eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

ใบแจ้งข่าว สมัชชาคนจน หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
17 มิถุนายน 2543

กลุ่มเมล็ดพันธุ์เพื่อสันติ เรียกร้องสันติธรรมแก่แผ่นดินปากมูล
ชาวบ้านรับขวัญพี่น้องกลับจากทำเนียบ
กฟผ.แถลงมุ่งสู่ความรุนแรง

กลุ่มเมล็ดพันธุ์เพื่อสันติ เรียกร้องสันติธรรมแก่แผ่นดินปากมูล

วันนี้ เวลาประมาณ 09.00น.กลุ่มเมล็ดพันธุ์แห่งสันติ อันประกอบด้วย ศาสนิกชนจากศาสนาต่างๆ เช่น ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาซิกข์ และศาสนาพุทธ ประมาณ 100 คนได้เข้ายื่นหนัง สือกับผู้ว่าราชการจังหวัด อุบลราชธานี โดยหนังสือฉบับดังกล่าวเป็นหนังสือ"คำวิงวอนเพื่อสันติ"
โดยระบุว่า กลุ่มเมล็ดพันธุ์แห่งสันติเป็นศาสนิกชนที่ปราถนาจะ เห็นมวล มนุษย์ทุกเชื้อชาติศาสนามีสันติอยู่ในหัวใจ สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

 กลุ่มสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี จากเหตุการณ์การชุมนุมของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบ จากโครงการพัฒนาของรัฐ 8 กรณีปัญหาที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ริมสันเขื่อนปากมูล ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2542 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมา สนใจปัญหาความเดือดร้อนที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจาก โครง การพัฒนาเหล่านั้น แต่สถาน การณ์มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ความรุนแรง เราในฐานะศาสนิก ชนจึงมีความห่วงใยปราถนาให้ ประชาชนไทยทุกคนทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่ได้เกี่ยวข้องได้ตระหนัก ถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมาและตระหนักถึงคุณค่าของการใช้หลักศาสนธรรมในการแก้ไขปัญหา เราศาสนิกชนจึงไดั้ร่วมกัน จัด"พิธีภาวนาเพื่อสันติในลุ่มน้ำมูล"เพื่อเชื้อเชิญเมตตาธรรม และคุณ งามความดีทั้งหลายเข้ามาอยู่ ในหัวใจของทุกคน ขอให้พึงระลึกเสมอว่าแนวทางศาสนาและแนว ทางสันติเป็นสิ่งที่สามารถปฏิบัติได้จริงจังเพื่อให้บังเกิดความสุขสงบสันติแก่ทุกฝ่ายอย่างแท้จริง โดย กลุ่มเมล็ดพันธุ์แห่งสันติ ได้รวมตัวและตั้งขบวนกันที่บริเวณทุ่งศรีเมืองแล้วจึงเดินข้ามถนน ไปที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อยื่น หนังสือฉบับดังกล่าวให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่นายรุ่งฤทธิ์ มกรพงษ์ ไม่อยู่ ทางปลัดจังหวัดจึงลง มารับหนังสือแทนนอกจากนี้ทางด้านศาสนิกชนกลุ่มเมล็ด พันธุ์ยังได้มอบพระพุทธรูปปางห้าม ญาติให้กับตัว แทนจังหวัดอีกด้วยหนึ่งองค์เพื่อเป็นสัญญ ลักษณ์แห่งความเมตตากรุณานั่นเอง

จากนั้นเมื่อเวลาปผระมาณ 14.30น. คณะของกลุ่มศาสนิกชนเมล็ดพันธุ์แห่งสันติจึงได้เดินทางมา ที่เขื่อนปากมูลและได้ทืพิธีภาวนาเพื่อสันติพรั้อมทั้งปักเสาสันติภาพที่บริเวณลานด้านหน้าหมู่บ้าน แม่มูนมั่นยืน7ข้างโรงปั่นไฟเขื่อนปากมูลด้วย

พิธีได้เริ่มขึ้นโดย พระครูบุญเลื่อน มั่นทรัพย์ สังฆราชฝ่ายคริสต์ประจำจังหวัดอุบลราชธานีนำกล่าว แถลงการว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าพระบิดาผุ้ทรงพระเมตตาที่สุดมิได้ พระองค์ตรัสไว้ว่า "เราได้ยิน เสียงร้องของประชากรของเราซึ่งอยู่ในความเปลี่ยวกันดาร เราจำต้องไปดูว่าเรื่องเป็นอย่างไร" บัดนี้
ข้าพเจ้าทั้งหลายบรรดาลูกๆของพระองค์ที่มาชุมนุมกันในสถานที่นี้ซึ่งกำลังมีทุกข์ร้อนต้องการ พระเมตตาของพระองค์ช่วยเหลือ....พวกเรามาภาวนาเพื่อสันติในลุ่มแม่มูลแดนดินถิ่นเกิดและถิ่น อาศัยทำมาหากินของพวกลูก ขอโปรดให้ช่วยระงับความทุกข์ร้อน โดยหันหน้ามาปรึกษาหารือกัน ด้วยสันติวิธีตามพระประสงค์ของพระองค์ เพื่อลูกทั้งหลายจะได้มีชีวิต ทำมาหากินในท้องถิ่นอย่าง สันติสุข เจริญก้าวหน้าในชีวิตข้าพเจ้าวอนขอทั้งนี้อาศัยบารมีพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำ เริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร อาแมน

จากนั้น พระครูบุญเลื่อนและพระตัวแทนพุทธที่เข้าร่วมด้วย 2 ท่าน คืออ พระอาจารย์ชาย วรธัมโม จากวัดเขียนเขต อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี และพระเจษฎา สมาหิโต วัดท่าโขง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
ซึ่งทั้งสองท่านต่างก็เป็นสมาชิกกลุ่มเสขิยะธรรม ร่วมกันจุดโคมประทีปแห่งสันติ และปักเสาสันติ ภาพขึ้นเป็นการชั่วคราวที่ด้านหน้าเต็นพิธีก่อนจะนำไปปักลงอย่างถาวร ที่ริมถนนด้านหน้าที่ ทำการเขื่อนปามมูล ซึ่งเสาเสมานี้มีความกว้างขนาด 4คูณ4นิ้ว สูงประมาณ 2.50 เมตร ปลายแหลม มีข้อความจารึกไว้ทั้ง 4 ด้าน เขียนว่า  1.ขอให้สันติภาพมาสู่โลก 2.ขอให้เมล็ดพันธุ์แห่งสันติ จงงอก งามในดวงใจทุกดวง 3.อยู่เย็นเป็นสุข มาฮอดโลกเฮา 4.May Peace Prevail Earth  แล้วตัวแทน ศาสนาต่างๆจึงเริ่มสวดภาวนาโดยผลัดกันครั้งละ45 นาที
 

ชาวบ้านรับขวัญพี่น้องกลับจากทำเนียบ
ที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน7 ลานจอดรถข้างโรงปั่นไฟเขื่อนปากมูลด้านฝั่งขวาของแม่น้ำวันนี้ เวลา 10.30น.ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญขึ้น เพื่อเป็นการต้อนรับขวัญ กำลังใจให้กับผู้ที่กลับ จากหน้าทำเนีบรัฐบาล เมื่อคืนนี้  โดยก่อนหน้านี้ สมัชชาคนจนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 8
กรณีปัญหาที่ชุมนุมกันมาตั้งแต่วันที่23 มี.คง42 ได้มีมติให้ส่งตัวแทนเข้าไปยื่นข้อเสนอและรับฟัง การตอบรับจากรัฐบาลที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายอาทิตย์ แต่รัฐบาลชวน
หลีกภัยยังคงไม่มีท่าทีตอบรับข้อเสนอและความเดือร้อนของชาวบ้านใดๆทำตัวลอยเหนือปัยหา อยู่เช่นเดิม พวกเขาจึงได้ตัดสินใจกลับหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน1 ที่ริมสันเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม
จ.อุบลฯเพื่อทำการรณรงค์ปัญหาของตัวเองบอกกล่าวกับสาธาารณชนมากขึ้น พิธีบายศรีได้เริ่มขึ้น โดยนายหนู พลศรี หมอพารหมณ์ประจำหมู่บ้านเป็นผู้ทำทำพิธีเสร็จแล้วระหว่าางการผูกข้อมือ
ก็มีเด็กๆในโรงเรียนหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน แต่งตัวสวยงาม ออกมารำประกอบเพลงทำนองอีสาน ด้วยความครึกครื้น

กฟผ.แถลงมุ่งสู่ความรุนแรง
วันเดียวกันนี้ ที่โรงแรมลายทอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยนายอำนาจ โชติช่วง
ผุ้อำนวยการประชาสัมพันธ์ กฟผ. นายสุวิทย์ ภูมิเวียงศรี หัวหน้กองโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูลพร้อม เจ้าหน้ากฟผ.หลายสิบคนได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าหากชาวบ้านไม่ยอมย้ายออกจากลาน จอดรถทั้งหมด กฟผ.จะไม่เข้าไปทำงานอย่างเด็ดขาด และนายอำนาจ ยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่าผู้ ชุมนุมว่าขณะนี้ชาวบ้านได้เตรียมไม้ปลายแหลมไว้แจกชายฉกรรจ์และมีมีดไว้สู้กับเจ้าหน้าที่ ตำรวจด้วย ซึ่งกรณีนี้ทางด้านนายภักดี จันทะเจียด ตัวแทนชาวบ้าน ซึ่งเป้นผู้หนึ่งที่กลับจากหน้าทำ เนียรัฐบาลและทราบข่าว กล่าวว่า ตนรู้สึกว่า กฟผ.ไม่ยอมหยุดการให้ข่าวยั่วยุดังกล่าวทั้งๆที่ มีหนัง สือห้ามจากรมต.มหาดไทยแล้ว เราชาวบ้านได้ยืนยันการชุมนุมอย่างสันติวิธีมาโดยตลอดไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่บริหารกฟผ.เอาอะไรมาพูด ซึ่งตนสงสัยว่าอาจจะมีแผนการบางอย่างที่จะให้ชาวบ้าน ออกจากบริเวณนั้นทั้งๆที่กฟผ. ควรจะต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการใน เรื่องเปิดประตูน้ำ
ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ไปแล้วเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมามากกว่า เพื่อเป็นการทดลองดู และต่อข้อถามที่ ว่าคิดเห็นอย่างไรกับการให้สัมภาษณ์ของ ผอ.ประชาสัมพันธ์กฟผ.ที่วาชาวบานเตรียมไม้ปลาย แหลมไว้ต่อสู้เจ้าหน้
าที่  นายภักดีกล่าวว่า ตนรู้สึกว่าการพูดย่างนี้อาจจะมีการเตรียมแผนในการใช้ กำลังเข้าปราบปรามชาวบ้านก็ได้ แต่สังคมไม่ต้องเป็นห่วงชาวบ้านที่นี่ยืนยันว่าเราอยู่กันอย่างสงบ
หากมีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องเป็นฝีมือกฟผ.แน่นอน เพราะวิธีการอย่างนีไม่ใช่กฟผ.ไม่เคยทำแต่เป็น วิธีการที่นักบริการมาเฟียองค์นี้ถนัดที่สุด นายภักดีกล่าว

ตอนเย็นของวันเดียวกันนี้  เวลาประมาณ 15.00น.คณะของนายรุ่งฤทธิ์ มกรพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด อุบลราชธานี และนายแพทย์ นิรันดร์ พิทักษวัชระ ส.ว.อุบลฯ อ.ประกอบ วิโรจนกูฏ ม.อุบลฯ นายอำนวย ปติเส นายสุวิทย์  ภูมิเวียงสี เข้ามาที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน โดยไม่มีการประสานล่วงหน้า มาก่อนทำให้ชาวบ้านต่างตกใจตื่น ด้านนายทองเจริญ สีหาธรรม นางสมปอง เวียงจันทร์ ตัวแทน ชาวบ้านจึงเข้าไปคุยด้วยทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดอ้างว่าได้รับแจ้งจาก กฟผ.ว่าพื้นที่ที่ชาวบ้าน ขยับให้ไม่พอในการทำงานจึงเข้ามาคุยหาทางออก กฟผ.ต้องการให้ออกทั้งหมด แต่ชาวบ้านโต้ว่า คงออกไม่ได้เนื่องจากยังไม่มีหลักประกันอันใดว่าจะมีการดำเนินการให้ตามมติของคณะกรรมการ กลางจึงได้มีการโต้เถียงกันทางด้าน อ.ประกอบจึงเรียกร้องให้กฟผ.เห็นใจชาวบ้านบ้างเพราะกฟผ. ต่อรองมามากแล้ว อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ยังคงไม่มีข้อยุติ ด้านผุ้ว่าฯสอบถามชาวบ้านว่าถ้าลงจาก ลานข้างบนลงมาอยู่ตรงลานข้างล่างจะได้ไหม ชาวบ้านขอไปปรึกษากันดูและถาม กฟผ.ว่าพื้นที่ แค่ไหนถึงจะพอ ด้านกฟผ.ก็ยังตอบไม่ได้ขอนำไปคิดดูก่อน และสุดท้ายจึงมีข้อตกลงร่วมกันว่าให้ ทั้งสองฝ่ายประสานความคืบหน้าผ่านหมอนิรันดร ์ ซึ่งคณะนายรุ่งฤทธิ์ เดินทางกลับเมื่อเวลา ประมาณ 16.00น.

*************

สมพร คำสวัสดิ / 17 มิ.ย.43

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา