จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล
เวทีสาธารณะต้องโปร่งใส
เป็นกลางและเป็นธรรม
มิใช่เพื่อการสร้างภาพของรัฐ
สืบเนื่องมาจากการชุมนุมของสมัชชาคนจนเพื่อรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา
16 กรณีปัญหา
โดยมีแนวทางแก้ไข
ปัญหาทั้งระยะเร่งด่วน
ระยะสั้นและระยะยาวตามข้อเสนอของคณะกรรรมการกลาง
และเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
ที่ผ่านมา
คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน
ปรากฎว่ารัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเพียง
2 กรณีเท่านั้น ทำ
ให้สมัชชาคนจนต้องประกาศอดข้าวประท้วงรัฐบาลและเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะเพื่อ
ให้ทุกฝ่ายมีโอกาสเสนอ
ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อสาธรณชนทั่วไป
และเมื่อวานนี้ (วันที่ 1
สิงหาคม 2543)
รัฐบาลก็ได้กล่าวว่าจะให้เปิดเวทีสาธารณะขึ้น
อย่างไรก็ตาม
เราเห็นว่าการจัดเวทีสาธารณะหรือกรณีเวทีประชาพิจารณ์ของรัฐบาลที่ผ่านมานั้นได้ขัดกับเจตนา
รมณ์ของเวทีที่ต้องเป็นกลาง
โปร่งใสและเป็นธรรมเพื่อให้มีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายได้อย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเพียงสร้างเวทีขึ้นมาก็เพื่อสร้างภาพ
สร้างความชอบธรรมในการดำเนินโครงการต่างๆของรัฐเท่านั้นเอง
มากกว่าเพื่อให้เวทีสาธารณะมีความเป็นกลาง
โปร่งใสและเป็นธรรมโดยแท้จริง
หรือกลายเป็นเพียงเวทีเพื่อการประชา
สัมพันธ์ของรัฐ อาทิเช่น
กรณีเวทีประชาพิจารณ์โรงไฟฟ้าหินกรูด
จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือล่าสุดเวทีประชาพิจารณ์ท่อแก็ส
ไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา
หรือกรณีเวทีประชาพิจารณ์โครงการกก-อิง-น่านที่จะมีขึ้นอีกไม่นานนี้
ดังนั้น เราในนามคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ
จึงมีข้อเสนอดังนี้คือ
1.เวทีสาธารณะต้องให้สถาบันวิชาการที่เป็นกลางเป็นผู้ดำเนินการ
เพื่อจะได้มีความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
2.ผู้เข้าร่วมเวทีสาธารณะต้องประกอบด้วย
3 ฝ่าย คือ รัฐบาล สมัชชาคนจน
และคณะกรรรมการกลางแก้ไขปัญหาสมัชชาคน
ที่แต่งตั้งโดย นายบัญญัติ
บรรทัดฐาน รองนายกรัฐมนตรี
3.เวทีสาธารณะต้องเปิดให้สื่อมวลชนทุกส่วนเข้าร่วมทำข้อมูลข่าวสารได้อย่างเป็นอิสระ
มิใช่เปิดให้เฉพาะเพียงสื่อของรัฐ
เท่านั้น
4.เวทีสาธารณะนั้น
ในด้านเงื่อนไขด้านเวลาต้องให้แต่ละฝ่ายมีเวลาเตรียมข้อมูล
ข้อเท็จจริงพอสมควร เนื่องจากหลายกรณี
ปัญหามีความสลับซับซ้อนและหลายกรณีปัญหาต้องเชื่อมโยงถึงนโยบายซึ่งต้องใช้เวลาในการอธิบาย
พอสมควร
5.ในระหว่างนี้รัฐบาลต้องควรยุติการสร้างภาพบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีสมัชชาคนจน
เพราะเป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์แต่
อย่างใด
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังของประชาชน
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ
2 สิงหาคม 2543
|