จดหมายเปิดผนึก
11
กรกฏคม 2543
เรียนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน
สมัชชาคนจนมีความจำเป็นต้องเข้ากรุงเทพฯ
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา
จากการที่สมัชชาคนจนได้เข้าชุมนุมบริเวณข้างโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูล
เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
จนในที่สุดรัฐบาล
โดยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน
ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลาง
ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นผู้เชี่ยวชาญ
จากหลายสาขาวิชา
และเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
โดยสมัชชาคนจนยอมถอยออกจากโรงไฟฟ้าให้
กฟผ. เข้าดำเนินการได้แล้ว
บัดนี้คณะกรรมการได้มีการประชุมกันมาประมาณหนึ่งเดือน
จนมีมติเป็นเอกฉันท์ให้รัฐบาล
แก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
โดยเริ่มจากกรณีเขื่อนปากมูล
ให้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 8
บาน
เพื่อให้ปลาจากแม่น้ำโขง
ขึ้นไปวางไข่ในลำน้ำมูน
และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด
16 กรณีปัญหา
ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะ
ยาว
แต่จนถึงปัจจุบัน
แม้ว่าคณะกรรมการกลางจะมีความเห็นเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาและนำเสนอต่อรัฐบาล
แล้วก็ตาม
รัฐบาลก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
แต่กลับบิดเบือนและซื้อเวลาต่อไปอีก
โดยไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามมติของ
คณะกรรมการกลางที่รัฐบาลเป็นผู้แต่งตั้งให้เป็นผู้วินิจฉัย
และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
สมัชชาคนจน จึงมี
ความจำเป็นต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติและแนวทางของคณะกรรมการกลาง
คือ
1.ให้รัฐบาลสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล
ทั้ง 8 บาน โดยทันที
เพื่อให้ปลาขึ้นไปวาง
ไข่ได้ตามธรรมชาติ
และเปิดประตูน้ำเขื่อนราษีไศล
ทั้ง 7 บาน
เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและผู้ได้รับผลกระทบจาก
การสร้างเขื่อน
2.กรณีเขื่อนสิรินธร
, เขื่อนลำคันฉู ,
เขื่อนห้วยละห้า ,
เขื่อนโป่งขุนเพชร ,
เขื่อนลำโดมใหญ่ ,
เขื่อนหัวนา , กรณี
ปัญหาป่าไม้-ที่ดิน
จังหวัดอุบลราชธานี 7 กรณี ,
โครงการพัฒนาด่านช่องเม็ก
และบ้านเหลาอินทร์แปลง
ให้รัฐบาล
ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการกลาง
รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวของ
16 กรณีปัญหา และ
ให้รัฐบาลนำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
เพื่อรองรับและนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นจริงได้
ดังนั้น
สมัชชาคนจน
จึงจำเป็นต้องเดินทางมากรุงเทพฯ
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการกลาง
เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา
และเพื่อป้องกันมิให้มีการบิดเบือนการเรียกร้องของสมัชชาคนจนไปสู่ประเด็นอื่น
สมัชชาคนจน
จึงขอวิงวอนต่อสื่อมวลชน
และประชาชาที่รักความเป็นธรรมให้เป็นพยานต่อสิ่งที่สมัชชาคนจนได้
ปฏบัติตามกติกาที่ตกลงกับรัฐบาลมาโดยตลอด
แต่ผู้ที่สับปลับ
ปลิ้นปล้อน
กลับเป็นนักการเมือง
และข้าราชการที่เกี่ยว
ข้อง
ที่ไม่เคยสนใจต่อปัญหาคนยากคนจน
สมัชชาคนจนขอยืนยันว่าจะยืนหยัดเรียกร้องอย่างสันติวิธี
เพื่อให้มีการ
แก้ไขปัญหาต่างๆ
เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาจากพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน
เราขอยืนยันว่า
จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป
เราจะใช้ความอดทน อดกลั้น
ความรัก การให้อภัย
เพื่อสร้างความ เป็นธรรม
เราจะรักษา
และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติของเรา
ซึ่งเป็นของคนไทยทั้งประเทศ
เป็นของคนทั้งโลก และ
เป็นของคนรุ่นต่อไป
ตามสิทธิและหน้าที่
ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ด้วยจิตรคารวะ
สมัชชาคนจน
|