บันทึกสถานการณ์
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน1,7
วันที่ 21
มิถุนายน 2543
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผุ้ชุมนุมสมัชชาคนจน
ลานจอดรถข้างโรงปั่นไฟ
เขื่อนปากมูล
หมู่บ้านแม่มุนมั่นยืน 7
ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างรอฟังผลคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการกลางที่จะจัดให้ขึ้นในวันนี้ที่กรุงเทพฯ
เมื่อ เวลาประมาณ 11.00 น.
ชาวบ้านได้ออกมารวมกันที่บริเวณด้านหน้าป้ายเขื่อนปากมูล
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประ
เทศไทย(กฟผ)ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆหมู่บ้านที่ชุมนุม
เพื่อทำกิจกรรมทางศาสนาส่งใจถึงคณะกรรมการและตัวแทนของ
พวกเขา โดยนายเปาโล
คำสวัสดิ์ อายุ 15 ปี
จากปัญหาเขื่อนปากมูล
เป็นผู้กล่าวแถลงข่าวว่า
เหตุที่พวกเราต้องออกมารวมกันที่ด้านหน้าป้ายเขื่อนนี้ก็เพราะบริเวณแห่งนี้เป็น
ส่วนหนึ่งของสัญญลักษณ์ที่ก่อ
ปัญหาให้เกิดขึ้นกับชาวประมงลุ่มน้ำมูล
จนต้องล่มสลายทางอาชีพไปตามๆกัน
และวันนี้พวกเราจะได้ร่วมกันนั่ง
สมาธิสงบนิ่ง
ส่งใจไปถึงตัวแทนของพวกเราและเป็นกำลังใจให้กับคณะกรรมการที่กำลังประชุมอยู่เพื่อให้
การประชุมได้บรรลุ
ผลตามเจตนาของผู้เดือดร้อนจากนั้น
นายเปาโลจึงได้ใช้โทรโข่งประกาศให้ชาวบ้านทั้งชายและหญิง
ขึ้นไปนั่งบน
ชั้นปูนรอบๆฐานป้ายเรียงเป็นแถวจนเต็ม
แล้วให้ส่วนที่เหลือนั่งลงบริเวณอีกชั้นหนึ่งที่อยู่ถัดลงมา
ทำให้รูปการ
นั่งสมาธิเป็นสองชั้น
โดยให้ผู้ชายนั่งขัดสมาธิผู้หญิงนั่งพับเพียบซึ่งมีผ้าขาวโพกศรีษะด้วย
เสร็จแล้ว นายเปาโล
คำสวัสดิ์
จึงให้สัญญาณให้ทุกคนสงบนิ่ง
โดยใช้เวลา ประมาณ 30 นาที
พิธีกรรมจึงแล้วเสร็จ
ในเวลาเดียวกันนั้น
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายวีระ
แนวบุญเทียม
ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยม
กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่ง
นายวีระได้เข้าไปสนทนากับตัวแทนชาวบ้านโดยบอกว่า
ตนไม่ได้เดินทางมาเป็นทางการ
แต่ต้องผ่านเส้นทางนี้
จึงแวะเข้ามาดู
ซึ่งตัวแทนชาวบ้าน
คือนางสมปอง
เวียงจันทร์ก็ได้พา
เดินดูรอบๆหมู่บ้านและเลยไปดูบันไดปลา
โจน
ซึ่งทันทีที่มองเห็นลักษณะของบันได
นางสมปองเล่าว่า นายวีระ
ก็ต้องถึงกับอุทาน
และกล่าวว่า ตนไม่เชื่อ
ปลาจะขึ้นได้
เพราะมันไม่สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ
ทั้งนี้รองปลัดมหาดไทยยังได้แสดงความสงสัยว่าทำไมถึงออกแบบเป็นล็อคเป็นขั้นอย่างนี้
เสียงบประมาณเปล่าๆ
น่าจะทำให้เหมือนแม่น้ำแต่ก่อน
ยอมเสียเงินอีกนิดหน่อยทำเป็นแก่งขึ้นมาน่าจะได้ผลมากกว่านี้
จากนั้นนายวีระ
จึงเดินกลับออกมาขึ้นรถเพื่อจะเดินทางกลับ
แต่พอผ่านกลุ่มชาวบ้านที่กำลังทำกิจกรรมอยู่ด้านหน้าจึงหยุดยืนดู
ด้วยความสนใจ
แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
จากนั้นจึงขึ้นรถตู้ออกไปที่อำเภอสิรินธร
ซึ่งมีนายธวัชชัย สายเนตร
ปลัดอำเภอ(ฝ่ายกิจการพิเศษ)อำเภอสิรินธร
คอยให้การต้อนรับ
1.
ส่วนสถานการณ์อื่นทั่วๆไปในหมู่บ้านมีดังนี้
เวลาประมทาณ 11.30น.ได้มีเฮลิคอปเตอร์สีขาวคาดฟ้า
บินวน
รอบหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน7
อยู่ประมาณ 10 รอบ
โดยเบื้องต้นเป็นการบินวนในรัศมีตีวงกว้าง
จำนวน 2 รอบ
จาก
นั้นเครื่องได้บินเข้ามาใกล้ตัวเขื่อนแล้ววนเหนือบันไดปลาโจนและหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
1 ริมสันเขื่อนปากมูลฝั่ง
ขวาอยู่ประมาณ 5 รอบ
จึงบินย้อนกลับมาที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
7 อีกครั้ง
ซึ่งคราวนี้ระดับการบินต่ำมาก
กระทั่ง สามารถ
มองเห็นข้อความที่ตัวเครื่องได้ชัดเจน
โดยมีอักษร
ภาษาอังกฤษเขียนว่า HS-YHB
และอักษรภาษาไทย
เขียนติดไว้ที่ตัวเครื่องในด้านเดียวกันว่า
นางนวล
โดยการบินในระดับนี้ก็สามารถมองเห็นผู้โดยสารข้างในค่อน
ข้างชัดเจน
ซึ่งจากการคาดวัดในระดับสายตา
เห็นว่า
น่าจะมีไม่น้อยกว่า 4 คน
พร้อมนักบินด้วย
และหนึ่งในนั้น
ได้ใช้กล้อง วีดีโอ
ถ่ายภาพกลุ่มผุ้ชุมนุมอยู่ตลอดเวลาด้วย
2.
อีกด้านหนึ่งความเคลื่อนไหวของ
กฟผ.
ทราบจากนักข่าวท้องถิ่นว่า
ขณะนี้มีการปล่อยข่าวมาเป็นระยะว่า
วันนี้
ชุดของเจ้าหน้าที่นำเครื่องมืออุปกรณ์เข้ามาทำงาน
โดยมีรถเครนหนัก 80 ตัน 2
คันที่นำมาจากขอนแก่น และ
เตรียมพร้อมอยู่ที่เขื่อนสิรินธร
และนอกจากนี้
กฟผ.ยังได้สร้างกระแสข่าว
เรื่องการจะเพิ่มค่าไฟในเขตจังหวัด
อุบลฯและภาคอีสานจังหวัดใกล้เคียงด้วยเหตุผล
คือ ตอนนี้
กฟผ.มีความจำเป็นต้องซื้อไฟจากลาวและแหล่งอื่นๆ
เนื่องจากเขื่อนปากมูลไม่สามารถผลิตไฟได้เพราะ
เครื่องปั่นไฟเสียหาย
3.
เมื่อตอนเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา
เวลาประมาณ 18.00 น.
นายบูรณศิลป โทบุดดี
นายอำเภอโขงเจียม ได้เดิน
ทางเข้ามารับแกนนำชาวบ้านเข้าไปพบผู้ว่าราชการจังหวัด
นายรุ่งฤทธิ์ มกรพงษ์
ที่จวนโดยให้เหตุผลว่า
ผู้ว่าฯ อยาก
ปรึกษาหารือด้วยและว่านายรุ่งฤทธิ์จะถือโอกาสเป็นเจ้าภาพเลี้ยงขาวเย็นด้วย
ซึ่งในจำนวนนี้ก็ได้มี ส.ว.นิรันดร์
พิทักษ์วัชระ เข้าร่วมด้วย
ส่วนตัวแทนชาวบ้านมี
นายทองเจริญ สีหาธรรม,นายภักดี
จันทะเจียด, นางสมปอง
เวียงจันทร์,นางสุดใจ
มหาไชย,นายอำนวย หาญปราบ,และน.ส.สมภาร
คืนดี ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน
ซึ่งประเด็น กาารพูดคุยกัน
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยังคงต้องการทราบการตัดสินใจของชาวบ้านในเรื่องที่
กฟผ. อยากให้ย้ายออก
จากพื้นที่ คือสรุปว่า
ข้อเสนอให้ชาวบ้านขยับพื้นที่เพื่อให้กฟผ.เข้าทำงานนั้น
ก็เพื่อให้เกิดภาพความร่วมมืออันดี
ต่อกันของคนในจังหวัด
ซึ่งผู้ว่าฯเอง
ยังได้กล่าวว่า
หากชาวบ้านยอมรับข้อเสนอ
ทางเขาจะรับเป็นผู้ประสานกับ
กฟผ.ให้ เพื่อให้ กฟผ.เข้าทำงาน
นอกจากนี้ยังได้กล่าวแสดงความเห็นว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่า
กฟผ.จะเข้าทำ งานจริง
เพราะเขาได้ฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า
กฟผ.ยอมรับข้อเสนอของชาวบ้านไม่ได้
เพราะเป็นการเสีย
ศักดิ์ศรีขององค์กรแต่ที่จำเป็นต้องเสนออย่างนี้ก็เพื่อให้เกิดภาาพที่ดีที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาล
ต่อไป ไม่ใช่นั้นเขา
ก็บอกว่าไม่รู้จะเสนออะไรกับรัฐบาล
ส่วน กฟผ.จะทำงานหรือไม่เป็นผู้ว่าฯบอกว่าเป็นเรื่องของเขา
ซึ่งก็จะพยา
ยามประสานและเชื่อว่า
หลักรัฐศาสตร์ที่ใช้อยู่ในขณะนี้จะทำให้เกิดความประสานร่วมมือกันได้ทั้งสองฝ่าย
หาก กฟผ.ไม่ยอมรับข้อเสนอ
ตนก็จะได้รายงานกับผู้บังคับบัญชาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นชาวบ้านปากว่า
จะนำเรื่องนี้
ปรึกษาหารือกันอีกครั้งหนึ่งและจะให้คำตอบในวันนี้
4. ล่าสุด
วันนี้(21 มิย.)เวลาประมาณ 12.00น.ว่าราชการจังหวัดได้โทรศัพท์มาประสานความคืบหน้าด้วยตนเอง
สอบถามชาวบ้านว่ามีข้อตกลงกันอย่างไร
ซึ่งตัวแทนชาวบ้านก็บอกว่ายังไม่ได้คุยกัน
ซึ่งหากมีข้อสรุปอย่างไร
ให้
โทรศัพท์แจ้งไปจังหวัดได้เลย
และผู้ว่าฯจะเดินทางมาที่หมู่บ้านแม่มูน
7 พร้อมกับกฟผ.ในวันพรุ่งนี้ด้วยตนเอง
**แจ้งข่าว
วันพรุ่งนี้
จากการประชุมกันเมื่อช่วงเวลา
15.00น. ชาวบ้านมีมติจะรื้อที่พัก
ออกจากพื้นที่สีแสดของ กฟผ.ทั้งหมด
และชาวบ้านจะแถลงข่าวก่อนการเคลื่อนย้าย
ด้วย
รายละเอียดความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สมพร
คำสวัสดิ์ / 21 มิย.43
|
