สมัชชาคนจนแม่มูนมั่นยืน
เคลื่อนพลบุกศาลากลางย้ำการเปิดประตูระบายน้ำถาวร
เช้าวันนี้(16
กันยายน 2545)
ชาวบ้านหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน
ที่ตั้งอยู่ริมสันเขื่อนปากมูลมาเป็นเวลากว่า
4 ปี ได้เคลื่อนพลกว่า 1,000
เข้าศาลากลางอุบลฯ
เสนอแก้ไขกรณีปัญหาสมัชชาคนจน
ยืนยันรัฐบาลจะแก้ถูกจุดต้องคืนธรรมชาติ
เปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร
ส่วนเรื่องดอนคำพวงให้ราชการประกาศเป็นที่สาธารณะโดยเร่งด่วน
เมื่อเวลา 09.00 น.สมัชชาคนจนที่ได้เข้ารวมตัวกันที่แก่งสะพือ
อ.พิบูลมังสาหาร
ได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าเข้าสู่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
ขบวนเดินทางมาถึงหน้าศาลากลางฯ
ประมาณเวลา 11.00 น.
เมื่อเดินทางมาถึง
ชาวบ้านได้ช่วยกันจัดแจงที่อยู่
โดยใช้บริเวณข้างตัวอาคารของศาลากลางเป็นพื้นที่ตั้งชุมนุม
การเดินทางมาในครั้งนี้
เป็นการยืนยันให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนที่คั่งค้างอยู่
ไม่ว่าจะเป็นกรณีเขื่อนปากมูล
ซึ่งยืนยันว่าหากรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุดจะต้องแก้ไขโดยการเปิดประตูระบายน้ำอย่างถาวร
ฟื้นฟูชีวิตชุมชนคนลุ่มน้ำมูน
เนื่องจากเห็นว่าการเปิดเขื่อนปากมูล
1
ปีที่ผ่านมาได้มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในทางที่ดีขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ที่ชาวบ้านมีเพิ่มขึ้นจากการหาปลาขาย
ชุมชนมีความมั่นคงทางอาหาร
สามารถหากินตามธรรมชาติได้ไม่ว่าจะเป็นในแม่น้ำมูนหรือพื้นที่ริมมูนที่กลับคืนมาภายหลังการเปิดเขื่อน
นอกจากนั้นแล้ว
เรื่องเร่งด่วนที่จังหวัดจะต้องตัดสินใจดำเนินการคือเรื่องการประกาศที่ดอนคำพวง
ซึ่งเป็นที่สาธารณะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำมูน
ให้ขึ้นในทะเบียนที่สาธารณะ
เนื่องจากขณะนี้ได้มีนายทุน
คือนายจักกฤษ วิเศษชลธาร
เข้าบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ดอนเป็นบริเวณกว้างและทางราชการก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ทั้งๆ
ที่ส่วนอำเภอได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ
และได้ประชุมมีมติให้หยุดการดำเนินการใดๆ
ในดอนคำพวง
แต่นายทุนและพวกไม่ได้ใส่ใจต่อมติดังกล่าว
ยังคงดำเนินการต่อโดยไม่ใส่ใจต่อมติกรรมการ
การชุมนุมในครั้งนี้
นอกจากกรณีผู้เดือดร้อนจากเขื่อนปากมูลแล้ว
ยังมีกรณีเขื่อนสิรินธร
เขื่อนห้วยละห้า
และกรณีป่าไม้ที่ดินในเขตจังหวัดอุบลราชธานี
ทุกปัญหายังคงค้างคาอยู่
ในเวลาประมาณ 14.00
น.ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการเดินทางมาชุมนุมในครั้งนี้
ภายหลังการแถลงข่าวไม่นานนัก
ฝนใหญ่ก็เทลงมาอย่างหนักหน่วงทำให้ชาวบ้านต้องหลบเข้าร่ม
ทั้งในเพิงที่ทำไว้แล้วและในบริเวณตัวอาคารศาลากลาง
ผู้ชุมนุมจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่จังหวัดเพื่อขอพักนอนที่หอประชุมอำเภอ
แต่ทางจังหวัดไม่สามารถอนุญาตได้โดยให้เหตุผลว่าจะต้องประชุมในเช้าของวันต่อไม่
แม้ว่าชาวบ้านจะยืนยันว่าจะออกจากห้องประชุมภายในตีห้า
แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ
กระทั่งเวลา19.00 น.
ฝนยังคงกระหน่ำลงอย่างหนักตลอดเวลา
ชาวบ้านจึงขอเข้าอาศัยบริเวณระเบียงของศาลากลางจังหวัด
ซึ่งแม้จะแคบรองรับได้ไม่หมด
ก็ตามที
สมัชชาคนจน
14
กันยายน 2545 |