จดหมายเปิดผนึกถึงผู้เข้าร่วมประชุมอาเซียนและประชาชนชาวไทย
วันที่ 25 กรกฎาคม
พ.ศ. 2543
เรื่อง
หยุดการพัฒนาที่ไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ทรัพยากร
ธรรมชาติและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในภูมิภาคอาเซียน
นับจากอดีต
โครงการใหญ่ของภาครัฐได้อ้างถึงการพัฒนาเพื่อความชอบทำในการสร้างมาตลอด
จวบจนปัจจุบัน กาล
เวลาได้พิสูจน์แล้วว่า
การพัฒนาที่ภาครัฐได้กล่าวอ้างในโครงการต่างๆ
เป็นเพียงการพัฒนาเพื่อสงเคราะห์แก่คนเมืองและภาค
อุตสาหกรรมเท่านั้น
มิได้พัฒนาเพื่อคนจน
ผู้เป็นคนส่วนใหญ่
และผู้เป็นเจ้าของประเทศอย่างจริงจัง
การพัฒนาและโครงการใหญ่ๆของภาครัฐจึงสร้างอยู่บนคราบน้ำตาของประชาชน
และซากปรักหักพังของทรัพยากร
ธรรมชาติ
เพราะโครงการต่างตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของรัฐ
และนายทุน
ตั้งอยู่บนมิติทางเศรษฐกิจอย่างเดียว
และไม่เคยคำนึง
ถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม
และวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน
และที่สำคัญที่สุด
ภาครัฐไม่เคยเปิดโอกาสให้กับประชาชน
ใน
การมีส่วนร่วมในโครงการใหญ่
เสมือนว่าอำนาจในการบริหารประเทศ
ถูกผูกขาดโดยชนชั้นปกครองเท่านั้น
ปัญหาต่างๆจากโครงการรัฐ
จึงปะทุขึ้นมาราวกับดอกเห็ด
ปัญหาเหล่านี้เป็นบทเรียนที่ภาครัฐไม่เคยจดจำ
ไม่ว่าจะ
เป็นปัญหาท่อก๊าซไทย-พม่า
โรงไฟฟ้าบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขัน
ปัญหาเขื่อน
และที่ดินของสมัชชาคนจนซึ่ง
ณ เวลานี้ชุมนุม
เรียกร้องอยู่หน้าทำเนียบ
รวมถึงปัญหาท่อก็าซไทย-มาเลย์
ที่กำลังเกิดขึ้น
ในวาระการประชุมว่าด้วยการพัฒนาที่ครอบคลุมสมบูรณ์ทุกเรื่องของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
สนนท. จึงเห็นว่า
๑.
บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจะต้องหาทางออกให้กับการพัฒนาที่ไม่ชอบธรรมต่อคนจน
โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ในทุกขั้นตอนของทุกโครงการ
การพัฒนาต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนเป็นหลักสำคัญ
การพัฒนาต้องรับใช้คนจน
มิใช่ คนรวย
๒.
จากกรณีที่พี่น้องสมัชชาคนจนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐ
ชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล
และถูกรัฐบาลใช้กำลัง
ในการสลายการชุมนุม
ซึ่งเป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
สนนท.เห็นว่า
ผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นที่จะต้องแสดงท่า
ทีที่ชัดเจนต่อรัฐบาลไทย
เพื่อที่จะลดความขัดแย้ง
และเป็นจุดเรื่มต้นในการสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในการแก้ปัญหา
อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
สามัคคีประชาชน คนจนมีสิทธิ์กำหนดอนาคตตัวเอง
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
(สนนท.)
|