บันทึกสถานการณ์
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน1,7
วันที่
23 มิถุนายน 2543
ความคืบหน้า
ต่อจากสถานการณ์การขยับพื้นที่
และกฟผ.ขอเข้าทำงานในบริเวณลานจอดรถ
เมื่อวานนี้
ซึ่งได้มีบรรยา
กาศของความร่วมมือเป็นไปด้วยดีนั้น
วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.00น.
เจ้าหน้าที่ กฟผ.ได้นำเต็นเข้ามาตั้งในบริเวณ
ลานจอดรถที่ชาวบ้านขยับให้จำนวน
2 หลัง
และหลังจากนั้นจึงนำรถเครนขนาดใหญ่หมายเลขรถAT635E
โดยเริ่ม
ทำงานคือใช้ยกตระแกรงขนย้ายเศษขยะที่อยู่ริมฝั่งด้านหน้าเขื่อนออก
และนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่
อีกชุดหนึ่งก็เตรียม
ชุดประดาน้ำ ถังลม
หน้ากากและอุปกรณ์สำหรับดำน้ำอื่นๆไว้
โดยได้แจ้งว่าจะทำการดำลงไปค้นหาเศษไม้ที่ด้านล่าง
อาคารในวันนี้อีกด้วย
ซึ่งมีนายสมชาย จวบสวัสดิ์
รองผู้ว่าการฯฝ่ายกิจการพิเศษ
กฟผ.เข้ามาควบคุมการทำงาน
ซึ่งก่อน
หน้านั้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสถานที่และรปภ.
นำแผงเหล็กมากั้นผู้ชุมนุมออกจากกัน
ซึ่งขณะนี้ผู้ชุมนุมส่วน
ที่อยู่ด้านในบริเวณลานจอดรถอีกซีกหนึ่งนั้น
ถูกแยกแบ่งออกเป็น 2
กลุ่มแล้ว คือ
กลุ่มหนึ่งอยู่ด้านติดกับถนนผ่าน
สันเขื่อนและอีกกลุ่มอยู่ติดกับรั้วป้อมยาม
ซึ่งชาวบ้านได้ทักท้วงว่าหากทำการปิดกั้นเช่นนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการขังคอก
ชาวบ้าน
แล้วเวลาจะเดินไปหากันก็ทำไม่ได้
นายสมชายได้อ้างถึงความปลอดภัย
แต่ชาวบ้านก็ได้โต้เถียงว่า
จุดที่ชาว
บ้านอยู่ห่างจากจุดที่เจ้าหน้าที่จะทำงานเป็น
200 เมตร และว่าชาวบ้านเป็นคน
คงดูได้อยู่ว่าอันตัวเองจะได้รับอันตราย
ซึ่งชาวบ้านบ้านคันเปือย อ.สิรินธร
ได้กล่าวว่า กฟผ.ได้คืบจะเอาศอก
ได้ศอกจะเอาวา
อย่างนี้มันก็ไม่ได้จบสิ้นเสียที
ชาวบ้านนั้นยอมมามากแล้ว
จะเอาอย่างไรอีก
เมื่อเห็นว่า
เถียงและไม่มีเหตุผลพอที่จะคุยกับชาวบ้านได้
นายสมชาย จวบสวัสดิ์
จึงเดินหนีไป
อย่างไรก็ตามในเวลาถัดมาก็มี
ฝ่ายรปภ.ของกฟผ.นำแผงเหล็กมากั้นอีกจนได้
แต่ชาวบ้านก็ เฉย
และยอมอีกตามเคย
ตลอดช่วงเช้าของวันนี้
มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 20 คน
เดินวนไปมาอยู่ทั่สันเขื่อนโดยไม่ได้ทำอะไรโดยมีเจ้าหน้าตำรวจ
จากสภอ.โขงเจียม ประมาณ 10
นาย
มาคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านนอก
พร้อมทั้งหน่วยกู้ระเบิดจากกองร้อย
ตำรวจตระเวณชายแดนที่ 22 อ.พิบูลมังสาหารประมาณ
5 นายมาประจำที่สันเขื่อน
ซึ่งจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
นายหนึ่ง
ระบุว่ามีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทาตรวจสอบระเบิดที่บริเวณสันเขื่อนปากมูล
เนื่องจาก กฟผ.เป็นผู้ประ
สานให้มาดูแลที่นี่
ตนไม่ทราบว่ามีระเบิดที่ผุ้ชุมนุมมาทิ้งไว้หรือให้มาอย่างไรตนไม่ทราบ
แต่เมื่อมีผู้แจ้งไปตนก็มา
ปฏิบัติงานตามหน้าที่
แหล่งข่าว ตชด.กล่าว
จากการติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่
กฟผ.เห็นว่า
งานแต่ละส่วนก็มีเจ้าหน้าที่ประจำครบอยู่แล้ว
โดยมีการใช้คน
เกินความจำเป็น
อย่างไรก็ตาม
ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวตระเวณสังเกตการทำงานเก็บบรรยากาศภายในสถานที่ที่เจ้าหน้า
ที่ทำงานอยู่นั้น
นายบูรณศิลป์ โทบุดดี
นายอำเภอโขงเจียม
ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัด
ให้
เป็นผู้ประสานงานร่วมกับการไฟฟ้าฯและสมัชชาคนจน
พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกฟผ.คนหนึ่ง
ได้เดินมาบอกให้
หยุดถ่ายภาพและห้ามทำข่าวในเวลาที่เจ้าหน้าที่
กฟผ.ทำงาน
ซึ่งจะเป็นการรบกวนและบอกว่าเขตที่
กฟผ.เข้าทำงาน
ได้แบ่งออกชัดเจนอยู่แล้ว
และเมื่อมีคำถามกลับไปว่าสังเกตการณ์อยู่ห่างๆได้ไหม
ก็ได้รับคำตอบด้วยน้ำเสียงไม่
พอใจอีกทั้งตะคอกด้วยเสียงดังว่าไม่ได้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเหตุผลแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบยืนยันชัดเจน
ว่าทำไม
ทั้งทีการเผยแพร่วิธีการทำงานน่าจะเป็นผลดี
กับกฟผงมากกว่า
เพราะสังคมจะได้เข้าใจว่า
กฟผ.ทำงานจริง
ไม่ได้สร้างภาพ
และนอกจากนายบูรณศิลป์
จะเข้ามา
ห้ามทำข่าวแล้วก็ยังมีเจ้าหน้า
กฟผ.อื่นเข้ามาห้ามด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้
ชาวบ้านได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่
กฟผ.ว่า
ภายในอาคารปั่นไฟหรือรูช่องไฟมีปลาขนาดใหญ่จำนวนมากเข้าไปติดอยู่ด้านในเต็มไปหมด
เนื่องจากแหล่งข่าว กฟผ.
ผู้หนึ่งระบุว่า
บริเวณข้างในจะมีลักษณะคล้ายอ่าง
เมื่อปลาเข้ามาอออยู่ด้านล่างจะถูกกระแสน้ำดูดเข้าไปข้างใน
ซึ่งในเรื่องนี้
นายบรรยงค์ มากดี อายุ 53 ปี
อยู่บ้านปากห้วยแคน ต.ตุงลุง
อ.โขงเจียม จ.อุบลฯ
ก็ได้ยืนยันด้วยว่า ตน
เคยมาหาปลาที่ท้ายเขื่อน
และเห็นว่า
ตอนที่ชาวบ้านนำมองเข้าไปวางนั้น
ถูกเจ้าหน้าที่ประมงห้ามไว้
แต่เจ้าหน้า ที่
บางคนได้นำมองไปดักไว้ที่ด้านหน้าเขื่อนแทน
เมื่อ กฟผ.เปิดประตูน้ำ
ปลาที่อยู่ด้านในจะทะลักออกมาซึ่งมีแต่ตัว
ใหญ่ๆ
และนายบรรยงค์ยังตั้งข้อสังเกตว่า
ที่กฟผ.ไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปยุ่งและห้ามนักข่าวเข้าไปนั้น
กลัวว่า ความจริง
ตรงนี้จะถูกเปิดเผยมากกว่า
เพราะที่ผ่านมา กฟผ.เคยอ้างว่า
ปลาในแม่น้ำมูลหมดแล้ว
หากสาธารณชนเห็นว่ายังมีปลา
อยู่และมันขึ้นเขื่อนไม่ได้ต้องถูกขังไว้ใต้อาคารเครื่องปั่นไฟเขาก็จะเสียหาย
ซึ่งตนคิดว่า
ปลามันพยายามที่จะขึ้นไป
วางไข่
แต่มาติดอยู่ที่เครื่องปั่นไฟโดนน้ำดูดเข้าไปทุกปี
ซึ่งถ้า กฟผ.เร่งเปิดประตูระบายน้ำก็จะดีเพราะปลาจะได้ขึ้น
ไปวางไข่ในแม่น้ำมูลได้
นายบรรยงค์ มากดี ระบุ
ส่วนความเคลื่อนไหวของฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่มีการชุมนุมกันที่เขื่อนอุบลรัตน์
จ.ขอนแก่น และเขื่อนภูมิพล
จ.ตาก โดย
เปิดเวทีปราศรัยโจมตีสมัชชาคนจนที่เข้ายึดเขื่อนปากมูลทำให้ทรัพย์สิน
ให้เขื่อนปากมูลผลิตไฟไม่ได้จนเป็นเหตุ
ให้พนักงานกฟผ.ทั้งหมดเดือดร้อนนั้น
น.ส.วนิดา
ตันติวิทยาพิทักษ์
ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน
กล่าวว่า ความจริง กฟผ.
ไม่ควรออกมาประท้วงชาวบ้าน
ถึงแม้เขื่อนปากมูลจะหยุดผลิตกระแสไฟจริงก็ไม่ได้มีผลกระทบเลยแม้แต่น้อย
เพราะปกติเขื่อนปากมูลก็ผลิตไฟได้น้อยอยู่แล้ว
คือผลิตได้เพียง 40
เมกกะวัตต์จาก 136
เมกกะวัตต์เท่านั้น
อย่างไรก็ ตาม จริงๆแล้ว
กฟผ.ควรจะประท้วงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมากกว่า
เพราะชาวบ้านไม่ได้ทำให้
กฟผ.สูญเสียประโยชน์
การสร้างเขื่อนเป็นการผิดพลาดทางนโยบายทางการเมือง
ซึ่งกฟผ.ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ
ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบน่าจะเป็น
ฝ่ายการเมือง
และสาเหตุที่ชาวบ้านออกมาประท้วงตามเขื่อนต่างๆนั้นก็เพราะว่า
ชาวบ้านไม่ได้รับการดูแล
คงเป็นไป
ไม่ได้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนได้รับการดูแลอย่างดีจากรัฐแล้ว
จะมีใครอยากออกมาประท้วง น.ส.วนิดา
กล่าว
ในเวลาเดียวกันนี้
ทางด้านชุดประสานงาน
อันประกอบด้วย นายสุวิทย์
ภูมิเวียงศรี
ตัวแทนนายสมชาย จวบสวัสดิ์
นายบูรณศิลป์ โทบุดดี อ.คูณทวี
สวรรค์ตรานนท์และน.ส.สมภาร
คืนดี
ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ
ไปเมื่อววานนี้
ได้ประชุมหารือกัน
ถึงแนวทางปฏิบัติงานร่วมกัน
กล่าวคือ วันพรุ่งนี้
จะเป็นวันลงตรวจซ่อมเครื่องปั่น
ไฟในอาคารโรงไฟฟ้าเขื่อนปากมูล
คณะประสานจึงมีมติร่วมกันให้มีตัวแทนชาวบ้าน
และสื่อมวลชนลงไปเป็นสักขี
พยานด้วย
ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นลง
เมื่อเวลาประมาณ 16.15 น.
ทางคณะทั้ง 4 คน
จึงได้เข้าไปในอาคารโรง
ไฟฟ้า
เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยก่อนจะให้สื่อมวลชนเข้าไปพรุ่งนี้
โดย น.ส.สมภาร คืนดี
เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมเข้า
ไปสังเกตการณ์ภายในโรงไฟฟ้า
ได้ร่วมเข้าไปสังเกตการณ์ภายในโรงไฟฟ้า
ซึ่งมีจุด ห้องคอนโทรลรูม
และบริเวณ
เทอร์บายซึ่งเป็นห้องควบคุมการเปิดปิดประตูระบายน้ำ
โดยนายสุวิทย์หัวหน้ากองโรงไฟฟ้า
บอกกับตนว่าห้องนี้จะ
ทำงานก็ต่อเมื่อสวิทย์เปิดปิดแบบรีโมทคอนโทรลที่เขื่อนสิรินธรเสียหายใช้การไม่ได้
เท่านั้น ส่วนอื่น น.ส.สมภาร
กล่าวว่า
ตนไม่ทราบระบบการทำงานเท่าใด
เพราะเป็นเรื่องเทคนิคทางวิศวกรรมไฟฟ้า
แต่เท่าที่เห็นตนก็ยังเห็นว่า
ภายในอาคารยังคงมีไฟฟ้าอยู่เนื่องจากระหว่างอยู่ข้างใน
กฟผ.ได้เปิดไฟสว่าง
และเปิดแอร์ด้วยจึงไม่ได้เป็นไปตามที่
กฟผ.
เคยอ้างว่าที่ต้องปิดไฟบนสันเขื่อนนั้นไฟในโรงปั่นเสียซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
น.ส.สมภารกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่
เจ้าหน้าที่ กฟผ.
ปฏิบัติงานอย่างเฉยเนือยตลอดทั้งวันที่สันเขื่อนปากมูล
กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน
ก็ได้จัดกันออกไปรณรงค์ที่อำเภอโขงเจียม
เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ส.ว.ที่จะมี ขึ้นในวันที่ 24
มิ.ย.นี้ ซึ่ง จ.อุบลฯมี ส.ว.ได้
6 คน
และการเลือกตั้งก็ไม่ครบเนื่องจากมีผู้สมัครบางคนทุจริตจนกก.ต้อง
สั่งแขวนรายชื่อไป
และวันพรุ่งนี้ก็จะมีการเลือกตั้งเป็นครั้งที่สี่
สมัชชาคนจน โดยนายคำตา
แสงชัย กล่าวว่า สมัชชา
คนจนเห็นความสำคัยของการเลือกตั้งเพราะเป็นการสนับสนุนการปกครองในระบบประชาธิปไตย
แม้ว่าการเลือกตั้ง
ที่ผ่านมาจะมีการทุจริตซื้อเสียง
แต่ก็อยากให้ประชาชนทุกท่านออกไปใช้สิทธิ์ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเพื่อสนับ
สนุนให้การเมืองไทยได้
รับการปฏิรูปเสียที
ขบวนรณรงค์ไปเลือกตั้งไปเริ่มกันที่หน้าอำเภอโขงงเจียม
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.โดยชาวบ้านจะมีธงสีเขียว
สีเหลือง สีแดง
อันเป็นสัญลักษณ์ของสมัชชาคนจนถือกันทุกคน
และหน้าขบวนยังมีป้ายผ้าเขียนว่า
" Please Vote
Tomorrow "
เพื่อเป็นการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่อำเภอโขงเจียมอีกด้วย
******
สมพร คำสวัสดิ์ / 23 มิ.ย.43
|
