แถลงการณ์สมัชชาคนจน
สร้างหอประชุมศาลารวมใจ
ต้อนรับการเจรจาอย่างโปร่งใสของนายกรัฐมนตรี
วันอาทิตย์ที่
๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ ณ
ทำเนียบรัฐบาล
ตามที่ศูนย์บริการประชาชน
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้มีหนังสือถึงราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างเขื่อนปากมูล
ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๕
เพื่อเชิญราษฎรจำนวน ๓๐ คน
เข้าร่วมประชุมในวันศุกร์ที่
๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๕
และนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ
นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
ทางคลื่นวิทยุ F.M.๙๒.๕
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่าจะเชิญตัวแทนราษฎรที่เดือดร้อนจริงประมาณ
๓๐
คนมาคุยกันที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อจะรับฟังข้อเท็จจริงคืออะไร
นั้น
จากข้อมูลทั้งสองแหล่งที่สมัชชาคนจนได้รับ
เสมือนว่ารัฐบาลได้เปิดโอกาสให้คนจนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
แต่ในความเป็นจริงสมัชชาคนจน
ได้รับรู้เพียงว่าให้ราษฎร
๓๐
คนเข้าไปหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น
ส่วนจะหารือในประเด็นไหน
กับใครบ้างนั้นยังไม่ได้รับทราบเลยแม้แต่น้อย
และที่สำคัญการเรียกร้องให้เปิดประตูเขื่อนปากมูลตลอดปี
อย่างถาวรนั้น
เป็นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศน์ของแม่น้ำมูนให้คืนสู่ความอุดมสมบูรณ์
ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ
โดยเฉพาะชาวอีสานที่พึ่งพิงแม่น้ำมูนเป็นฐานในการดำรงชีวิต
นอกจากนั้น
กรณีเขื่อนปากมูล
เป็นปัญหาที่มีความขัดแย้งมายาวนานนับ
๑๐ ปี
และผ่านกระบวนการแก้ไขปัญหามาหลายรูปแบบ
โดยบุคคล
และหน่วยงานหลายฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม
แต่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ
ไม่ยอมรับความเดือดร้อนของชาวบ้าน
การแก้ไขปัญหาจึงไม่เกิดขึ้น
จนกระทั่งรัฐบาลปัจจุบันได้ตัดสินใจทดลองเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลและทำการศึกษาผลจากการเปิดประตูระบายน้ำ
โดยใช้งบประมาณ ๑๐.๒ ล้านบาท
ให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีทำการศึกษา
เพื่อใช้ขบวนการทางวิชาการในการเก็บรวบรวม
ตรวจสอบ
สังเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน ซึ่งผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีระบุชัดเจนว่า
การเปิดประตูน้ำตลอดปีคือทางเลือกการแก้ไขปัญหาที่เกิดประโยชน์กับการฟื้นฟูทรัพยากรและชุมชน การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล
จึงไม่ใช่เรื่องของคนเฉพาะกลุ่ม
ที่จะซุบซิบตัดสินใจ ที่จะต้องมาถกเถียงหาข้อเท็จจริงกันใหม่
แต่จะต้องยึดหลักวิชาการและเป็นขบวนการแก้ปัญหาอย่างโปร่งใสและสาธารณะตรวจสอบได้
ดังนั้นสมัชชาคนจน
จึงได้สร้างหอประชุมศาลารวมใจขึ้นเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล
ตามเจตนารมย์ของนายกรัฐมนตรี
ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ ๒๐
ธันวาคมนี้
โดยพื้นที่ดังกล่าวนอกจากจะทำให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบได้รับฟังการเจรจาอย่างทั่วถึงแล้ว
ยังเป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถนำเสนอข่าวสารต่อสาธารณะชนได้อย่างละเอียด
และผู้ที่สนใจก็สามารถเข้ารับฟังได้ด้วยตนเอง
สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี
เปิดการเจรจาแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล
ด้วยความโปร่งใส ณ
ศาลารวมใจของสมัชชาคนจน
และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมบริจาค
ปัจจัยในการก่อสร้างศาลารวมใจ
ให้เสร็จสิ้นทันการเจรจาแก้ไขปัญหาในวันศุกร์ที่
๒๐ ธันวาคม ศกนี้
ด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน
สมัชชาคนจน
|