จดหมายเปิดผนึก
ที่
พิเศษ / 2543
31
พฤษภาคม 2543
เรื่อง
หยุดร่วมกันสร้างสถานการณ์ใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านปากมูล
เรียน
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายชวน
หลีกภัย)
ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
สิ่งที่ส่งมาด้วย
:
เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน
กรณี กฟผ.และผวจ.อุบลราชธานีสร้าง
สถานการณ์เพื่อใช้ความรุน
แรงสลายการชุมนุมของชาวบ้านที่สันเขื่อนปากมูล
จากการที่
กฟผ.และจังหวัดอุบลราชธานีออกประกาศเตือนประชาชน
ถึงเรื่องการชุมนุมของชาวบ้านที่สันเขื่อนปากมูลได้ทำให้เจ้า
หน้าที่กฟผ.ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้
จึงมีเหตุให้ต้องหยุดเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าทั้ง
หมด 4 เครื่อง
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อน้ำที่เอ่อล้นท่วมและไฟฟ้าดับในเขตจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งเป็นเรื่องที่
โกหกหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ
ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลและประชาชนได้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับสูงเพื่อพิจารณา
แก้ไขปัญหา แต่ทางฝ่าย กฟผ.และจังหวัดอุบลราชธานีได้ออกประกาศที่หลอกลวงโลก
เราเห็นว่าการกระทำดังกล่าวจะคิดเป็นอื่นไป
ไม่ได้ถ้าไม่ใช่การสร้างเงื่อนไขเพื่อหาช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของชาวบ้านที่สันเขื่อนปากมูล
จึงขอเรียกร้องดังนี้
1. การพลังงานต้องอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรอิสระ
2. หยุดสร้างสถานการณ์และบิดเบือนข้อเท็จจริง
3. ให้จังหวัดยุติบทบาทใดๆ
ทั้งสิ้นในการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล
ทั้งนี้ถ้าหากว่าไม่หยุดสร้างสถานการณ์เพื่อใช้ความรุนแรง
มิฉะนั้นทุกพื้นที่ของ กฟผ.จะพบกับความรุนแรงที่คาดไม่ถึงเช่นกัน
จึงเรียนมาเพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องดังกล่าว
ขอแสดงความนับถือ
(นายอกนิษฐ์
ป้องภัย)
ผู้ประสานงานเครือข่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอีสาน
**************************************************************************************
เอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน
กรณี
กฟผ.และ ผวจ.อุบลราชธานีสร้างสถานการณ์เพื่อใช้ความรุนแรง
สลายการชุมนุมของชาวบ้านที่สันเขื่อนปากมูล
จากการที่จังหวัดอุบลราชธานีได้ออกประกาศให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมและไฟฟ้าดับในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้
เคียง
สาเหตุอันเนื่องมาจากการชุมนุมของชาวบ้านที่สันเขื่อนปากมูล
ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน
ดังนี้
1. เขื่อนปากมูลได้ปักหลักเสาระดับ
108 เมตร รทก.(ระดับน้ำทะเลปานกลาง)
ซึ่งเป็นระดับเก็บกักน้ำสูงสุดของเขื่อนตามที่ระบุ
ไว้ในเอกสารโครงการ
ถ้าน้ำจะท่วมก็คือระดับน้ำต้องสูงกว่าระดับ
108 เมตร รทก.
ซึ่งขณะนี้เราพบว่าระดับน้ำยังไม่ถึง
108 เมตร รทก.
และในทางเทคนิคหากระดับน้ำเกิน
108 เมตร รทก.
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็จะต้องเปิดประตูน้ำให้น้ำไหลผ่านออก
ไปเพื่อรักษาระดับน้ำไม่ให้เกิน
108 เมตร รทก.
ถ้าดันทุรังเก็บกักน้ำไว้ให้เกิน
108 เมตร รทก. ก็แสดงว่า กฟผ.ขาดความรับ
ผิดชอบ
เพราะฉะนั้นจะใช้น้ำเพื่อปั่นไฟหรือไม่ได้ปั่นไฟก็ตาม
กฟผ.จะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบถ้าหากน้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่
เกษตรกรรม
กระชังปลาและบ้านเรือนริมฝี่งแม่น้ำมูลของราษฎร
2. ในส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนปากมูลนั้น
กฟผ.ได้วางเป้าหมายให้เขื่อนปากมูลทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงที่มี
ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของแต่ละวัน
โดยกำลังการผลิตเท่ากับ136
เมกะวัตต์ (ปีละ 280 ล้านหน่วย)
และหากจะเปรียบ
เทียบเป็นสัดส่วนจะพบว่ากำลังการผลิตจากเขื่อนปากมูลจะเท่ากับร้อยละ
0.7 ของกำลังการผลิตทั้งหมด
และสามารถผลิต
ไฟฟ้าได้เพียงร้อยละ 0.3
ของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งประเทศเท่านั้น
จากข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารที่จัดทำโดยกองสถิติการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของ
กฟ ผ. พบว่า ในฤดูร้อนซึ่งเป็น
ช่วงที่มี
ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด
เขื่อนปากมูลกลับผลิตไฟฟ้าได้น้อยมากคือ
ประมาณ 5 ล้านหน่วยเท่านั้น
หรือมีกำลังผลิตเพียง 40
เมกะวัตต์จากทั้งหมด 136
เมกะวัตต์ (ไม่เพียงพอให้ใช้สำหรับสำนักงานและบ้านพักของ
กฟผ.เสียอีก) และข้อมูลในปี 2540
จะปรากฏว่าเขื่อนปากมูลผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง
300.99 ล้านหน่วย แต่ทว่า
ส่วนใหญ่ผลิตได้ในช่วงฤดูฝน
ซึ่งมิ
ใช่ช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี
นั่นยิ่งตอกย้ำว่าภาระหน้าที่หลักของ
เขื่อนปากมูลที่จะมาช่วยผลิตไฟฟ้า
ในช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของวันก็ทำไม่ได้
และช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของปีก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ระบบสายส่งไฟฟ้าของ
กฟผ.ที่เรียกว่า GRID
นั้นเป็นระบบที่เชื่อนโยงกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าต่างๆ
(รวมถึง
ที่รับซื้อจากต่างประเทศด้วย)
เข้าด้วยกัน
มีลักษณะคล้ายกับโครงข่ายของใยแมงมุมที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ดังนั้นการรับหรือ
ส่งกระแสไฟฟ้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
กฟผ.ได้เคยประกาศโฆษณาอย่างมั่นใจกับประสิทธิภาพ
ของระบบนี้ตลอดมา
และในอนาคตระบบนี้จะขยายครอบคลุมไปถึงในอนุภูมิภาคอินโดจีนและอาเซียน
นอกจากนั้นใน อดีตที่ผ่านมา
กฟผ.ต้องปิดซ่อมโรงไฟฟ้าบางประกงซึ่งมีกำลังผลิตถึง
2,000 เมกะวัตต์
หรือกรณีของการหยุดเดินเครื่อง
ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 1,000
เมกะวัตต์เนื่องจากอากศปิด
แต่ก็ไม่เห็นมีผลกระทบถึงระบบไฟฟ้าทั้งประเทศแต่อย่างใด
จังหวัดลำปางก็ไม่มีไฟฟ้าดับ
ในเรื่องกำลังไฟฟ้าสำรองนั้น
ปัจจุบันมีประมาณ 5,000
เมกะวัตต์ หรือ 1 ใน 4
ของกำลังผลิตทั้งหมด
เพราะฉะนั้นคิดเป็น
อื่นไปไม่ได้ว่าการประกาศของจังหวัดอุบลราชธานีที่ร่วมมือกับ
กฟผ.
คือการสร้างเงื่อนไขเพื่อใช้ความรุนแรงสลายการ
ชุมนุมของชาวบ้านที่สันเขื่อนปากมูล
คณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชนบทอีสาน
686/5
ซอยวุฒาราม ถนนมิตรภาพ อ.เมือง
จ.ขอนแก่น 40000
โทรศัพท์
/ โทรสาร (043) 220895, 322267 |