eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

ชาวแม่มูนร่วมใจพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์จัดพิธีบวงสรวงใหญ่ ดลใจผู้มีอำนาจสั่งเปิดเขื่อนต่อ

ชาวแม่มูนรวมพลกว่า 2,000 ค้านปิดเขื่อน ชี้เปิดเขื่อนพิสูจน์แล้วดีที่สุด ปิดเขื่อนจะยิ่งทุกข์หนัก เหตุด้วยปลาใหญ่กำลังแห่เข้าแม่มูน คนหาปลาลงทุนมากยังไม่คุ้ม รวมทั้งสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์แม่น้ำ พืชผัก สมุนไพรธรรมชาติที่ชาวบ้านได้พึ่งพากำลังจะฟื้นตัว หากปิดเขื่อนขณะนี้ทุกอย่างจะกลับมาเลวร้ายเหมือนกับ 8 ปีที่ผ่านมา

ภายหลังจากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ออกประกาศจะมีการปิดเขื่อนปากมูลในวันที่ 14 มิถุนายน 2545 ด้วยเหตุผลของการปฏิบัติตามมติครม.3 เมษายน,17 เมษายน,และ 11 ธันวาคม 2544 ที่ผ่านมา ที่ให้มีการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเป็นเวลา 1 ปี และในช่วงของการทดลองเปิดประตูน้ำนี้ ได้มีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีทำการศึกษาผลของการเปิดเขื่อน ในทุกด้าน

สมัชชาคนจนหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ในฐานะที่ได้เรียกร้องให้มีการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลอย่างถาวร ฟื้นฟูธรรมชาติ และชีวิตชุมชนของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล ได้รวมตัวกันที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ภายหลังได้มีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางกิจกรรมในวันที่ 12 มิ.ย. 45 ที่ผ่านมา

ในเวลา 10.30 น.ชาวบ้านประมาณ 2,000 ทั้งหมดได้รวมกันที่หน้าเวทีหมู่บ้าน ซึ่งได้มีการเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน จากนั้น ได้ตั้งเป็นขบวนเคลื่อนออกจากบริเวณหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน มุ่งหน้าไปยังหน้าเขื่อนปากมูล เมื่อเดินทางไปถึง นางสมปอง เวียงจันทร์ ได้กล่าวถึงจุดประสงค์และกำหนดการของพิธีกรรมในวันนี้ว่าเนื่องจากการไฟฟ้าจะปิดเขื่อนในวันที่ 14 นี้ พวกเราคนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเขื่อนจึงต้องมาร่วมกันบวงสรวง อธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไปดลบันดาลใจ ให้กับผู้มีอำนาจให้ตัดสินใจเปิดเขื่อนปากมูลต่อไปเพื่อที่พวกเราจะได้สามารถทำมาหากินได้

 จากนั้น นายพันธ์ ทองเหลือ อายุ 73 ปี ชาวบ้านบ้านคันไร่ใต้ อ.สิรินธร จ.อุบลฯ ได้นำชาวบ้านที่เข้าร่วมจุดธูปเทียน และกล่าวสวดสักเค เทวดาอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก พร้อมทั้งบอกผ่านเครื่องกระจายเสียงให้ชาวบ้านนั่งสมาธิอธิษฐานถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นแต่ละคนก็นำดอกไม้ ธูปเทียน วางรวมกันไว้ที่โขดหินริมน้ำบูชา เป็นอันเสร็จพิธี

ในเวลาประมาณ 11.00 น. นายสมเกียรติ พ้นภัย อายุ 55 ปี ได้กล่าวนำแถลงข่าว นายสมเกียติแถลงว่า จากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯได้ประกาศผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้านในแต่ละหมู่บ้านเรื่องการปิดเขื่อนในวันที่ 14 มิถุนายน 2545 โดยให้เหตุผลว่าต้องทำตามมติครม. ในขณะที่สมัชชาคนจนยังยืนยันถึงการเรียกร้องว่า รัฐบาลเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูอย่างแท้จริงต่อคนลุ่มน้ำ ด้วยการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลอย่างถาวร ฟื้นฟูแม่น้ำให้เป็นธรรมชาติดังเดิมหลังจากที่ถูกทำลายไปในช่วงของการสร้างเขื่อนปากมูล นอกจากนั้นจะต้องมีการฟื้นฟูชีวิตชุมชนสองริมฝั่งแม่น้ำมูน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชาวบ้านในท้องถิ่นนี้ ซึ่งหากมีการเปิดเขื่อนถาวรจะมีคนทั่วทั้งอีสานที่ได้ประโยชน์จากการใช้แม่น้ำมูนนี้ รัฐบาลต้องมองถึงจุดนี้ด้วย

การเปิดเขื่อนปากมูลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ธรรมชาติของแม่น้ำมูนได้กลับฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ปลาเข้ามาแม่น้ำมูน หากมีการปิดเขื่อนจะเกิดความเสียหายอย่างมหาศาลต่อแม่น้ำและชุมชนคนล่มน้ำ อันได้แก่ ปลาจะไม่สามารถเข้ามายังไม่น้ำมูนได้ ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำแดง ปลาใหญ่(ที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่าปลาเศรษฐกิจ) เข้ามาวางไข่ในแม่น้ำมูน จะทำให้เกิดความเดือดร้อน ทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสขึ้นอีกครั้งหนึ่งกับคนลุ่มน้ำมูน

นายสมเกียรติแถลงต่อว่า คนหาปลาสองฝั่งแม่น้ำมูน คือผู้ที่จะต้องเจอกับภาวะของการขาดทุนมหาศาลจากการที่ได้ลงทุนซื้อเครื่องมือหาปลา ทั้งเรือ มอง และอื่นๆ เพราะหลังการสร้างเขื่อนเครื่องมือที่เคยมีก็ชำรุดเสียหาย อันไหนขายได้ก็ขายไป บางคนกู้หนี้ยืมสินจากแหล่งต่างๆ มาลงทุน แม้เปิดเขื่อนปลาจะมีมากแต่ก็ยังไม่สามารถใช้หนี้หมดได้ นายสมเกียรติกล่าวต่อไปว่า ทางด้านระบบนิเวศน์แม่น้ำมูนเกาะแก่ง แหล่งธรรมชาติ ในระบบนิเวศน์ของแม่น้ำมูนที่กำลังจะฟื้นตัวขึ้นมาหากมีการปิดเขื่อนก็จะจมหายอยู่ใต้น้ำอีกครั้ง ถ้ำ โพรงที่เป็นที่อยู่อาศัยของปลาทั้งหลายก็จะกลับอุดตัน วัง เวิน ขุม ในน้ำก็จะตื้นเขินเนื่องจากแม่น้ำมูนกลายเป็นน้ำขังไม่ใช่น้ำไหลอีกต่อไป รวมไปถึงพืชผักธรรมชาติ ที่เป็นอาหาร และยาสมุนไพร ที่ขึ้นริมแม่น้ำ ในดอน เกาะแก่งต่างๆ ก็จะถูกน้ำท่วมตายไปอีก จะเกิดการแพร่ระบาดของผักตบชวา น้ำจะเน่าเสีย

นายสมเกียรติย้ำในแถลงการณ์ว่า “ที่สำคัญ ในกรณีของการศึกษาของมาหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ การเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล ทดลองเปิดเพื่อการศึกษา แต่เมื่อการศึกษายังไม่เสร็จสิ้น ชาวบ้านก็ยังไม่มีหลักประกันใดในการแก้ไขปัญหา จึงเห็นว่า เป็นการชอบธรรมแล้วถ้าหากรัฐบาลจะสั่งการให้มีการเปิดเขื่อนปากมูลต่อไป เพราะนั่นคือการให้หลักประกันในการดำรงชีวิตของชาวบ้านที่ทุกข์ยากลำบากมาเกือบ 10 ปีดังนั้น จึงขอร้องไปยังรัฐบาลให้สั่งการให้มีการเปิดเขื่อนต่อด้วย ชาวบ้านจะได้มีอยู่มีกินเหมือนเดิม นายสมเกียรติกล่าวในที่สุด

 สำหรับพิธีกรรมบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้นั้น นายพันธ์  ทองเหลือ ผู้นำในการทำพิธีกล่าวว่า การทำพิธีในวันนี่เป็นพิธีที่คนแม่มูนมั่นยืนได้ร่วมกันอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ที่ต่างๆ ทั้งในป่า ภูเขา แม่น้ำ บนฟ้า ในดิน ให้ลงมาดลบันดาลใจให้กับผู้มีอำนาจที่จะตัดสินใจให้เปิดเขื่อนได้ตัดสินใจที่จะเปิดเขื่อนต่อไป ชาวบ้านหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลคงจะได้เห็นความจริง ทั้งจากการศึกษาจากที่ต่างๆ และความจริงที่เกิดขึ้นในชุมชน การตัดสินใจเปิดเขื่อนปากมูลจึงเป็นการช่วยเหลือชีวิตของชาวบ้านของประชาชนอย่างแท้จริง

ภายหลังการทำพิธีกรรมแล้ว ตัวแทนชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านจะได้ประชุมปรึกษาหารือกันอีกครั้งหนึ่ง ที่หมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน

และที่บริเวณทางเข้าเขื่อนปากมูล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯก็ได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตรวจตรารถที่เข้าออกอย่างเข้มงวด โดยได้จัดให้มีการแลกบัตรเข้าออกเมื่อผ่านสันเขื่อน

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา