eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

เดินเท้าคนจนได้กำลังใจเต็มเปี่ยม ข้างทางส่งเสบียง  ขานรับการเปิดประตูน้ำ

 

นับเป็นวันที่ ๓ ของการเดินเท้าทางไกลเพื่อการคืนสันติให้ประชาติ คืนธรรมชาติให้ประชาชน ซึ่งมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ในการเดินทางรายทางเกือบ ๓๐ กิโลเมตร ต่างได้รับความสนใจจากผู้คนรอบข้างพอสมควร เช่น มีการนำเสบียงอาหารออกมาให้ เตรียมน้ำไว้ข้างทางที่เดินผ่าน ในบางหมู่บ้านชาวบ้านได้นำพวงมาลัย ดอกไม้มามอบให้กับอาสาสมัครด้วย

ในคืนที่ผ่านมาชาวบ้านได้พักค้างคืนที่วัดบ้านสะพือเหนือ ซึ่งชาวบ้านก็ได้ให้การต้อนรับชาวบ้านเป็นอย่างดี ต่างนำข้าวปลาอาหาร ปลาร้า และอื่นๆ เข้ามาสนับสนุน ในช่วงเช้าของวันนี้อาสาสมัครได้เดินทางออกจาที่พักในเวลา ๐๖.๐๐ น.โดยได้เคลื่อนขบวนเข้ารณรงค์ ในตลาด และสถานีขนส่ง อ.พิบูลฯ โดยได้ตั้งเวทีชี้แจงพร้อมกับมีอาสาสมัครเดินแจงเอกสาร ให้กับผู้คนในตลาด ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากคนอำเภอพิบูลฯเป็นอย่างดี แม่ค้าพ่อค้าที่ค้าขายและชาวบ้านที่มาซื้อของในตลาดต่างซักถาม อย่างเป็นกันเอง บางคนได้นำน้ำและอาหารถุงมอบให้กับชาวบ้าน

หลังจากที่ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชาวอ.พิบูลฯประมาณ 1 ชั่วโมง ขบวนได้เคลื่อนไปพักรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอพิบูลมังสาหาร แล้วเคลื่อนไปตามชุมชนใกล้เคียงเพื่อขอแรงสนับสนุนต่อตามเส้นเลียบน้ำมูน

ชาวบ้านโพธิ์ตาก ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนริมแม่น้ำมูนให้ความเห็นว่า ตนเห็นด้วยกับการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล แต่ขณะนี้ชาวพิบูลจะสับสนเนื่องจากมีคนกลุ่มหนึ่งอ้างว่าเป็นกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำมูน แต่ก็แปลกใจ เนื่องจากเรียกร้องให้ปิดเขื่อนปากมูล ชาวบ้านโพธิ์ตากคนหนึ่งกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ตนหาปลาในแม่น้ำมูนได้หลังจากที่ไม่เคยจับได้มาเกือบสิบปี ปลาที่ไม่เคยได้ก็มีในปีนี้ ตนจึงไม่เข้าใจว่า มีเหตุผลใดที่จะให้ปิดเขื่อนต่อไป

นายเจน พิมพดี อายุ ๗๒ ปี ตัวแทนชาวบ้านบ้านดอนพันชาด ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม จ.อุบลฯ บอกว่า รู้สึกว่าการออกเดินเท้ารณรงค์ ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เคยทำกันมาในสมัชชาคนจน สองวันที่ผ่านมาก็ได้รับกำลังใจจากชาวบ้านที่ผ่านไปมา บางคนก็โบกมือให้ บางคนตะโกนให้กำลังใจ แต่ก็มีที่ว่าในทางที่ไม่ดี ซึ่งตนก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ขบวนเดินเท้าในครั้งนี้เป้าหมายก็คือเราต้องทำให้คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเราให้ได้เพื่อที่จะได้แม่น้ำมูนกลับคืนมา

นางสางพิลาวัลย์ พัวเพิ่มพูลศิริ เจ้าของร้านค้าขายอุปกรณ์การเกษร และอุปกรณ์ก่อสร้าง ในอำเภอพิบูลมังสาหารกล่าวว่าโดยส่วนตัวแล้วตนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเดินขบวน เพราะสงสารคนแก่ที่ต้องมาเดินทางไกลอย่างนี้ มันน่าจะมีการหาทางออกในการแก้ไขปัญหาดีกว่าโดยไม่ต้องให้ชาวบ้านมาเหนื่อยกันอย่างนี้ แต่สิ่งที่เห็นในปีนี้ภายหลังการเปิดเขื่อน คือตนขายอุปกรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์การทำประมง จะมีชาวบ้านมาซื้อกันมาก และเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาที่ตลาดอำเภอพิบูลฯ มีปลาตัวใหญ่มาวางขายกันมาก และหากเปิดเขื่อนปากมูลอำเภอพิบูลมังสาหารและจังหวัดอุบลฯก็จะไม่พบกับสภาวะน้ำท่วมหนักแบบนี้

....................................

ในเส้นทางเดินผ่านมีการสนับสนุนเสบียงอาหารอยู่ตลอดทาง และในวันนี้มีตัวแทนจากชุมชนแออัด อุบลราชธานีได้นำข้าวสารจำนวน ๒ กระสอบ และปลาแห้ง ๒ กระสอบ มาสนับสนุนการเดินเท้าของชาวบ้านสมัชชาคนจน

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา