แจ้งข่าวด่วน
เรียน
พันธมิตร
เมื่อเวลาประมาณ
20.10 น. คืนนี้(16 กรกฎาคม 2543)
ชาวบ้านสมัชชาคนจนประมาณ 1
พันคนซึ่งได้ชุมนุมกันที่หน้าทำ
เนียบรัฐบาลเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาได้เข้ายึดทำเนียบรัฐ
แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งใช้กระบองและแก๊สน้ำตาสะกัด
การเข้ายึดทำเนียบ
เป็นเหตุให้ชาวบ้านประมาณ
30 คน ถูกตีด้วยกระบอง
ในจำนวนนี้มีแม่ใหญ่อายุ 60
ปีถูกตีที่ศีรษะบาด
เจ็บสาหัส
ขณะที่มีเด็กอายุหนึ่งขวบโดนแก๊สน้ำตาได้รับบาดเจ็บ
ขณะนี้ได้มีการนำผู้บาดเจ็บทะยอยส่งตามโรงพยาบาล
ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียง
ขณะนี้แม่ใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัสยังคงอยู่ในทำเนียบ
ขณะรายงานข่าว
ชาวบ้านประมาณ 300
คนสามารถฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปในทำเนียบได้แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ล้มไว้ทั้งหมด
ส่วนชาวบ้านที่เหลือถูกสะกัดไว้ที่หน้าประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ขณะนี้ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า
1,000 นายเข้าควบคุมชาวบ้าน
และคาดว่าจะมีการใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านเพื่อให้สลายตัวในคืนนี้
********************************
ใบแถลงข่าว
สมัชชาคนจน
ปฏิบัติการณ์สันติวิธี
เข้าทำเนียบรัฐบาล
เพื่อให้รัฐบาลปฏิบัติตามมติกรรมการกลาง
จากการที่สมัชชาคนจน
ได้เดินทางเข้ามาทวงสัญญาจากรัฐบาลให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามแนวทาง
ที่คณะ
กรรมการกลางได้เสนอแนวทางไว้แล้วนั้น
แต่ยังไม่มีสัญญาณใดๆ
จากรัฐบาลที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามที่คณะกรรม
การกลางเสนอ
ในทางกลับกันรัฐบาลยังมีท่าทีที่จะเตะถ่วงปัญหา
ซื้อเวลาไปวันๆ
โดยหวังว่าจะให้สมัชชาคนจนหมดแรง
แล้วสลายการชุมนุมกลับบ้านไปเอง
สมัชชาคนจน
จึงจำเป็นต้องปฏิบัติการสันติวิธีเข้ากดดันรัฐบาลด้วยการเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งที่รู้ว่าเป็นการผิด
กฎหมาย
แต่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้รัฐบาลต้องหันมาแก้ไขปัญหาให้
และต้องมีหลักประกันและรูปธรรมการแก้ไข
ปัญหาที่ชัดเจนด้วย
ทั้งนี้
สมัชชาคนจนได้ให้โอกาสรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามาเป็นเวลานานแล้ว
นับตั้งแต่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศ
และได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนมาตั้งแต่วันที่
30 ธันวาคม 2540 โดยมีนายกชวน
หลีกภัย เป็นประ ธาน
แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด
สมัชชาคนจน
ได้เดินทางมาทวงสัญญาหลายต่อหลายครั้ง
รัฐบาลก็มีแต่แต่งตั้งกรรมการมาดูแลแต่ไม่มีการแก้ไขปัญหาให้
จนวันที่ 2 มิถุนายน 2543
รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด
ไทย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน
เป็นผู้ดูแล
และได้ตั้งคณะกรรมการกลาง
ซึ่งเป็นนักวิชาการ 10 ท่าน
ขึ้นมาศึกษาและเสนอ
แนวทางแก้ไขปัญหา
จนได้ข้อยุติแล้วแต่รัฐบาลก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอีกเช่นเดิม
สมัชชาคนจน จึงต้องมี
มาตรการกดดันอีกครั้ง
เพื่อให้
1.ให้รัฐบาลรับรองการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
โดยคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อแนวทางและข้อสรุปที่คณะกรรม
การกลางได้นำเสนอต่อรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่
6 กรกฎาคม แล้ว
2.รัฐบาลต้องสั่งการอย่างเป็นทางการ
เป็นลายลักอักษรไปสู่หน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่เป็น
รูปธรรม ทั้ง 16 กรณีปัญหา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การเปิดประตูน้ำทั้ง 8 บาน
ของเขื่อนปากมูล
เพื่อให้ปลาขึ้นมาวางไป
เป็นเวลา 4 เดือน ตามที่คณะ
กรรมการกลางได้ศึกษาและเสนอแนวทางมา
โดยมีมติที่เป็นเอกฉันท์
สมัชชาคนจน
ขอยืนยันว่า
ปฏิบัติการสันติวิธีเข้าทำเนียบของเราในครั้งนี้
จะไม่ใช้ความรุนแรง
จะไม่มีการทำลายทรัพย์
สินของทางราชการแต่อย่างใด
เราขอยืนหยัดต่อสู้จนกว่าจะได้มาซึ่งการแก้ไขปัญหาของเรา
โดยต้องเป็นรูปธรรมที่ชัด
เจนที่ไม่ใช่ซื้อเวลาอีกต่อไป
ด้วยจิตคารวะ
สมัชชาคนจน
16
กรกฎาคม 2543 ณ ทำเนียบรัฐบาล
|