แถลงข่าวเดินเท้าทางไกลถึงสื่อมวลชน
และองค์กรพันธมิตร
ถึงแม้ว่าจะมีมติ
ค.ร.ม เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน
๒๕๔๔
ให้ทดลองเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล เพื่อศึกษาวิจัย
ฟื้นฟูลุ่มน้ำมูน และมติ ค.ร.ม
๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๓
ให้เปิดประตูน้ำเขื่อนราษีไศล
เพื่อศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคม
เพราะนับตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อนทั้งสองแห่งในปีพ.ศ.๒๕๓๔
(เขื่อนปากมูล) และปี พ.ศ.๒๕๓๖
(เขื่อนราษีไศล)
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบก็ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม
สังคม ชุมชนมาโดยตลอด มติค.ร.ม.
ทั้งสองครั้ง
ดูเสมือนไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ใดๆ
สำหรับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ(กฟผ.)
และหน่วยงานอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของรัฐบาลเป็นเพียงการซื้อเวลาของทุกฝ่าย
งบประมาณสำหรับการศึกษาของนักวิชาการทีเป็นกลางก็มีจำนวนน้อยและติดขัด
เมื่อเทียบกับเงินของ กฟผ.ที่จ้างนักวิชาการอีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมาศึกษาแข่ง
ถึงแม้จะเป็นการขัดคำสั่งของ
ค.ร.ม
งบศึกษาวิจัยของเขื่อนราษีไศลก็มาจากกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
ซึ่งเป็นหน่วยเจ้าของโครงการก่อสร้างโดยตรง
ซึ่งแน่นอนผลการศึกษาก็จะต้องออกมาตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ
ในขณะที่มีผลการศึกษาของคณะกรรมการเขื่อนโลก
คณะกรรมการที่ประกอบด้วยนักวิชาการในอดีตเป็นจำนวนมาก
ก็ไม่สามารถทำให้เกิดการยอมรับกับรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมา
ยังคงตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา
ชุดแล้วชุดเล่า
เพื่อประวิงเวลาการที่ปัญหาต่างๆ
จะปะทุขึ้นมาอีก
สมัชชาคนจนที่รวมตัวกันอยู่ที่เขื่อนปากมูล
โดยใช้ชื่อหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มีนาคม
๒๕๔๒ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
เราไม่มีความหวังใดๆ
ทั้งสิ้นกับมติ ค.ร.ม
หรือความตั้งใจจริงของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พวกเราจึงตัดสินใจปฏิบัติการเดินเท้าทางไกล
จากเขื่อนปากมูล
ถึงทำเนียบรัฐบาล
ด้วยระยะทางกว่า ๗๐๐
กิโลเมตร
เพื่อขอการสนับสนุนจากประชาชนชาวอีสานและประชาชนทั่วไปต่อข้อเรียกร้องของพวกเรา
ที่ให้เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลและเขื่อนราษีไศลอย่างถาวร
เพื่อคืนธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
ฟื้นฟูชุมชนต่างๆ
ที่เคยพึ่งพาลำน้ำมูน
ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ลูกหลานของเราไม่ควรจะทุกข์ยากและหิวโหยอีกต่อไป
แม้การเดินเท้าทางไกลจะยาวนานและยากลำบากเพียงใด
เราก็จะไม่ย่อท้อ
จนกว่าผู้มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติ
นโยบายและวิธีปฏิบัติ
ต่อธรรมชาติ
และประชาชนคนลุ่มน้ำมูน
การเดินเท้าจะเริ่มต้นออกจากแม่มูนมั่นยืน
ที่สันเขื่อนปากมูล
ในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๔
โดยจะขอชี้แจงเรื่องราวต่างๆ
และขอการสนับสนุนจากพี่น้องชาวอีสานตลอดจนผู้รักความเป็นธรรม
รักธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
จากชาวไทยและชาวโลกทั้งมวล
สมัชชาคนจน
หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
๕
ตุลาคม ๒๕๔๔
|