตาธรรม นั้นต้องตั้งสมมุติฐานก่อนว่า ผู้ชุมนุมเรียกร้องมีความเดือดร้อนและมีความทุกข์จริงๆ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีความเดือดร้อนและมีความทุกข์ตามข้อเรียกร้องจริงหรือ ถ้ามีจริงก็ต้องให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่

2.จากเหตุการณ์ปราบปราบประชาชนดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ผู้ว่าราชาการจังหวัดอุบลราชธานี มิเพียงหน้ามืดตามัวหลงอำนาจบาตรใหญ่ ไม่ทราบว่าพี่น้อง สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล มีความเดือดร้อนจริงและต้องการให้ราชการระดับท้องที่ และรัฐบาลส่วนกลางมาแก้ไขปัญหาให้ตามข้อเรียกร้อง ทั้งๆที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศและประชาคมทั่วโลก รับทราบเป็นปัญหาอย่างดีว่า โครงเขื่อนปากมูลเป็นความผิดพลาดและล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงจนพี่น้องสมัชชาคนจนต้องชุมนุมเรียกร้องอีกครั้ง เพื่อให้รัฐบาลตัดสินใจที่จะเปิดเขื่อนปากมูลอบย่างถาวรตามผลการศึกษาของนักสิ่งแวดล้อม นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน ทั่วโลก

3.ในกรณีนายทุนบุกรุกที่ดินสาธารณะบ้านดอนคำพวง ซึ่งสมัชชาคนจนก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้จังหวัดอุบลฯ จัดการกับผู้กระทำผิดมาเป็นเวลากว่า 1 ปีเศษ แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ กลับมีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่องโดยผู้บุกรุกที่เป็นกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลจากกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่ธรรมเสมือนการดำเนินการกับพี่น้องชาวนากรณีจังหวัดลำพูนที่ตำรวจเลือกจับกุมชาวนาอย่างบ้าคลั่ง แต่เลือกปฏิบัติต่อนายทุนและข้าราชการที่ฉ้อฉลอย่างพินอบพิเทาด้วยการไม่ดำเนินการเอาผิดแต่ประการใด

4.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อลงโทษการใช้อำนาจมิชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี โดยเร่งด่วน และต้องทบทวนยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2545 ที่เปิดไฟเขียวให้ราชการปราบปรามประชาชนเช่นนี้ โดยเด็ดขาดทันที

5.เราขอเรียกร้องให้นายกมนตรี ได้ตระหนักและทบทวนคำนึงถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับสมัชชาคนจนเมื่อ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2544 หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เดินลงมาเปิบข้าวเหนียวกับสมัชชาคนจนหน้าทำเนียบพร้อมประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาคนจนว่า

“รัฐบาลต้องรับฟังปัญหา และการแก้ไขปัญหา ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์รวมกับนิติศาสตร์ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไป และแก้ปัญหาที่ระบบโครงสร้าง ถ้าแก้ตามกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราจะแก้ไม่ได้เลย กฎหมายจะต้องไม่ใช่ข้อจำกัดในการแก้ปัญหา ถ้าเมื่อไหร่ กฎหมายไม่เป็นธรรมเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหา ต้องถือว่ากฎหมายใช้ไม่ได้ การแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้มีผลกระทบมาจากภาคราชการรอบรู้ไม่เท่าทันสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงขาดความรู้ความเข้าใจข้อเท็จจริง”

เราเห็นว่า การใช้ความรุนแรงของผู้ว่าราชการจังหวัดต้องการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ รัฐบาลจะต้องแสดงรับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด เพราะถือว่ารัฐบาลได้รับทราบปัญหากรณีดังกล่าวเป็นอย่างดี ทั้งนายกรัฐมนตรีเองก็เคยลงไปในพื้นที่และได้ให้คำมั่นสัญญาต่อพี่น้องสมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูลด้วยตนเองมาแล้ว และเราขอยืนยันว่าให้การสนับสนุนและร่วมผลักการแก้ไขปัญหาของพี่น้องสมัชชาคนจนในการชุมนุมเรียกร้อง จนกว่าการแก้ไขปัญหาจักแล้วเสร็จ

 

ด้วยจิตสมานฉันท์และศรัทธาในพลังประชาชน

แถลงโดยสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ

กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ (นกน.).

เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ (คกน.)

เครือข่ายป่าชุมชนลุ่มน้ำแม่สอย (คมส.)

เครือข่ายป่าชุมชนลุ่มน้ำแม่มอก (คปม.)

เครือข่ายป่าชุมชนลุ่มน้ำแม่ถอด (คมถ.)

เครือข่ายป่าชุมชนภาคเหนือ (คปช.)

เครือข่ายประสานงานเกษตรกรเชียงราย (คปก.ชร.)

เครือข่ายประสานงานเกษตรกรพะเยา (คปก.พย.)

เครือข่ายสตรีชนบทเชียงราย-พะเยา (คสช.)

สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย

เครือข่ายเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทย

กลุ่มผู้เดือดร้อนจากโรงงานถ่านหินลิกไนต์ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง

กลุ่มผู้เดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่มอก จังหวัดลำปาง

กลุ่มผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์โรงอบลำใยระเบิดสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา