eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
  ประมวลภาพสถานการณ์

กฟผ. ฝืนมติครม.

ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล(ชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน)

วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๔

เวลา ๐๙.๐๐ น. กฟผ. ได้ทำการวางแผนให้ นายสุพรรณ หวังผล อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านหัวเห่ว ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าวของผู้ใหญ่บ้าน บ้านด่านใหม่ บ้านเวินบึก บ้านหัวเห่ว ให้ชาวบ้าน ๗ หมู่บ้านท้ายเขื่อน นำเรือมาตีตรา เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากการสูญเสียอาชีพจากการหาปลา วันละ ๕๐๐ บาท จากรัฐบาลทักษิณ ถ้ามีเปิดเขื่อน จากการประชาสัมพันธ์ดังกล่าวผ่านเส้นสายของการซื้อตัวของกฟผ. กับแกนนำผู้ใหญ่บ้าน มีเรือประมาณ ๗๕ ลำ และรายชื่อประมาณ ๑๗๐ คนมาลอยลำ และขึ้นป้ายว่าต้องการให้รัฐปิดเขื่อน (ผู้ที่มาชุมนุมนายสุพรรณ ได้ซื้อเหล้า และอาหาร รวมทั้งยาเสพติดได้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมเสพยา และอาหารด้วย)

เวลา ๐๙.๓๐ น. เรือประมงที่ลอยลำอยู่ท้ายเขื่อนมีเพียง ๒๐ ลำ และชาวบ้านประมาณ ๔๐ คน แต่ก็ยังมีความพยายาม ของนายสุพรรณ หวังผล และกฟผ. ให้พวกของตนนำมอเตอร์ไซด์วิ่งในหมู่บ้านเพื่อจะหาคนไปร่วมชุมนุมเพิ่ม (จากการบอก กล่าวของชาวบ้านละแวกนั้นทราบมาว่ากฟผ. ได้เปิดประตูในระดับ ๑๐๔ รทก. และเร่งผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้น้ำบริเวณท้ายเขื่อนแห้ง เป็นเหตุให้ผู้คนสามารถชุมนุมที่แก่งกลางได้)

เวลา ๐๙.๔๕ น. ถนนสายเส้นบ้านหนองชาด บ้านทรายมูล ได้มีการบรรทุกคนจากบ้านหนองชาด และบ้านทรายมูล รถปิกอัพ และรถมอเตอร์ไซด์บรรทุกคนประมาณ ๑๐๐ คนเศษ มุ่งตรงไปยังจุดนัดพบของกฟผ. ที่รีสอร์ทมารีน่า (อ.โขงเจียม) เพื่อทำการประชุมฝึกทำความเข้าใจ เพื่อทำการสลายการชุมนุมในคืนวันนี้ (พวกที่มาสลายการชุมนุมได้รับค่าจ้างรายวันวันละ ๒๐๐ บาท ผ่านการประสานจากกำนัน ๓ ตำบล ต.หนองแสงใหญ่ ต. ทรายมูล ต.โขงเจียม มีดังนี้คือ กำนันเสวก บรรเทา กำนันอัมพร บุญช่วยเหลือ กำนันประสาทพร ริมทอง)

เวลา ๑๐.๐๐ น. มีการเคลื่อนย้ายคนเข้าสู่โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนปากมูล ประมาณ ๑๐๐ คน และสับเปลี่ยนกำลังด้านหน้าประตู เหล็ก ประมาณ ๒๐ คน

เวลา ๑๖. ๓๐ น. ข่าวการสลายการชุมนุมชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน ซึ่งกฟผ. ผสานกับการนำทีมโดยกำนันเสวก บรรเทา (ลูกชายทำงานเป็นยามของกฟผ. นายเที่ยง บรรเทา (ผญบ .ทรายมูล) กำนันอัมพร บุญช่วยเหลือ กำนันประสาทพร ริมทอง

เวลา ๑๗.๐๐ น. กฟผ.ทำการปิดถนน อ้างว่าชาวบ้านแม่มูนมั่นยืนจะทำการยึดหัวงานเขื่อน ทำให้ผู้สัญจรไปมาเดือดร้อน และทำการโวยวาย

เวลา ๑๘.๐๐ น . สถานการณ์ยังคงตรึงเครียด กฟผ.ได้นำเด็กหนุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ ๗๐ คน พร้อมด้วยอาวุธที่ซ่อนได้มีมีดดาบยาว ปืน และอาวุธจากหน่วยงานราชการ บริเวณกลางสะพานสันเขื่อนได้โยกย้ายกำลังคนประมาณ ๑๐๐ คน เคลื่อนกำลังพลนำโดยกำนัน และเจ้าหน้าที่กฟผ. บริเวณท้ายเขื่อน ทางด้านสุพรรณ หวังผลได้นำคนคลุมบริเวณบันไดปลาโจน และริมชายหาดประมาณ ๔๐ คน สถานการณ์โดยทั่วไปมีรถกฟผ.วิ่งออกในหมู่บ้านเพื่อดูสถานการณ์

เวลา ๑๙.๐๐ น. บริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้านหัวเห่วหมู่ ๑๑ สภอ .โขงเจียม นำโดยนายตำรวจใส่เครื่องแบบเต็มยศ ตรวจคนเข้าออก และตรวจชาวบ้านที่สัญจรไปมา กั้นแผงเหล็ก เขียนว่าห้ามเข้า

เวลา ๑๙.๒๐ น. มีรถตำรวจสภอ. โขงเจียม ๒ คัน ขับรถเข้าไปยังบริเวณที่มีการชุมนุมของกฟผ. และในเวลาดังกล่าวยังมี นักข่าวในพื้นที่จากนสพ.ไทยรัฐ ซึ่งเป็นลูกหลานของกำนันตำบลกุดชมภู อ.พิบูลย์มังสาหาร เตรียมเครื่องถ่ายวีดีโอ และเตรียมรายงานข่าวให้กับกฟผ.(ถูกซื้อตัวมาทำข่าว)

เวลา ๒๐.๐๐ น. ปลัดตำรวจจากสภอ.โขงเจียมได้รับการสั่งการให้ลงมาดูความเรียบร้อยในพื้นที่จะขอเข้าไปข้างในหัวงานเขื่อน ทางม็อบรับจ้างกฟผ. บอกว่าเข้าไม่ได้ข้างในยังวุ่นๆ กันอยู่

เวลา ๒๑.๓๐ น. นักข่าวจากนสพ.ไทยรัฐ ได้ออกมาจากบริเวณแผงรั้วกั้นของกฟผ. ทำการขับรถออกมาบริเวณบ้านแม่มูน มั่นยืน ลงจากรถมาพูดคุย เพื่อหาข่าวจากชาวบ้าน

เวลา ๒๒.๐๐ น. ชาวบ้านจากเขื่อนสิรินธร ได้เดินทางจากอ.สิรินธร เพื่อเข้ามาทางบริเวณสันเขื่อนแต่ทางด้านนั้นก็ไม่ให้ เข้ามายังบ้านแม่มูนมั่นยืน ต้องกลับรถมาทางเส้นอ.พิบูลย์มังสาหาร ยังพบว่าทางกฟผ.ได้มีการส่องสุมกำลังพลในบริเวณ หัวงานเขื่อนจำนวนมาก และมีการสบทบกำลังอยู่ตลอดเวลา

เวลา ๒๓.๓๐ น. ชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน ได้ประสานงานกับอาจารย์ที่ปรึกษาให้ประสานกับรัฐบาล เพื่อระงับเหตุที่จะก่อความ รุนแรงจากน้ำมือกฟผ. ในช่วงเวลาดังกล่าวได้มี ตำรวจขับรถมอเตอร์ไซด์ ๔ นาย ทำการตระเวน และประกอบกับมีการสั่งการ จากข้างบนทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงเล็กน้อย สำนักข่าวจากไอทีวี ได้รายงานข่าวทางโทรทัศน์ว่า กฟผ. ได้นำม็อบรับจ้าง มาเพื่อสลาย การชุมนุม

วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๔

เวลา ๐๖.๐๐ น. กฟผ.ยังทำการปิดถนน วันนี้เป็นวันที่กฟผ. ขู่ไว้ว่ากฟผ.กับ แกนนำสคจ. และชาวบ้านแม่มูนมั่นยืนต้องเจอกัน เพราะก่อนหน้านี้นายอดิศักดิ์ สามยืน (รองผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร –ปากมูน) ได้เคยทำการขู่ ๑๔ แกนนำชาวบ้านว่าก่อนการแก้ไขปัญหาต้องฝากอะไรไว้สักอย่าง

ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ เพราะกฟผ. ไม่ยอมยุติ และฟังคำสั่งรัฐบาลทักษิณ รวมทั้งเคารพมติครม.ที่ได้ ตกลงกันเกี่ยวกับการเปิดเขื่อนปากมูลเพื่อทำการศึกษา และวิจัย รวมทั้งฟื้นฟูชีวิตชุมชน

เวลา ๐๙.๐๐ น. ทางกองทัพภาคที่ ๒ ที่ดูแล และรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตอีสานใต้ ได้ส่งผู้พันเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร (รองผู้บังคับการหน่วยพิเศษค่ายสุรนารี) และพันโท ภัทรพล ผ่องแผ้ว (ผู้การ ฉ.ก.ตชด. ๒๒ เขตโขงเจียม) และนายทหารผู้ติดตามอีก ๔ นาย เข้ารับฟังสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และดูเหตุการณ์ที่มีสถานการณ์การข่มขู่ชาวบ้าน แม่มูนมั่นยืนจากกฟผ. หลังจากที่ได้รับฟังสถานการณ์ที่ได้รายงานในวันที่ ๓๐ เม.ย. ๒๕๔๔ พันเอกพิเชษฐ์ ได้กล่าวว่า ไม่ต้องการให้คนไทยด้วยกันทำร้ายกัน อยากให้อยู่ด้วยกันอย่างสันติ ตนมาในวันนี้ก็เพื่อมาดูสถานการณ์ เพื่อให้ทั้ง ๒ ฝ่ายที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ต้องใช้ความรุนแรง

ทางตัวแทนชาวบ้านก็หวั่นวิตกกับปัญหาที่กฟผ. พยายามจะแก้ไขปัญหาโดยการใช้ความรุนแรง จึงขอความร่วมมือกับทาง ทหารว่า ขอหน่วยทหารมาตั้งกองกำลังเพื่อรักษาความสงบ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อไป

เวลา ๑๐.๐๐ น. ทางพันเอกพิเชษฐ์ วิสัยจร และพันโทภัทรพล ผ่องแผ้ว ได้ขอตัวไปเจรจากับทางกฟผ.ฝ่ายผลิต ฯ จากนั้นได้ เดินทางเข้าสู่สันเขื่อน เข้าพบกับกฟผ.ฝ่ายผลิต ก่อนการพูดคุยทางกฟผ. และทางนายสุพรรณ หวังผลได้ขอพูดคุย กันประมาณ ๑๐ นาที จากนั้นนายสุพรรณ หวังผล อดีตผญบ. หัวเห่ว (การไฟฟ้าเคยแต่งตั้ง ให้เป็นคณะกรรมการปลูกป่าของ หน่วยงานกฟผ. (อ้างข้อมูลจากนสพ.ประชารัฐอุบลฯ วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔ ) ได้ทำการเจรจาให้รัฐบาลจ่ายค่าชดเชย จากการปิดเขื่อนวันละ ๕๐๐ บาท เป็นระยะเวลา ๔ เดือน จำนวน ๑๗๐ คน และยังให้ข้อมูลอีกว่าผู้เลี้ยงปลากระชัง จะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง ( เมื่อเดือนพ.ค. –ก.ย.๒๕๔๓ ได้มีการเปิดเขื่อนผู้ที่เลี้ยงปลากระชังไม่ได้ รับผลกระทบใดๆ สาเหตุที่เลี้ยงปลากระชัง สืบเนื่องจากการสร้างเขื่อน ๘ ปีที่ผ่านมาปลามีจำนวนน้อยจนทำให้ผู้ที่มีอาชีพ หาปลาอยู่ไม่ได้ จึงหันมาทดลองเลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งต้นทุนในการเลี้ยงปลาสูงมาก ทำให้บางรายขาดทุน เป็นหนี้แหล่ง ข่าวบ้านหนองเบ็ญ อ.พิบูลย์มังสาหาร จ.อุบลฯ) จากนั้นนายสุพรรณ ซึ่งเป็นตัวแทนจากกฟผ. พยายามจะยืนยันให้ชาวบ้าน ทบทวนมติครม. การเจรจาไม่เป็นผล การเข้าไปในสันเขื่อนได้พบที่ถูกว่าจ้างจำนวนมาก ประมาณ ๓๐๐ คน และมีสื่อท้องถิ่นหลายฉบับที่มารอทำข่าว

เวลา ๒๐.๐๐ น. ทางกฟผ.ได้ส่งวัยรุ่นลัดเลาะตามต้นไม้ ยิงหนังสะติ๊ก และขวางขวดเหล้าเข้ามายังท้ายหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณ ด้านล่างถัดจากท้ายหมู่บ้านเป็นที่อยู่ของพวกนายสุพรรณ หวังผล จากนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นบริเวณ ด้านประตูเหล็ก ทางเข้าสันเขื่อนปากมูล มีผู้ที่ลอยยิงหนังสะติ๊กอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งบริเวณนั้นมีผู้ที่อยู่หน้าประตูของกฟผ.จำนวน ๓๐ คน

วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๔

เวลา ๐๗.๐๐ น. หลังจากที่ชาวบ้านได้ทำพิธีสวดมนต์ร่วมกัน และเปิดการประชุมเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย และเมื่อเกิดเหตุไม่ให้วุ่นวายให้จับกลุ่มกัน และพยายามอยู่ในที่พักอาศัยของตน

เวลา ๐๙.๐๐ น. ข่าวในหมู่บ้านทราบว่ามีชายฉกรรจ์ ๒ นายไม่ทราบชื่อได้มาดักคอยดูเหตุการณ์แถวบ้านผู้ใหญ่บ้านหัวเห่ว หมู่ ๔ นายคำตัน เวียงจันทร์

เวลา ๑๐.๐๐น. บริเวณด้านล่างท้ายหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน มีรถกระบะ ๒ คัน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นรถของนายอำเภอ โขงเจียม ได้ขนข้าวสารอาหารแห้งมาให้ผู้ชุมนุมของนายสุพรรณ หวังผล มีผู้รายงานว่านายอำเภอได้กล่าวว่า ให้ผู้ชุมนุมอยู่นานๆ

เวลา ๑๐.๓๐ น. ทางกฟผ. ได้ให้คนนำสุรา ๒ ลังไปให้ผู้ชุมนุมอยู่เกาะกลาง ซึ่งขวดเหล้าได้ลอยตามน้ำให้เห็นเกลื่อนบริเวณ ท้ายเขื่อน

เวลา ๑๙.๓๐ น. นายสุขี กองสุข และครอบครัวที่อาศัยเพิงพักบริเวณท่าหลวงห่างจากที่ชุมนุมประมาณ ๒๐๐ เมตร ปกติจะมีครอบครัวชาวประมงรายย่อยตั้งเพิงเพื่อจับปลาท้ายเขื่อนเป็นปกติ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นหมู่บ้านเก่าก่อนการสร้างเขื่อน ครอบครัวนายสุขีเป็น ๑ ในหลายครอบครัวที่หาปลาเป็นปกติ จากนั้นพวกนายสุพรรณ หวังผลได้นำพวกประมาณ ๑๐ คนข่มขู่ไม่ให้ลงไปหาปลา เพราะนายสุขี กองสุข และครอบครัวไม่ได้ตีตราเรือ จึงไม่มีสิทธิหาปลาในแม่น้ำมูล จากนั้นได้เกิดการถกเถียงกันขึ้น นายสุขีได้กล่าวว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันไม่น่าจะทะเลาะกัน จากนั้นพวกนายสุพรรณ ไม่ฟังเหตุผล หลุดเข้าทำร้ายพวกนายสุขีซึ่งมีจำนวน ๓ คน ผู้ที่ทำร้ายมีทั้งผู้หญิง และวัยรุ่นหนุ่มฉกรรจ์ที่มีอาการเมา จากนั้นนายสุขี และพวกได้วิ่งร้องไห้มาบอกแม่เจริญ กองสุขซึ่งเป็นแกนนำของสคจ. ว่าตนถูกตีพวกนั้นใช้ไม้ รุมกระทืบพวกตน

เวลา ๒๐.๐๐ น. นางดำ หาญปราบ ได้จากท่าหลวง เข้ามาในที่ชุมนุมและได้กล่าวว่า พวกนายสุพรรณ และพวกกลุ่มเดิม ได้ข่มขู่ และจะมาทำการรื้อบ้านที่สร้างไว้พักอาศัย และหาปลาออกเพราะว่าตนไม่ใช่พวกนายสุพรรณ ไม่ได้ตีตราเรือ

เวลา ๒๐.๓๐ ในหมู่บ้านมี หนุ่มฉกรรจ์ประมาณ ๒๐ คนที่ถูกส่งมาจากกลุ่มที่คัดค้านการปิดเขื่อนของกฟผ. ได้จู่โจมเข้ามาทางท้ายหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน แต่พอดีทางหน่วยรักษาความปลอดภัยได้พบเข้าทำให้คนกลุ่มนั้นถอยหนีกลับไป

วันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔

เวลา ๐๗.๐๐น. ได้ทำการสวดมนต์ และเปิดประชุมในวันเดียวกันนี้ได้มีการพูดถึงการหาอาสาสมัครเพื่อซ่อมที่ปั๊มน้ำ และรายงานผลของมติครม. ที่จะดำเนินการเปิดเขื่อน เพื่อทำการศึกษาระหว่าง ๔ เดือน

ก็ให้ทุกคนเตรียมเครื่องไม้ เครื่องมือ

เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่ประชุมลงมติว่าจะสร้างรั้วขยับออกไปอีกประมาณ ๒๐เมตรเพื่อรักษาความปลอดภัย และได้เขียนป้ายว่าพวกเราบ้านแม่มูนมั่นยืน เขตปลอดความรุนแรง

เวลา ๒๐.๐๐ น. มีชายฉกรรจ์ จำนวน ๔ คน ได้นำรถปิ๊กอัพ สีแดง (หมายเลขทะเบียน ๕๑๐๙)

มาจอดบริเวณที่ปั๊มน้ำ ห่างจากบ้านแม่มูนมั่นยืน ประมาณ ๑๐๐ เมตร ถูกชายฉกรรจ์ราดน้ำมันและเผาเครื่องปั๊มน้ำ ในเวลาดังกล่าวตชด. ๒๒ จำนวน ๘ นาย เข้ามาพบเห็นเหตุการณ์ที่ไฟลุกไหม้พอดี แต่ผู้วางเพลิงได้หนีไปอย่างรวดเร็ว ตชด.๒๒ ได้นำกองกำลังเคลื่อนที่เสริมกำลังด่วนอีก ๑ คันรถ มาสบทบกลัวเหตุเกิดความรุนแรงกับชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน

วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๔

เวลา ๒๐.๐๐ น. มีหน่วยเคลื่อนที่ด่วนของกฟผ. ได้ยิงหนังสะติ๊กเข้ามาเป็นห่าฝนจำนวน ๓ ระลอก ก้อนหินขนาด ๑ ฝามือ ยิงเข้ามายังเพิงพักของนางเจริญ กองสุข

เวลา ๒๑.๐๐ น. มีคนเข้าทางปั๊มน้ำ และมีเสียงเปาปากจำนวนมาก๑๐ คน และมีการเคาะเหล็ก ทราบมาว่าทางกฟผ.ได้ วางแผนส่งคนมารบกวนทุกวัน

เวลา ๒๑.๓๐ น. ทางกฟผ.ได้ส่งคนประมาณ ๔๐ คน ลงทางบันไดปลาโจน ปกติบริเวณดังกล่าวจะเปิดไฟอยู่ตลอดเวลา ในเวลาดังกล่าวกฟผ.ปิดไฟและทำการขนคนเข้าสมทบกับพวกของนายสุพรรณ หวังผล มาอยู่บริเวณหาดทรายท้ายหมู่บ้าน

เวลา ๒๒.๐๐ น. กลุ่มคนของกฟผ.ดังกล่าวที่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่ ๒๐๐-๕๐๐ บาท พยายามจะลุกเข้ามาประชิดทาง ประตูท้ายหมู่บ้าน แต่เวลาดังกล่าวตชด. ได้มาตรึงกำลังไว้ประมาณ ๕ นาย เพื่อดูเหตุการณ์

วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๔๔ กฟผ.ทำร้ายเด็กน้อยบ้านหัวเห่วไม่ให้หาปลา

เด็กชายอครินทร์ ทีอัด อายุประมาณ ๑๔ ปี จบชั้นประถมปีที่ ๖ มาได้ ๒ ปี พ่อแม่ไม่มีเงินจะส่งเสียให้เรียนต่อชั้นมัธยม ศึกษาตอนต้น ปัจจุบันจึงมีอาชีพหาปลาบริเวณท้ายเขื่อน เวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. เป็นเวลาปกติที่เด็กชายอครินทร์จะลง ไปหาปลาที่แม่น้ำมูนบริเวณท้ายเขื่อน เพื่อนำมาประกอบอาหาร ถ้ามื้อไหนหาได้ประมาณ ๒ กิโลกรัมก็จะนำมาขายให้สมาชิก ในบ้าน ระหว่างที่เด็กชายอครินทร์ถือมอง และไม้พายเดินจากหมู่บ้านแม่มูนเพื่อลงไปที่ท้ายหมู่บ้าน เพื่อจะลงไปหาปลา ขณะนี้มีพวกนายสุพรรณ หวังผลที่ได้รับจ้างรายละ ๒๐๐–๕๐๐ บาทประมาณ ๒๐ คน และสมทบจากบ้านทรายมูล บ้านชาด นิคมสิรินธร ประมาณ ๓๐ คน ได้ร่วมสมทบอยู่เกาะกลางน้ำ บริเวณท้ายเขื่อน พวกนายสุพรรณเมื่อเห็นเด็กชายอครินทร์ ซึ่งเป็นลูกหลานของนายสุพรรณ แต่พ่อแม่ของด.ช.อครินทร์มาเข้ากับทางสมัชชาคนจน ไม่ให้ลงท่าแม่น้ำมูนหาปลา

ทั้งตะโกนว่า “พวกมึงไม่ใช่พวกกู ถ้ามึงอยากหาปลาต้องให้พวกพ่อแม่มึงมาเข้าพวกกับกู” เด็กชายฟังสักพักก็นิ่งเฉย หลังจากนั้นพวกนายสุพรรณประมาณ ๑๐ คนก็วิ่งเข้ามา ทำให้เด็กชายอครินทร์วิ่งจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว วิ่งไปหาแม่ของตน

จากนั้นชาวบ้านแม่มูนมั่นยืนได้ประชุมเร่งด่วนอย่างไม่เป็นทางการ ว่าแม้แต่พันเอกพิเชษฐ์ วิสัยจรลงมาไกล่เกลี่ยการไฟฟ้า ฝ่ายผลิต ยังคงมีท่าที่ที่แข็งกร้าว ไม่ยอมรับมติ ยังมีแผนกดดัน และการใช้ความรุนแรงเข้าแก้ไขปัญหา ทำให้ชาวบ้านคิดไป ว่าทำไมกฟผ. ถึงไม่ยอมรับมติครม. รวมทั้งยังคงเพิ่มจำนวนคน รวมทั้งจ้างวานคนมามากกว่าทุกครั้งประมาณ ๓๐๐ คนที่กระจายกำลังคลุมพื้นที่ล้อมบ้านแม่มูนมั่นยืน กลั่นแกล้งผู้เฒ่า ผู้แก่ เผาที่ปั๊มน้ำ ยิงก้อนหิน และขวางปลาขวดเหล้าใส่ กระต๊อบผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านแม่มูนมั่นยืน

กฟผ.ให้ทั้งเงินจ้างวานม็อบมาชนกับชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน ค่าจ้างตั้งแต่ ๒๐๐–๕๐๐ บาท รวมทั้งส่งข้าวส่งน้ำ ส่งเหล้า จ้างวานรถ จ้างวานซื้อตัวสื่อมวลชนท้องถิ่น

ในขณะที่ค่าไฟขึ้นอยู่ทุกวัน ทำไมการตรวจสอบกฟผ.ตรงนี้ถึงไม่มีเกิดขึ้น ทำไมประชาชนต้องแบกภาระหนี้สินตรงนี้ด้วย วานสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบหาความจริงด้วย

วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๔ กฟผ.วางยาฆ่าแมลงลงบ่อน้ำกินของชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน

ในตอนเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น. แม่ใหญ่กลม ผู้เฒ่าวัย ๗๐ ปี นักต่อสู้ปากมูนตั้งแต่ก่อสร้างเขื่อนรวมเวลา ๑๐ ปี ได้หาบถัง น้ำสีดำใบเล็ก ๒ ใบ กับเพื่อน อีก ๒ คนไปที่บ่อน้ำสร้าง(บ่อน้ำกิน) ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของพ่อเริญ เวียงจันทร์ เจ้าของที่ดินเดิม พอไปถึงบริเวณบ่อน้ำดังกล่าว เห็นขวดโพลิดอน(ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงอยู่รอบบ่อน้ำ) เมื่อสังเกตลงไปในน้ำมีคราบยา และกลิ่นเหม็นยามาก

แม่ใหญ่อดกลั้นอารมณ์บอกว่า ทำไมกฟผ. ชั่วร้าย ทำเรื่องเลวทรามอย่างนี้ได้ วันก่อนก็ส่งคนมาเผาเครื่องปั๊มน้ำ มาวันนี้ก็ยัง มาวางยาในบ่อน้ำกินอีก จะให้พวกเราตายหรือยังไง

แม่ใหญ่พูดปนน้ำตาว่า “กฟผ.มันเอามูน มันเอาพี่น้องเราไปอยู่บ้านอื่น มันวางยาฆ่าปลาแล้ว มันยังจะมาฆ่าเราอีก เอายาฆ่า แมลงมาใส่ลงบ่อน้ำกิน คนเขาไม่ทำกันอย่างนี้หรอก”

หลังจากนั้นผู้อาวุโสหมู่บ้านเรียกประชุมเร่งด่วนว่า ถึงอย่างไรพวกเราก็จะอยู่เพื่อพิสูจน์ความจริง กับการแก้ไขปัญหาอย่างไร ให้พี่น้องทุกคนดูแลตัวเองให้ดี ส่วนน้ำก็พยายามนำมาจากแหล่งอื่น

วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๔๔ ฟื้นฟูชีวิตจิตใจ บ้านแม่มูนมั่นยืน

แม่มยุรี อ่อนกะตาแกนนำบ้านแม่มูนมั่นยืน ได้ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการทำพิธีเนา เป็นพิธีวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยที่ชาวบ้าน ทุกคนร่วมอัญเชิญพระพุทธรูปทรงน้ำ และนิมนต์พระสงฆ์มาร่วมพิธีกรรมและฉันท์เพล มีการก่อเจดีย์ทราย จุดประสงค์คือ ให้ชาวบ้านรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมทั้งคำนึงถึงคุณแม่น้ำ เกาะแก่งแหล่งธรรมชาติที่เป็น แหล่งหาปลา ผัก และสมุนไพร ปกติพิธีกรรมนี้จะทำกันที่เกาะแก่งกลางน้ำ หลังสร้างเขื่อนมา ๘ ปี พิธีกรรมนี้หายไปจาก ชุมนุมเพราะเกาะแก่งกลางน้ำถูกน้ำท่วม แต่ปัจจุบันหลังจากมีมติครม กฟผ.ระบายน้ำในระดับ ๑๐๕ รทก. ทำให้เกาะแก่ง ต่างๆ โผล่ขึ้นมาอวดโฉมกลางแม่น้ำมูน ทำให้ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ดีใจ และบางบ้านก็มีมติว่าจะทำการรื้อฟื้น ประเพณี และวัฒนธรรมภูมิปัญญาชาวบ้าน เหมือนแต่เก่าก่อน แล้วก็หวังว่าจะทำการสืบทอดประเพณีต่อไปชั่วลูกหลาน ให้เกิดเป็นจุดศูนย์รวมทางจิตใจ สังคม และวัฒนธรรมของคนลุ่มน้ำสืบไป

วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๔๔ กฟผ.จ้างศพละ ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. มีเจ้าหน้าที่กฟผ. ให้คนขนถังน้ำมันเปล่าประมาณ ๒๐๐ ลิตร จำนวน ๒๐ ถัง เตรียมทำแพอยู่ท้ายเขื่อน เพื่อคัดค้านการเปิดประตูน้ำทั้ง ๘ บาน ที่รัฐบาลได้มีมติครม. ให้เปิดเขื่อนวันที่ ๑๕ พ.ค. ๒๕๔๔ เส้นทางการลำเลียงถังน้ำมันได้ผ่านมาทางท่าหลวง ท่าน้ำเก่าบ้านหัวเห่ว และเป็นบริเวณที่ลูกชายแกนนำสมัชชาคนจน ถูกทำร้ายเมื่อ ๔ วันที่ผ่านมา

จากการสอบถามชาวบ้านบ้านหัวเห่ว หมู่ ๑ ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี แจ้งให้ทราบว่า กฟผ. มีแผนการที่จะใช้ ความรุนแรงเพื่อคัดค้านการเปิดบานประตูน้ำทั้ง ๘ บานของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งให้คำมั่นสัญญากับพวก ม็อบรับจ้างว่า ถ้าผู้ใดปฏิบัติงานครั้งนี้เสียชีวิต จะจ่ายศพละ ๑ ล้านบาท

ส่วนชาวบ้านแม่มูนมั่นยืน ประกาศยืนยันจะใช้แนวทางสันติวิธี เพื่อรอผลของการเปิดบานประตูน้ำ

ในระหว่างได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับพี่น้องสองฝั่งริมแม่น้ำมูล ในเรื่องการเปิดบานประตูน้ำวันที่ ๑๕ พ.ค. ๒๕๔๔ นี้ เพื่อผลของการศึกษาจะทำการฟื้นฟูชีวิตชุมชน และธรรมชาติต่อไป

วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๔ กฟผ.ฝืนมติเอางบประชาสัมพันธ์จ้างคนค้านเปิดเขื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กฟผ. ได้พยายามร่วมมือกับกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีข้าราชการท้องถิ่นบางคนเข้าร่วม ซึ่งได้รับสินจ้าง ณ วันนี้ที่ทำการของกฟผ.สันเขื่อนปากมูล  

ในแต่ละวันจะมีการขนสุรา นารี   มีนายสมมุติ เล่าให้ฟังว่า ในระหว่างที่ยังไม่ได้รับค่าจ้างของกฟผ. บางคนสามารถหา เศษหาเลย กับผู้หญิงที่มาให้บริการ รวมทั้งมีน้ำในกระติ๊กให้ดื่มทุกวัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเย้ายวนใจให้กับผู้รับจ้างวันละ ๒๐๐-๕๐๐ บาท ในที่ทำการของกฟผ. มีการฝึกปรือกำลังพลเพื่อให้มาทำร้ายชาวบ้านปากมูลอยู่ตลอดเวลา คนที่รับจ้างมักกระทำการโดยขาดสติอย่างเช่นเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านแม่มูนมั่นยืน เมื่วันที่ ๑๙-๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔

และในเช้านี้เวลา ๐๙.๐๐ น. มีผู้รายงานว่าในนิคมแถวเขื่อนสิรินธร มี รถกระจายเสียงติดโทรโค้ง ๑ คัน มีรถ ๖ ล้อ ๖ คัน และรถกระบะ๒ คัน ซึ่งมีอดีตกำนันคือ นายเสวก บรรเทา(เป็นผู้ที่เคยนำอาวุธยิงพี่น้องชาวบ้านปากมูลสมัยปี ๒๕๓๖ ซึ่งขณะนี้กระสุนยังคงฝังในชาวบ้านผู้นั้นอยู่) เป็นผู้นำขบวน และทำการรวบรวมคนประมาณ ๒๐๐ คน ทราบมาว่าเริ่มระดม คนเข้าสันเขื่อนปากมูล เพื่อมาคัดค้านการเปิดเขื่อนในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔๔ โดยมีมติครมให้เปิดเขื่อนอย่างเป็นทาง การแล้ว

วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๔ กฟผ.ส่งมือดีเบื่อปลาในแม่น้ำมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการส่งหนังสือ ได้นำตัวอย่างปลาเน่า และน้ำเน่าไปให้ผู้ว่าฯราชการจังหวัด ในวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๔๔ ณ บัดนี้ การเบื่อปลาก็ยังไม่ยุติ

นายนุช นนท์ศิริ ซึ่งเป็นคนหาปลาได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผมได้พายเรือออกไปหาปลาตามขุม ตามวัง พบว่าปลาเน่า น้ำก็เน่าเหม็นทั่วไปหมด และแถวบริเวณดอนธาตุของหลวงปู่เสาร์ พบยาเป็นเม็ดๆ ลอยขึ้นมา ขณะที่เห็นยาพวกนี้ลอย ผมก็เห็นมีถุงลอยขึ้นเหนือน้ำ ผมก็ใช้มีดตัด หลังจากตัดก็มียาลอยขึ้นมาเหม็นมาก

จากการพูดคุยกันทราบมาว่า มีการเบื่อปลาในหลายจุดจากเกาะแก่ง และดอน ต่างๆ ในลำน้ำมูล รวมทั้งแม่น้ำสาขา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการเบื่อปลา ถ้าปลาได้กลิ่นปลาจะไม่เดินทางเข้าเส้นทางน้ำนั้น

ผู้สื่อข่าว “ถามว่ามีผลกับการเปิดเขื่อนไหม ?” ชาวบ้านตอบมีแน่นอน เพราะถ้ามีสารเคมีตกค้างในถ้ำที่ปลาอาศัยอยู่ และเกาะแก่ง จะทำให้ปลาไม่เข้าวัง หรือถ้ำ ผลก็คือสารเคมีชนิดดังกล่าวเป็นยาฆ่าแมลง(พลูระดาน) ทำให้มีฤทธิ์ตกค้างนาน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กฟผ.เคยพูดอย่างท้าทายจะไม่มีปลาขึ้นมาในแม่น้ำมูล ยังเคยให้ข้อมูลกับชาวบ้านว่าปลา ขึ้นมาจากแม่น้ำอื่น ไม่ใช่แม่น้ำโขง และขณะนี้ทางกฟผ.ได้จ้างเครื่องเลด้าตรวจปลาเข้ามา ซึ่งราคาเครื่องประมาณ ๓๐ ล้านได้นำเข้าประมาณ ๒ เครื่องจากประเทศญี่ปุ่น ผลก็คือว่ากฟผ.ไม่ยอมรับฟังเสียงของประชาชน และยังทำการฝืนมติ ครม.ยังเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการจ้างวานคนมาต่อต้านการเปิดเขื่อน การเบื่อปลาในแม่น้ำมูล รวมทั้งสร้างความแตกแยก ให้กับประชาชน กระบวนการดังกล่าวอยู่ภายใต้อำนาจ เงิน ในขณะที่กฟผ.พยายามผลักภาระให้ประชาชนในการขึ้นค่าไฟ แต่ทำไหมหน่วยงานอย่างเช่น กฟผ.เขื่อนสิรินธรและปากมูล ยังคงได้รับเงินประชาสัมพันธ์มากมายมหาศาล ซึ่งเป็นการใช้ งบ ประมาณที่ผิดทาง เงินที่ได้เป็นเงินภาษีของราษฎรทั้งสิน การผลักภาระเช่นนี้ควรจะมีอยู่ต่อไปหรือ วานให้สื่อมวลชนช่วย ตรวจสอบเงินที่ใช้ในทางมิชอบนี้ด้วย เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน

วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๔   

ที่สันเขื่อนปากมูลบริเวณปากโดม (ลำโดมน้อย)จนถึงแก่งตาดโตน บริเวณปากห้วยหมากไฮ มีรายงานมาว่ามีปลาเน่าตายเป็นร้อยส่งกลิ่นเห็นไปทั่วบริเวณ ปลาที่พบเห็นมีทั้งหมด 11 ชนิด มีปลากด ปลาสูด ปลาอีกา ปลาอีก่ำ ปลาอีไท ปลาสร้อย ปลาเคิง ปลาตองแร่ ปลาจอกหิน ปลาขาวมน ปลาเสือ ชาวบ้านรายงานว่าพบคนของ กฟผ.ที่ถูกจ้างมา อยู่ริมแม่น้ำมูลฝั่งขวา แลริมแม่น้ำลำโดมน้อย ที่บริเวณปากห้วยหว่า

ที่อำเภอสิรินธรผัง 2 มีการระดมชาวบ้านกว่าสองร้อยคนนำโดยอดีตกำนันเสวก และวิทยามาชี้แจงข่าวและฉายหนังจาก กฟผ.พร้อมทั้งเลี้ยงข้าวปลาอาหารให้กับผู้คนที่มาดูหนังกว่า 200 และตอนนี้มีการปลอยข่าวว่าน้ำบาดาลจะไม่มีใช้เมือเปิด เขื่อนชาวบ้านจะเดือดร้อยไปทั่ว ทั้งๆที่เป็นหน้าฝน  

ที่สันเขื่อนปากมูลช่วงหกโมงเย็น กฟผ.จะปิดถนนเป็นปกติทุกวันไม่ให้คนผ่านไปผ่านมาโดยอ้างว่าเกิดเหตุการณ์ ไม่สงบ ที่สันเขื่อนปากมูล เพราะสมัชชาบ้านแม่มูนมั่นยืนจะเข้าทำการยึดเขือนปากมูลทำให้ชาวบ้านหรือคนทั่วไปบ่นกันตามๆกันว่า “มันยุ่งยากก็เพราะม็อบนี้เหละทำให้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องต้องเดือดร้อนไปด้วย” กฟผ.กล่าวว่าต้องอ้อมไปทางพิบูลฯก่อน จนกว่าเหตุการณ์จะสงบเรียบร้อย จึงทำให้ผู้คนอื่นๆต้องเดือนร้อนความจริงคือสมัชชาคนจน บ้านแม่มูนมั่นยืนก็อยู่กันอย่าง สงบเรียบร้อยไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องเข้าไปยึดเขื่อนปากมูลเพราะมติ ครม.วันที่ 17 เมษายน 2544 ก็ออกมาชัดเจนว่าต้อง ทำการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน โดยให้รัฐบาลสั่งการให้ กฟผ.เปิดประตูน้ำทั้ง 8 บานสุดบานประตูเป็นเวลา 4 เดือนและ ดำเนินการศึกษาลุ่มน้ำธรรมชาติจากการเปิดประตูน้ำทั้ง 8 บาน และให้รัฐบาลอำนวยการและให้การสนับสนุน ทรัพยากร บุคคลและงบประมาณแก่คณะทำงานทั้ง 2 คณะที่จัดตั้งขึ้น ได้แก่คณะทำงานทดรองการเปิดเขื่อนปากมูล และคณะทำงาน เพื่อฟื้นฟูชุมชนผู้ได้รับผลกระทบจาการสร้างเขื่อนปากมูล ชาวบ้านที่บ้านแม่มูนมั่นยืนรู้เรื่องนี้ดีทุกคนเหตุผลของ กฟผ.จึงฟังไม่ขึ้นที่ว่า สมัชชามีที่ท่าว่าจะมายึดเขื่อนจึงไม่เป็นความจริง เป็นแผนการทำลายความชอบธรรมของชาวบ้าน ที่ชุมนุมกันอย่างสงบ และใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหามา โดยตลอด

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา