eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

แถลงการณ์ กรณีเขื่อนปากมูล

สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ และเครือข่ายองค์กรสมาชิก

หยุดพฤติกรรมเผด็จการ หยุดปราบปรามข่มเหงคนจนด้วยความรุนแรง


ตามที่นายชัยสิทธิ์ โหตระกิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 300 นาย เข้าสลายการชุมนุมของสมัชชาคนจนที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลฯ ซึ่งชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทั้งระดับนโยบาย กรณีให้มีการเปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวรเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและชุมชน และกรณีที่นายทุนท้องถิ่นบุกรุกที่ดินสาธารณะของชุมชนบ้านดอนคำพวง ซึ่งเป็นเกาะกลางแม่น้ำมูน ที่ชาวบ้านช่วยกันดูแลรักษามาหลายชั่วอายุคน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาจนกระทั่งปัจจุบัน

การดำเนินการอย่างป่าเถื่อนของจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเช้ามืดวันที่ 18 กันยายน 2545 โดยการเข้าสลาย ขับไล่ ทุบตี ผู้ชุมนุมกลุ่มสมัชชาคนจนที่เข้ามาหลบฝนเพื่อขอเข้าอาศัยเพิงพักชั่วคราวในศาลากลางจังหวัด จนเป็นเหตุได้รับความบาดเจ็บหลายสิบคนนั้น  พวกเราสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้และเครือข่ายองค์กรสมาชิกทั้ง 13 จังหวัดในภาคใต้ ในนามเครือข่ายองค์กรประชาชนผู้ร่วมชะตากรรมจากการพัฒนาและนโยบายที่ลำเอียงแห่งรัฐ ขอแถลงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้

1. เราขอประนามการใช้ความรุนแรงของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่อ้างว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมายกีดขวางทางจราจร และอ้างมติคณะรัฐมนตรีเผด็จการ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2545 เรื่องหลักการและแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในการชุมนุมเรียกร้อง เข้าสลายการชุมนุมของประชาชนอย่างป่าเถื่อนและโง่เขลา ทั้งนี้เพราะมติดังกล่าวได้การปรับปรุงใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 ว่า กรณีการใช้หลักเมตตาธรรม นั้นต้องตั้งสมมุติฐานก่อนว่า ผู้ชุมนุมเรียกร้องมีความเดือดร้อนและมีความทุกข์ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ ข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีความเดือดร้อนและมีความทุกข์ตามข้อเรียกร้องจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงก็ต้องให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่  ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้ก็ยังไม่ปรากฎว่าดำเนินการตามหลักเมตตาธรรมแต่ประการใด

2. เราขอประณามพฤติกรรมเลือกปฏิบัติของรัฐ  ในกรณีนายทุนบุกรุกที่ดินสาธารณะบ้านดอนคำพวง ซึ่งสมัชชาคนจนก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้จังหวัดอุบลราชธานี จัดการกับผู้กระทำผิดมาเป็นเวลากว่า 1 ปีเศษ แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่องโดยผู้บุกรุกที่เป็นกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลจากกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่ธรรม  เสมือนการดำเนินการกับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านกรณีจังหวัดกระบี่ ที่ถูกนายอำเภอเมืองกระบี่และกองกำลัง บุกเข้าไปเผาทำลายกระท่อมที่พักอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับปล่อยปละละเลยต่อนายทุนที่บุกรุกเขตอุทยานและที่สาธารณะ อย่างพินอบพิเทาด้วยการไม่ดำเนินการเอาผิดแต่ประการใด

3. ความรุนแรงที่รัฐกระทำต่อคนจนผู้ทุกข์ยากในครั้งนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ดำเนินนโยบายอย่างหน้าซื่อใจคด และเข้าใกล้ความเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบไปทุกขณะ ด้วยการเปิดไฟเขียวให้ข้าราชการปราบปรามประชาชน รวมทั้งพยายามออกระเบียบ กฎหมายต่างๆ เพื่อกีดกัน เอาผิดประชาชนที่ชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540

4. นายกรัฐมนตรีไม่ควรกระบัตสัตย์ที่เคยให้ไว้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2544 หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับนโยบายแก้ไขปัญหาคนจนว่า "รัฐบาลจะรับฟังปัญหา และการแก้ไขปัญหาต้องใช้หลักรัฐศาสตร์รวมกับนิติศาสตร์ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไป และแก้ปัญหาที่ระบบโครงสร้าง ถ้าแก้ตามกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราจะแก้ไม่ได้เลย กฎหมายจะต้องไม่ใช่ข้อจำกัดในการแก้ปัญหา ถ้าเมื่อไหร่ กฎหมายไม่เป็นธรรมเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหา ต้องถือว่ากฎหมายใช้ไม่ได้ การแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้มีผลกระทบมาจากภาคราชการรอบรู้ไม่เท่าทันสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงขาดความรู้ความเข้าใจข้อเท็จจริง"
 
การใช้ความรุนแรงของผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยการสลายการชุมนุมในครั้งนี้  รัฐบาลจะต้องแสดงรับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด เพราะถือว่ารัฐบาลได้รับทราบปัญหากรณีดังกล่าวเป็นอย่างดี ทั้งนายกรัฐมนตรีเองก็เคยลงไปในพื้นที่และได้ให้คำมั่นสัญญาต่อพี่น้องสมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูลด้วยตนเองมาแล้ว และเราขอยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนและร่วมผลักดันการแก้ไขปัญหาของพี่น้องสมัชชาคนจนในการชุมนุมเรียกร้องอย่างสันติต่อไป


ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน
ด้วยจิตสมานฉันท์และศรัทธาในพลังประชาชน

สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ และเครือข่ายองค์กรสมาชิก
19 กันยายน 2545

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา