eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

บันทึกสถานการณ์ สมัชชาคนจน หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
วันที่ 19 มิถุนายน 2543


ความคืบหน้า กรณีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯแถลงถึงความจำเป็นต้องนำอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่เข้าโกยผักตบและกอ สวะ หน้าเขื่อน นั้น ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อนก็ได้มี สมาชิกวุฒิสภา นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ พร้อมทั้งผู้ว่าราช การจังหวัด อุบลฯนายรุ่งฤทธิ มกรพงษ์ เข้ามาเรียกทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันนั้นและแม้จะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ในการประชุม ร่วมกันที่ที่ชุมนุม หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน1 และ 7 ในครั้งนั้นก็ตามแต่ก็ได้ข้อตกลงในระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้กฟผ.ไม่ พอใจเนื่องจาก อ้างว่าต้องนำเครื่องมือขนาดใหญ่เข้ามาแต่ชาวบ้านก็โต้ว่าให้นำเครื่องมือเข้า มาก่อนไม่พออย่างไรก็พร้อมจะขยับให้เต็มที่อยู่แล้ว สุดท้ายกฟผ.ก็ยังยกเหตุผลมาอ้างต่างๆนานา เช่น กลัว ชาวบ้านไม่ปลอดภัย กลัว เจ้าหน้าที่ทำงานมาสะดวกนั้น ซึ่งในกรณีการโกยผักตบชวาหน้าเขื่อนนี้ ทางกฟผ.ก็ เพิ่งมายกประเด็นนี้ขึ้นเมื่อต้น เดือนมิถุนายนนี้เอง และทางฝ่ายผู้ชุมนุมสมัชชาคนจนเห็นว่าอาจจะทำให้ กฟผ.ไม่พอใจและจะนำไปสู่การปลุก ระดมกลุ่มจัดตั้งเข้ามาใช้ความรุนแรงได้ จึงได้ขยับพื้นที่ให้โดยการรื้อ บ้านเปิดช่องทางมากพอที่รถเครนสามารถวิ่ง เข้าออกได้ ตั้งแต่วันที่15 มิย. ที่ผ่านมาแต่กฟผ.ก็ยังคงดื้อดึงไม่ ยอมส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำงาน โดยอ้างว่าพื้นที่มีความ กว้างไม่พอและสวะหน้าเขื่อนมีมากต้องใช้เครื่องมือ คือ รถ 30 คันและเจ้าหน้าที่ กว่า80 คน และต้องใช้พื้นที่ใน กาารกางเต็นสำหรับนักประดาน้ำ ที่ต้องดำลงไปเก็บสวะ และขอนไม้ด้านล่างอาคารปั่นไฟ สรุปแล้วจนบัดนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ยังคงเก็บเงียบไม่ยอมมาทำงานตามข้อ อ้างในความจำเป็นใดๆ จนกระทั่งเมื่อวาน(18 มิ.ย.)ที่ผ่านมา กฟผ.ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำด้วยระบบควบ คุมด้วยรีโมทคอนทรลโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ของ กฟผ.เข้ามาตรวจตรา ความเรียบร้อยหรือปฏิบัติงานแม้คนเดียว
อย่างไรก็ตามการเปิดประตูระบายน้ำครั้ง ก็ทำให้ผักตบชวาและกองสวะหน้าเขื่อนไหลไปกับกระแสน้ำเชี่ยวจน ขณะนี้ไม่มีผักตบหลงเหลือตกคางอยู่หน้าเขื่อนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการการนำกองสวะออกจาก หน้าเขื่อนไม่จำเป้นต้องใช้ทัพเจ้าหน้าที่ นักประดาน้ำ เครื่องไม้เครื่องมือเข้าไปแต่อย่างใด เพียงยกประตูขึ้น ผักตบก็ไหลออกหมดแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ชาวบ้านเคยแนะนำให้ กฟผ.ใช้วิธีนี้ แต่กฟผ.ไม่ทำ ตลอดเวลาที่ ผ่านมาแสดงให้เห้นว่า ข้อต่อรองทั้งหมดเป็นเพียงการตีรวน  หลอกลวงประชาชน และแม้กระทั่งคณะกรรม การกลางผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ได้รับการยอมรับของสังคมกฟผก็ไม่ไว้หน้า ใช้เล่ห์เหลี่ยมและข้ออ้างทางเทคนิค
หลอกเอาวุ่นวายไปตามๆกัน ซึ่งเป้าหมายก็เพื่อผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมย้ายออกจากลานจอดรถเพื่อเคลียร์พื้น ที่และควบคุมสกัดการ สร้างอำนาจต่อรอง เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบในปัญหาที่เกิดจากเขื่อนปากมูล นั่นเอง

 เมื่อเช้าของวันนี้ นายไสว สายศรี ชาวบ้านแสนตอ แกนนำปากมูลกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ต่อกรณีนี้ว่า
ตนไม่เข้าใจจริงๆทำไม การไฟฟ้าฯถึงทำพฤติกรรมเช่นนี้ มีใครบ้างที่มีอำนาจในสังคมนี้ที่องค์กรนี้ยอมรับบ้าง
"ผมอยากให้สังคมช่วยกันตรวจสอบการทำงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯด้วย เพราะที่ผ่านมา เป็นที่ชัดเจนว่า
กฟผ.มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เป็นองค์รัฐวิสาหกิจที่อาศัยเงินภาษีประชาชนในการเสพสุขที่ผ่านมาสังเกตุว่า กฟผ.จะมีข้ออ้างมาตลอด ตั้งแต่เรื่องกล่าวหาเราปิดถนน น้ำจะท่วมเมืองอุบลฯหรือไฟดับ เมื่อเวลาได้พิสูจน์ แล้วว่า มันเป็นการหลอกคนทั้งประเทศ และต่อไป ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาจะมีลูกไม้อะไรอีก"นายไสว กล่าวและว่าอย่างไรก็ตามพวกเราชาวบ้านก็ยังยืนยันในการชุมนุมอย่างสันติวิธีต่อไป และมีแต่สังคมเท่านั้นที่ จะเป็นเสียงตะโกนห้ามไม่ให้การไฟฟ้าฯก่อความรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะปัจจุบันยังคงมีการก่อกระแส เกลียดชังม็อบขึ้นอย่างเงียบๆในพื้นที่ทั่วจังหวัดโดยใช้วิธีบิดเบือน ปิดบังข้อมูลเช่นเคย  แกนนำปากมูลวัย 59 ปี กล่าวในที่สุด

กิจกรรมผู้ชุมนุมที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน7
วันนี้ได้ร่วมกันแถลงข่าว เรียกร้องให้กฟผ.ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ ที่อนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้เปิด ประตูระบายน้ำเต็มที่ 8 บาน เป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งระบุว่าการบิดเบือนประเด็นข้อตกลงของกฟผงเท่ากับว่า
กฟผ.ไม่ให้ควสามสำคัญกับคณะกรรมการซึ่งเท่ากับคณะกรรมการชุดนี้เป้นตัวแทนของรัฐบาล และนอกจาก กฟผ.จะบิดเบือนและเตะถ่วงเวลาแล้ว ยังได้แถลงข่าวใส่ร้ายผู้ชุมนุม ว่าเป็นกองกำลังสะสมอาวุธซึ่งมีทั้ง ปืนอาก้า ปืนเอ็มสิบหกด้วย และยังได้พยายามรื้อเรื่องคดีเก่าตั้งแต่ ปี 2537 ขึ้นมาโดยมีท่าทีเหิมเกริมดึงเอาศาล สถิตย์ยุติธรรมมาเป็นเครื่องมือ เรียกร้องให้ศาลยกเลิกการประกันตัว น.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่ปรึกษา สมัชชาคนจน และนายทองเจริญ สีหาธรรม แกนนำปากมูล ทั้งๆที่คดีนี้ ยังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล จ.อุบลฯ และเป็นคดีที่ กฟผ.แจ้งข้อหาในการชุมนุมเรียกร้องสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญเมื่อ 6 ปีที่แล้วด้วย

การอ่านแถลงการณ์ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 11.00น. ซึ่งแถลงโดยนายคำตา แสงชัย อายุ 23 ปี อาสาสมัครเยาวชน ปากมูล ที่บริเวณด้านหน้าเขื่อนปากมูล ซึ่งกิจกรรมแถลงข่าวครั้งนี้แปลกแหวกแนวกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา กล่าวคือ ได้มีการนำเรือมาต่อ 5-6 ลำ แล้วนำไปลอยอยู่ด้านหน้าเขื่อน พร้อมกับขบวนเรือยังได้ประดับธงทิว และติดป้าย สมัชชาคนจน หมู่บ้านแม่มุนมั่นยืน ไว้ผืนละลำลอยประกบข้างกันและชาวบ้านที่นั่งอยุ่ในเรือก็ถือธงทิวด้วย
นายคำตา ใช้โทรโข่งกล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนแห่งนี้ เป้นตัวทำลายศีลธรรมอันดีของสังคมลงไปแล้ว โดย กฟผ.นั่น คือ นอกจากองค์กรนี้จะเป็นนักโกหกระดับโลกแล้ว ยังมีความพยายามที่จะก่อความรุนแรงได้ทุกเมื่อ ซึ่งแม้แต ่รัฐบาลก็ไม่กล้าออกสั่งผู้บริหารองค์กรชุดนี้ได้ ตนคิดว่านายชวนควรจะมอบตำแหน่งนายกรับมนตรีให้กับผู้ว่า การการไฟฟ้าฯเสียดีกว่า เพราะเป้นนายกกลับมีแต่ความขลาดกลัว ไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้ที่บริเวณสันเขื่อนอีกด้านหนึ่งติดกับช่องบันไดปลาโจนด้านหน้ามีชาวบ้านประมาณ 100 คน ยืนถือ ธงสีเขียว สีเหลืองและมีป้ายผ้าภาษาอังกฤษเขียนว่า"TAKE THE DAM" อันหมายความว่าให้เอาเขื่อนออก ไปมาติดไว้ที่รั้วเหล็ก ร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย โดยใช้เวลาในการทำกิจกรรมประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วจึงแยกย้ายกันเข้าหมู่บ้านที่ชุมนุม

สมพร  คำสวัสดิ์  รายงาน

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา