eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

240 วัน ชาวแม่มูนรับขบวนกลับสู่หมู่บ้านคึกคัก

เตรียมพร้อมรณรงค์ใหญ่คนได้ประโยชน์จากเปิดเขื่อนปากมูล

 

ขบวนเดินเท้าทางไกล ได้เดินทางออกจากวัดบุปผาวัน บ้านด่านใหม่ ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลฯ มุ่งหน้าไปตามเส้นทางโขงเจียม-พิบูลฯ เพื่อเข้าสู่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ซึ่งอยู่ห่างประมาณ ๑๐ กิโลเมตร โดยมีผู้เข้าร่วมเดินทั้งหมดประมาณ ๘๐ คน

            เมื่อเดินทางมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน ได้มีชาวบ้านจากหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน จำนวนประมาณ ๕๐ คน ซึ่งได้ออกมารอต้อนรับตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยมีคณะกองยาวจากบ้านคันเปือย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลฯ มาบรรเลงจังหวะให้ผู้ต้อนรับฟ้อนรำรับขบวนกันด้วยความคึกคัก

            ตลอดระยะทางขบวนผ่านบ้านหัวเห่วหมู่ ๑๑ ด้วยระยะทาง ๔ กิโลเมตรจากปากทางเข้าหมู่บ้าน มีชาวบ้านนำน้ำดื่มออกมาต้อนรับขบวนอยู่ตลอดทาง  ขบวนได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ในเวลา ๐๘.๔๐ น.เมื่อขบวนใกล้เข้ามาถึงหน้าหมู่บ้านชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ตั้งแถวรอรับ มีพวงมาลัย ดอกไม้มอบให้ รวมถึงของกินต่างๆ เช่น ขนม กล้วยและอื่นๆ มีการโปรยดอกไม้ทางเข้าหมู่บ้านขณะที่ขบวนเคลื่อนเข้าหมู่บ้าน พร้อมกับคำกล่าวต้อนรับกันคึกคัก

            เมื่อเข้าสู่บริเวณหมู่บ้าน ขบวนได้เดินรอบสวนหย่อม และรวมที่ด้านหน้าเวที นายสุนทร หอมสิน ตัวแทนชาวบ้านกล่าวต้อนรับ พร้อมเชิญชวนให้ผู้เดิเท้าทางไกลร่วมกันรับประทานอาหารเช้าที่ชาวบ้านแม่มูนมั่นยืนได้จัดเตรียมไว้ให้ ที่ศาลารวมใจ ทั้งหมดจึงเข้ารวมกันที่ศาลารวมใจของหมู่บ้าน

            ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น.นายหนู พลศรี พร้อมชาวบ้านหมู่บ้านประมาณ ๔๐๐ คน ได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับขบวนเดินเท้า เมื่อสู่ขวัญเรียบร้อยแล้ว ก็ร่วมผูกข้อมือ เรียกขวัญอวยพรให้แก่กันและกัน พร้อทั้งได้นัดหมายในเย็นของวันเดียวกันจะได้จัดเฉลิมฉลองรับขบวนด้วยคณะหมอลำ และจะได้มอบผ้าขาวม้าเป็นกำลังใจต่อผู้เดินเท้าทางไกล

            นายถา พบสุข ตัวแทนชาวบ้านผู้ได้เคยเข้าร่วมขบวนเดินเท้าทางไกลหลายรุ่น ให้ความเห็นว่า การเดินเท้าทางไกลของชาวบ้านในครั้งนี้นับเป็นเวลา 8 เดือนถือว่าประสบผลสำเร็จ บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ คือ เราได้รณรงค์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลและเขื่อนราษีไศลอย่างถาวร ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เดินทางผ่านก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี บางหมู่บ้านก็เอาอาหาร ข้าวสารมาให้เป็นกำลังใจ เมื่อผ่านไปตามทางก็ได้รับคำพูดจากคนข้างทางให้กำลังใจอยู่ตลอดทาง ทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น บางพื้นที่ก็เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐเช่นเดียวกัน ก็ยิ่งเข้าใจสิ่งที่เราไปรณรงค์มากขึ้น คิดว่าการเดินทาง 8 เดือน ทั่วภาคอีสานประสบผลสำเร็จอยู่พอสมควร นายถากล่าวในที่สุด

            อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงเหตุผลที่เดินทางกลับสู่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน นายถากล่าวว่า ที่ขบวนเดินทางกลับชาวบ้านได้ตกลงกันไว้ในเบื้องต้นแล้วก่อนการเดินเท้าว่าจะเดินถึงเมื่อใด ก็ได้คำตอบเป็นข้อตกลงร่วมกันว่าจะเดินจนกว่าจะครบกำหนดมติครม.ที่ให้เปิดประตูระบายน้ำ 1 ปี ซึ่งมาถึงวันนี้อีกไม่กี่วันก็จะครบกำหนดแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่อยากให้มีการปิดเขื่อนเนื่องจากการเปิดเขื่อนทำให้ตนสามารถทำมาหากินได้ ถ้าให้เรียกร้องในตอนนี้อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเขื่อนต่อเพื่อที่ชาวบ้านจะได้ทำมาหากินต่อไปได้

            ทางด้านกิจวัตรประจำวันของขบวนเดินเท้าทางไกล นางเพ็ญณี นนท์ศิริ ตัวแทนชาวบ้านจากเขื่อนสิรินธร กล่าวว่า กิจวัตรประจำวันของขบวนเดินเท้ารณรงค์ได้แก่ การรณรงค์เป็นหลัก แต่การเดินทางจะเดินตั้งแต่เช้า โดยจะเริ่มออกเดินตั้งแต่ตีห้า หรือเร็วกว่านั้นตามแต่ระยะทางของแต่ละวัน เพราะบางวันเดินไกล 15 กิโลฯ 17 กิโล ก็ต้องออกตั้งแต่ตีสาม ถ้า 7 กิโล หรือ 5 กิโล ก็ออกตีห้า ดังนั้นการตื่นก็ต้องตื่นตามสภาพของแต่ละวันเพื่อไม่ให้แดดร้อนตามทาง เมื่อเดินทางไปถึงที่พักของอีกหมู่บ้านหนึ่งจึงจะได้กินข้าวเช้า ซึ่งก็จะมีฝ่ายรับผิดชอบเรื่องการทำอาหารเป็นผู้ทำอาหารรอในแต่ละวัน เมื่อผ่านไปชุมชนใดก็จะแจกใบบอกข่าว และรณรงค์ผ่านเครื่องกระจายเสียง บางคนสนใจก็จะใช้เวลาในการนั่งคุยกันเลยก็มี ในขบวนจะมีการแบ่งฝ่ายกันชัดเจน คนมีหน้าที่ประสานที่พักก็จะประสานในช่วงกลางวัน ฝ่ายรณรงค์ในหมู่บ้านที่เข้าพักก็จะออกรณรงค์ในช่วงเย็น ฝ่ายอาหารก็จะรับผิดชอบเรื่องปากท้องของคนในขบวนซึ่งเรื่องการกินก็จะกินรวมกัน ในช่วงเย็นของแต่ละวันก็จะธรรมวัตรเย็น ถ้าวันใดมีชาวบ้านในหมู่บ้านออกมาพูดคุยด้วยก็จะนอนดึก แต่ถึงนอนดึกอย่างไรก็ต้องตื่นตามเวลาที่ต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนการออกเดินเท้าในวันรุ่งขึ้น

            ทางด้านแนวทางต่อไปของชาวบ้านหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน นางสุดใจ มหาไชย ตัวแทนชาวบ้าน ได้ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่เขื่อนยังไม่เปิดอย่างถาวร รัฐบาลยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านอย่างชัดเจน ก็จะมีการรณรงค์ต่อไป และในวันที่ 10-11 มิถุนายน 2545 นี้ก็จะมีกิจกรรมรวมพลคนหาปลา คนกินปลา คนขายปลา ชาวลุ่มน้ำมูน ที่แก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร และจะร่วมกันแสดงประชามติเพื่อให้เปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวรต่อไป นางสุดใจกล่าวในที่สุด

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา