eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

ใบแจ้งข่าว

หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน (หน้าทำเนียบรัฐบาล)

วันที่ 14 กรกฎาคม 2543

กรุงเทพมหานคร-วันที่ 14 กรกฎาคม 2543 วันที่สามของการชุมนุมกลุ่มหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืนกว่า 1,000 คนของกลุ่มสมัชชาคน จน 16 กรณีปัญหาจากความเดือดร้อนโครงการของรัฐ (อาทิ เขื่อนปากมูล เขื่อนโป่งขุนเพชร เขื่อนลำคันฉู และปัญหาป่าไม้ – ที่ดิน ฯลฯ ) ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามมมติของคณะ กรรมการกลางแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน ซึ่งรัฐบาลนิ่งเฉยไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการกลางแต่อย่างใด

ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน ต้องเข้ามาปักหลักเรียกร้องที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2543 และได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส่งไปถึงนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีเพื่อให้ปฏิบัติตามมติของคณะ กรรมการกลางฯในวันที่ 13 กรกฎาคม 2543 และจะรอฟังคำตอบในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้

                ในวันนี้ เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 800 คนจึงได้เคลื่อนขบวนเดินเท้าไปยังสนามหลวงเพื่อร่วมกับคณะศิษย์ ยานุศิษย์หลวงตามหาบัว แผ่เมตตาให้กับนายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ให้กลับตัวกลับใจมารักชาติบ้านเมืองของตน ต่อ พระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช และพระหลักเมืองด้วยกัน หลังจากนั้นจึงได้เดินทางกลับ

เวลาประมาณ 13.00 น จึงได้เคลื่อนขบวนไปฟังคำตอบจากรัฐบาล  ซึ่งรัฐบาลยังนิ่งเฉยไม่สนใจกลุ่มผู้ชุมนุม และมีตำรวจกว่า 200 นายอารักขาอย่างแน่นหนา ขณะเดียวกันบริเวณฝั่งตรงกันข้าม คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตาหมาบัวกว่า 500 คน ได้มา ประท้วงรัฐบาลว่าเป็นผู้ทำลายชาติไทย และเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาพบกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล กลับ เพิ่มกำลังตำรวจอารักขามากขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้สลายตัวไป และกลุ่มสมัชชาคนจนได้อ่านแถลงการณ์ตำหนิ การกระทำของรัฐบาลที่สร้างความดือดร้อนให้กับประชาชน เรื่อง “หลักกูเหนือหลักการ หลายมาตรฐานในรัฐบาลชวน” ความว่า

                สมัชชาคนจนเดินทางเข้าสู่มหานครเพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา แต่ปรากฏว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กลับออกมาแถลงข่าว “การเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯของผู้ชุมนุมครั้งนี้บางส่วนก็อยากมาฟังข้อยุติตามที่กรรม การกลางชี้ขาดซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ คณะกรรมการไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น แม้กระทั่งตนจะสั่งอะไรที่เป็นไปไม่ได้ก็ลำบาก”

เห็นได้ว่านายบัญญัติ บรรทัดฐาน กล่าวเหมือนกับไม่เคยรับรู้ว่ามีกรรมการกลางฯ  และตีค่าข้อเสนอของกรรมการกลางเป็น เพียงข้อเสนอของผู้ชุมนุม อีกทั้งยังทำไขสือว่ากรรมการไม่ได้ใหญ่โต ชี้ขาดการแก้ปัญหาได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่รับรู้กันมาตั้งแต่ ต้นว่า คณะกรรมการกลางมีหน้าที่วินิจฉัยและเสนอแนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลซึ่งมีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศซึ่งเป็น ผู้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ต้องนำไปสู่การปฏิบัติ  ถือเป็นหลักการที่ยึดถือกันทั่ว

การตั้งคณะกรรมการเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก กรณีท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง ยานาดา นายชวน หลีกภัย ก็เคยแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหา โดยในครั้งนั้น เมื่อคณะกรรมการได้ข้อสรุปว่าให้โครง การท่อส่งก๊าซดำเนินต่อไปได้ แต่ให้แก้ปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รัฐบาลก็ไม่ได้แสดงอาการลังเล เดินหน้าดำเนินการตาม ข้อเสนอของกรรมการทันที

สมัชชาคนจนเห็นว่าท่าทีการเลือกปฏิบัติเช่นนี้แสดงถึงความไร้หลักการ ของรัฐบาล เหลือเพียงหลักกูที่จะยืนยันการกระทำ ตามความพึงพอใจของตัวเองเท่านั้น ซึ่งวันข้างหน้าสังคมนี้จะมีมาตรฐานในการอยู่ร่วมกันอย่างไร ในเมื่อรัฐบาลยังคงแสดง ถึงมาตรฐานที่แตกต่างในการดำเนินงานเสมอมา

สมัชชาคนจนขอยืนยันว่าแม้มติของกรรมการกลางฯจะไม่ตอบสนองความต้องการทั้งหมดของสมัชชาคนจน แต่เมื่อพวกเรา ให้การยอมรับคณะกรรมการชุดนี้ตั้งแต่รัฐบาลมีคำสั่งแต่งตั้ง จึงขอยอมรับข้อเสนอในการแก้ปัญหาของกรรมการกลางฯ ด้วย ความเต็มใจ และยืนยันที่จะผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่กรรมการกลางฯเสนอโดยเร่งด่วน เพื่อยืนยันว่า สังคมนี้ต้องมีบรรทัดฐานหลักการต้องเหนือหลักกู

หลังจากนั้นได้ประกาศว่าหากรัฐบาลนายชวน ยังเล่นบทนิ่งเฉยเช่นนี้ กลุ่มสมัชชาคนจนจะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้จงได้

นายสาคร พรหมภักดี แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวว่า รัฐบาลนายชวนไม่เคยสนใจปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจาก การกระทำของรัฐบาลเลย แม้แต่ออกมาพบพูดคุยยังไม่เคย นายชวนไม่เคยเห็นหัวคนจนอยู่ในสายตาเลย ในขณะที่เมื่อมีกลุ่ม ที่ร่ำรวยมาขอพบก็ให้พบแก้ปัญหาให้ แล้วอย่างนี้คนจนจะอยู่ได้อย่างไรในแผ่นดินนี้

“เราเดือดร้อนอย่างมาก แต่นายชวนไม่เคยสนใจ ตัวอย่างวันนี้ก็มีถึง 2 กลุ่มที่มาประท้วงการกระทำของนายชวน แต่นายชวน ก็ไม่สนใจ ไม่เห็นหัวพวกเราอยู่ในสายตา มติกรรมการกลางที่ตั้งมากับมือออกมา ยังไม่สนใจที่จะแก้ให้ ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ ตั้งหน้าตั้งตาผลักดันแต่โครงการยักษ์ใหญ่ออกมา ผลาญเงินประเทศชาติมหาศาล ประชาชนประท้วงกันทั่งประเทศแล้ว พวก เรายืนยันว่าจะผลักดันทุกวิถีทางให้รัฐบาลนายชวนทำตามมติคณะกรรมการกลางฯให้ได้”

                ในวันเดียวกันนี้กลุ่มสมัชชาคนจนยังได้รวบรวมเงินจากการบริจาคภายในกลุ่มสมัชชาคนจนมอบให้กับญาติของ ส.ต.ท. มงคล ไพชยนตร์ เจ้าหน้าที่สายตรวจ สถานีตำรวจนิมิตรใหม่ ซึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุภายหลังที่ได้รับคำสั่งให้มา ปฏิบัติ หน้าที่รักษาการณ์หน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2543

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา