แถลงการณ์
แก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลฤารัฐจะมีทางเลือกเพียงการใช้ความรุนแรงเท่านั้น
จากเหตุการณ์
การบุกเข้ารื้อเต็นท์ที่พักของชาวบ้านสมัชชาคนจน
กลุ่มเขื่อนปากมูล
ขณะที่ชาวบ้านทั้งหมดกำลังพักนอนอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
เมื่อเวลา ๐๓.๒๐ ของวันที่ ๕
ธันวาคม ๒๕๔๕ นั้น
นับเป็นการปฏิบัติการที่อุกอาจ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับสถานที่ที่สำคัญที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดี
ทั้งทำเนียบรัฐบาล
และรัฐสภา
รวมไปถึงพระบรมมหาราชวังด้วย
และในบริเวณดังกล่าวยังปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรง โดยปล่อยให้กลุ่มวัยรุ่น
ชายฉกรรจ์กว่า ๓๐ คน พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าทำลายข้าวของ
และที่อยู่อาศัยของชาวบ้านที่เพียงมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐบาล ให้สามารถใช้วิถีชีวิตได้อยู่อย่างสงบสุข และการชุมนุมที่ผ่านมากว่า
๑
เดือนของชาวบ้านก็อยู่อย่างสงบสันติมาโดยตลอด
หากแต่การชุมนุมของชาวบ้านสิ่งที่ได้รับคือการข่มขู่คุกคามตลอดเวลาและในทุกรูปแบบ
ดังเช่นที่ผ่านมากรณีการบุกเข้าเผาทำลายหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
และทำร้ายชาวบ้าน
ไม่เว้นแม้แต่คนแก่และเด็ก
ที่สันเขื่อนปากมูลในปลายปี 2542 การใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุบลฯ
และล่าสุดในเช้าตรู่ของวันที่
๕ ธ.ค.ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
นับเป็นความรุนแรงและโหดร้ายอย่างยิ่งที่ฝ่ายรัฐได้กระทำต่อคนจนผู้เพียงต้องการความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหา
ความรุนแรงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าเกิดขึ้นกับสมัชชาคนจน ในขณะที่การแก้ไขปัญหายังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
มีเพียงการสัญญาลมๆ แล้งๆ และความโหดร้ายในครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าเกิดจากการร่วมมือกันของฝ่ายรัฐที่พยายามปกปิดบ่ายเบี่ยงที่จะไม่แก้ไขปัญหา
การกระทำต่อคนจนดังกล่าวนับเป็นการดูหมิ่น
เหยียดหยาม คุกคามศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทั้งได้ร่างกายและจิตใจอย่างเห็นได้ชัด
สมัชชาคนจนจึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาล
ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโดยตรง
ดังต่อไปนี้
๑.ให้รัฐบาลเร่งเปิดเจรจากรณีการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
โดยด่วน
๒.เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
รัฐบาลจะต้องพิจารณายอมรับเงื่อนไขในหลักวิชาการ
ในการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลอย่างถาวร
เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ
ชุมชนของคนลุ่มน้ำมูน
๓.ให้ชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการใช้ความรุนแรง ต่อชาวบ้านทั้งที่หน้าทำเนียบรัฐบาลและการที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
และในวันที่ ๖
ธันวาคม ๒๕๔๕ นี้ สมัชชาคนจน
จะเดินทางไปขอความเป็นธรรมที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เนื่องจากรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน
๕ ธันวาคม ๒๕๔๕
ทำเนียบรัฐบาล
|