ที่
สคจ. 007 / 2543
12 กรกฎาคม 2543
เรื่อง
ขอให้ประสานงานกับรัฐบาล
เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล
เรียน
สมาชิกวุฒิสมาชิกทุกท่าน
สิ่งที่ส่งมาด้วย
เอกสารของคณะกรรมการกลางที่เสนอต่อรัฐบาล
จากการที่สมัชชาคนจน
16
กรณีปัญหาได้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา
โดยตั้งหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1-6 ตามพื้น ที่ปัญหาต่างๆ
มาเป็นเวลากว่า 15 เดือน
แต่รัฐบาลก็ไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้
จนสมัชชาคนจนต้องตัดสินใจ
เคลื่อนขบวนเข้าชุมนุมและจัดตั้งหมู่บ้านแม่มูลมั่นยืน
7 บริเวณลานจอดรถ
ข้างโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูล
เพื่อผลักดันให้
เกิดการแก้ไขปัญหา
แต่รัฐบาลโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.)
และส่วนราชการจังหวัดอุบลราชธานี
กลับ
พยายามที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุม
สถานการณ์ได้คลี่คลายขึ้นเมื่อ
45 นักวิชาการ
และตัวแทนสมาชิกวุฒิสภา 14
ท่าน
ได้ลงพื้นที่ศึกษาสภาพความเป็นจริง
จนรัฐบาลต้องหันมาให้ความสนใจ
โดยฯพณฯรองนายกรัฐมนตรีนายบัญญัติ
บรรทัดฐาน
ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรม
การกลางแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
ขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 43
ประกอบด้วยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก
หลายสาขาวิชา
และเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
จำนวน 10 ท่าน
โดยให้พิจารณาเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
สมัชชาคนจน ทั้ง 16 กรณี
ทั้งนี้คณะกรรมการกลางฯได้พิจารณากรณีเร่งด่วนมีมติเสนอให้สมัชชาคนจนเปิดทางให้
กฟผ.
เข้าทำงานดูแลโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูล
และให้ กฟผ.เปิดประตูระบายน้ำทั้ง
8 บาน เป็นเวลาประมาณ 4 เดือน
เพื่อทดลอง
ให้ปลาจากแม่น้ำโขงขึ้นมาวางไข่ในแม่น้ำมูล
โดยเสนอให้
ฯพณฯรองนายกรัฐมนตรี
นายบัญญัติ บัญทัดฐาน
สั่งการ ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.
43
จนถึงบัดนี้สมัชชาคนจนได้เปิดทางให้
กฟผ.ปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้าได้เป็นปรกติแล้วแต่รัฐบาลก็ยัง
ไม่สั่งการให้ กฟผ.
ปฏิบัติตามข้อเสนอของคณะกรรมการกลางฯ
ต่อมาคณะกรรมการกลางฯได้มีการประชุมกันอีกหลายครั้งแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์
โดยเสนอแนวทางให้รัฐบาลแก้ไข
ปัญหาสมัชชาคนจน 16 กรณี
ประกอบด้วยมาตรการระยะสั้นและระยะยาว
เสนอต่อ ฯพณฯ
รองนายกรัฐมนตรี
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน
อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่
6 ก.ค. 43
แต่จนถึงปัจจุบันรัฐบาลก็ยังไม่มีการดำเนินการตามมติของคณะกรรมการกลางฯ
สมัชชาคนจน
จึงมีความจำเป็นต้องเดิน
ทางเข้ากรุงเทพฯ
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติและแนวทางตามที่คณะกรรมการกลางเสนอมา
ทั้งนี้ รัฐบาลและ
ส่วนงานราชการที่ไม่มีการประสานงานกันได้อนุมัติและดำเนินการก่อสร้างสะพานที่ไม่มีความจำ
เป็นอีกหนึ่งโครงการ
ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการคืนธรรมชาติให้กับแม่น้ำ
สมัชชาคนจนเห็นว่าโครงการนี้ไม่มีความจำเป็นแต่ประการใด
เพราะ สะพานห่างกันเพียง 3
กิโลเมตร
จึงขอให้ยุติโครงการนี้เสีย
เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณที่ประเทศชาติต้องดูแล
อีกทั้งขอเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกได้ตรวจสอบ
กฟผ.
ที่ขนหินที่ได้มาจากการระเบิดแก่งไปขายให้กับนายทุน
ดังนั้นในฐานะที่สมาชิกวุฒิสภา
ได้เข้ามามีส่วนในการคลี่คลายปัญหาตั้งแต่ต้น
สมัชชาคนจน
จึงใคร่ขอความกรุณาจาก
ทุกท่านได้ดำเนินการสานต่อในการประสานงานกับรัฐบาลให้เร่งรัด
การแก้ไขปัญหาให้กับสมัชชาคนจนสืบต่อไปจน
ปัญหาทั้ง 16 กรณี
จะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อเป็นมิติใหม่ในระบอบประชาธิปไตย
และเป็นแบบอย่างให้
กับรัฐบาลใดๆที่จะมาบริหารบ้านเมืองต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(นางสุขใจ
มหาชัย)
แกนนำสมัชชาคนจน
|