eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

สองวันคนหาปลากว่า 5000 คนร่วมลงชื่อเปิดเขื่อนถาวร

                นับเป็นวันที่สองของการเปิดลงประชามติเพื่อให้เปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร ที่บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร ชาวบ้านยังทยอยเข้าร่วมลงชื่ออย่างคึกคักตั้งแต่เช้า แม้ในช่วงที่เก็บข้าวของเตรียมกลับแล้วก็ยังคงมีชาวบ้านเดินทางมาลงชื่ออยู่เป็นระยะ

                เมื่อเวลา 08.00 น.ของวันที่ 11 มิถุนายน 2545 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรวมพลเพื่อลงประชามติให้มีการเปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร ในวันนี้ ได้มีชาวบ้านที่สนใจ และเห็นด้วยกับการเปิดเขื่อนทยอยเดินทางมาเป็นระยะ กระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น.ชาวบ้านที่เข้าร่วมลงชื่อรวมทั้งชาวบ้านที่เดินทางมาจากจ.ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ ได้ร่วมกันนำพานบายศรีลงไปทำพิธีสืบชะตาแม่น้ำมูนบริเวณแก่งสะพือ โดยมีนายพันธ์ ทองเหลือ ชาวบ้านบ้านคันไร่ใต้ อ.สิรินธร จ.อุบลฯ ทำหน้าที่พรามหมณ์ในการทำพิธี ในพิธีจะสวดบายศรี หลังจากนั้นก็ได้โปรยข้าวตอกดอกไม้ลงแม่น้ำ พร้อมคำอวยพร คล้ายการเสกคาถาใส่ลงในแม่น้ำ

                นายพันธ์ กล่าวถึงพิธีกรรมของการสืบชะตาว่า แม่น้ำมูนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นช่วงที่แม่น้ำมูนกำลังฟื้นตัว ทั้งเรื่องปลา พืชผักริมแม่น้ำ ดอน และแก่งต่างๆ ฟื้นตัวขึ้นมา การสืบชะตาแม่น้ำมูนในวันนี้เป็นการต่ออายุของแม่น้ำให้คงความสมบูรณ์แบบนี้ให้อยู่กับพวกเราต่อไป ที่ผ่านมาถือว่าแม่นำมูนได้ชะตาขาดไป แต่เมื่อเปิดเขื่อนก็เป็นการต่อชะตา ต่อลมหายใน ดังนั้นหากปิดเขื่อนก็หมายถึงแม่น้ำตายไปด้วย

                ภายหลังการสืบชะตาแม่น้ำมูน ชาวบ้านได้รวมตัวกันตั้งแถวออกเดินรณรงค์ไปตามตัวอำเภอพิบูลฯ และขบวนกลับเข้ามายังแก่งสะพือในเวลาประมาณ 12.30 น.จากนั้นได้รวมกันที่หน้าเวทีพร้อมทั้งตัวแทนคือ นายภักดี จันทะเจียด ต้วแทนชาวบ้านบ้านห้วยทราย ต.ห้วยทราย อ.บุณฑริก จ.อุบลฯ ได้นำประกาศเจตนารมณ์ ความว่า"เวลา 1 ปีของการเปิดเขื่อนปากมูล นับเป็นช่วงเวลาที่พวกเราคนลุ่มน้ำได้กลับมาใช้ชีวิตกับความสมบูรณ์ของแม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง ประจักษ์พยานที่ชี้ชัดได้แก่ ปลาจำนวนมหาศาลเข้ามาสู่แม่น้ำมูน เราคนลุ่มน้ำได้หาปลา กินปลา ขายปลา ซื้อปลา จากแม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง

                 เมื่อแม่น้ำมีปลาอย่างเป็นธรรมชาติ เราก็มีสามารถมีอาหารอย่างพอเพียงในแต่ละวัน

                เมื่อมีปลาในแม่น้ำ พวกเราก็มีรายได้อย่างมั่นคง

                เมื่อแม่น้ำได้ไหลอย่างเป็นธรรมชาติระบบนิเวศน์ของแม่น้ำ เกาะแก่ง พืชริมน้ำ ต่างๆ ก็จะได้กลับดีขึ้นมาให้ชุมชนได้พึ่งพา

                 ตลอดเวลาของการเปิดเขื่อน 1 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้ใช้ประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ แม่น้ำที่กลับคืนความสมบูรณ์ได้ทำให้พวกเรามีความมั่นคงในการดำรงชีวิตประจำวัน

                การเปิดเขื่อน 1 ปี ทำให้พวกเราได้สืบทอดความรู้ ภูมิปัญญาที่สั่งสมมานานนับหลายชั่วอายุคนให้คนรุ่นหลัง ลูกหลานเรามีได้หัดพายเรือ ฝึกหาปลาด้วยวิธีการต่างๆ จากพ่อแม่

                ที่สำคัญที่สุด การมีธรรมชาติมีแม่น้ำที่สมบูรณ์นั้น ทำให้เรามีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น ในพื้นฐานได้แก่เราได้มีอาหารอย่างพอเพียง ทำให้พวกเราดำรงชีวิตเราอยู่อย่างปกติสุขและอยู่อย่างพอเพียงได้ ซึ่งนั่นคือการอยู่อย่างพึ่งตนเองอย่างแท้จริงของพวกเรา

                 ดังนั้นแล้ว เมื่อการพัฒนาทั้งหลายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความกินดีอยู่ดีของประชาชน

                 การเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ประชาชนคนลุ่มน้ำได้กินดีอยู่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  มีความมั่นคงในการดำเนินชีวิต

                ดังนั้น ด้วยเจตนารมณ์ของคนลุ่มน้ำ มีแต่การเปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร คืนชีวิต คืนธรรมชาติ สู่ชุมชน คนลุ่น้ำ เท่านั้นที่จะนำมาสู่ความกินดีอยูดีอย่างแท้จริงของชุมชนคนอีสาน

                และนั่นคือการพัฒนาชนบทอย่างแท้จริง"

                หลังจากที่ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันแล้ว ชาวบ้านทั้งหมดก็ได้แยกย้ายกันขึ้นรถ โดยชาวบ้านจากหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืนจะได้เดินทางเข้าชุมนุมยังหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืนต่อ เพื่อให้เปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร และกรณีการลงประชามตินั้น ในแต่ละหมู่บ้านจะยังให้ผู้ที่ไม่สามารถมาลงได้ที่แก่งสะพือได้ลงที่หมู่บ้านต่อไป

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา