แถลงการณ์สมัชชาคนจน
ลอยกระทงเขื่อนปากมูล
ขอขมาต่อแม่น้ำ
ลุ่มน้ำมูนนับเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่
นับเป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชนชาวอีสานมาหลายพันปี
แม่น้ำมูนเป็นเส้นทางอาหารปลาที่เข้ามาจากแม่น้ำโขง
คนทั้งลุ่มน้ำนับแสนครอบครัวได้ใช้ประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำสายนี้
การสร้างเขื่อนปากมูล นับเป็นการกระทำผิดอย่างรุนแรงต่อแม่น้ำและคนในลุ่มน้ำมูนเพราะการสร้างเขื่อนปากมูลคือการ
ตัดเส้นทางอาหารปลาของคนอีสาน
เนื่องจากปลาไม่สามารถข้ามเขื่อนเข้ามายังแม่น้ำมูนได้
นอกจากเขื่อนนี้ยังทำให้แม่น้ำที่เคยไหลกลับหยุดนิ่งทำให้น้ำเน่าเสีย ตกตะกอน
ระบบนิเวศของแม่น้ำเปลี่ยนไป
เช่น แก่ง ขุม วัง เวิน
ที่เป็นแหล่งอาศัย วางไข่
และแหล่งอาหารของปลา
เกิดการอุดตัน ตื้นเขิน
เมื่อรัฐบาลสั่งให้มีการทดลองเปิดเขื่อนปากมูล
1 ปี เมื่อปี 2544 ที่ผ่านมา
นับเป็นการชุบชีวิตของคนลุ่มน้ำมูนอีกครั้งหนึ่ง
หลายแสนครอบครัวมีโอกาสได้เข้าถึงความสมบูรณ์ของแม่น้ำ
อย่างเท่าเทียมตามแต่ความสามารถของบุคคล
การเปิดเขื่อนได้เป็นบทพิสูจน์ถึงความเสียหายอันเกิดจากการทำลายแม่น้ำนี้ตลอดเวลากว่า
10 ปีที่ผ่านมา
ต่อมารัฐบาลได้ มติครม.เมื่อวันที่
1 ตุลาคม 2545
มีมติให้เปิดเขื่อนปากมูล
เพียง 4 เดือน ใน 1ปี
ซึ่งสมัชชาคนจนเห็นว่า
เป็นการตัดสินใจให้กลับไปซ้ำรอยเดิมคือชาวบ้านต้องเดือดร้อน
อดอยาก ทุกข์ยาก
ไม่สามารถทำมาหากินได้
อีกครั้งหนึ่ง มติ ครม.1
ตุลาคม
จะส่งผลถึงความเสียหายอย่างร้ายแรงในอนาคต
ความสมบูรณ์ต่างๆ
จะไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้เลย
รวมทั้งชีวิตคนด้วย
ในวันนี้
สมัชชาคนจนจะร่วมลอยกระทง
เพื่อ
เป็นการขอขมาต่อแม่น้ำ
เพราะเชื่อว่า
แม่น้ำมีบุญคุณอย่างยิ่งใหญ่ต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
เมื่อกระทำสิ่งใดที่เป็นการทำลายแม่น้ำก็คือการทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ด้วย
นอกจากนี้สมัชชาคนจน
จะได้การลอยความทุกข์เศร้าทั้งหลายในชีวิตนนี้ให้ไปกับสายน้ำด้วย
ด้วยจิตคารวะ
19
พฤศจิกายน 2545
|