สถานการณ์การชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
21
กันยายน 2545
คนจนสิ้นหวัง
พ่อเมืองอุบลฯไร้น้ำยาแก้ปัญหาดอนคำพวง
เตรียมเข้าขอความเป็นธรรมนายกฯ
เร่งสะสางปัญหาคนจน
ไม่หวั่นแม้สภาพดินฟ้าอากาศจะไม่เอื้ออำนวย
จากการชุมนุมของสมัชชาคนจนที่หน้าศาลกลางที่เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯดำเนินการเพื่อเอาผิด
กับผู้บุกรุกดอนคำพวง
และกรณีการของเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
ชุดรองฯปองพล อดิเรกสาร
นั้น
เมื่อเวลาประมาณ
10.00 น.กลุ่มชาวบ้านจากเครือข่ายชุมชนแออัด
อุบลราชธานี ประมาณ 100 คน
ได้เคลื่อนขบวนไปที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อให้กำลังใจกลุ่มสมัชชาคนจนที่กำลังชุมนุมอยู่ในขณะนี้
เมื่อเดินทางมาถึงที่หน้าศาลกลางจังหวัด
เครือข่ายชุมชนฯ
ได้หยุดขบวนทางเข้าหน้าศาลากลางซึ่งทางเจ้าหน้าที่
อ.ส ยืนกันอยู่อย่างแน่นหนา
ตัวแทนเครือข่ายฯ
ได้ขอร้องให้เปิดทางเพื่อขอเข้ายื่นหนังสือต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัด
ซึ่งเป็นจดหมายเปิดผนึก
ส่งถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด
โดยกล่าวว่า
คนจนเมืองก็เป็นกลุ่มคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดและไรัระบบ
ต่อกรณีการสร้างเขื่อนปากมูลกลุ่มคนจนเมืองก็เป็นกลุ่มคนหนึ่งที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบ
ซึ่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่
1.แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต้องสูญเสียไป
เกาะแก่งต่างๆ
ทั้งเล็กใหญ่ในลำน้ำมูนถูกน้ำท่วม
2.ปลาเศรษฐกิจในแม่น้ำมูนหายไปเพราะไม่สามารถข้ามเขื่อนขึ้นมาได้
และ 3.เขื่อนปากมูลเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วม
เพราะเขื่อนได้ขัดขวางเส้นทางการไหลของแม่น้ำมูน
ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนชาวชุมชน
3 ปีติดต่อกันมาแล้ว
ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน
บ้านเรือน สภาพความเป็นอยู่
รวมถึงสภาพจิตใจที่ต้องเผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยว
ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายรัฐก็ยังไม่มีนโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ
มีเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้นเอง
การมีเขื่อนทั่วประเทศไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะฉะนั้น
ในนามเครือข่ายชุมชนเออัดอุบลราชธานี
ขอเรียกร้องให้รัฐบาล
มีคำสั่งให้เปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร
เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ
ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
และคืนความสมบูรณ์ให้ประชาชนตลอดลุ่มน้ำมูน
เมื่อยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว
ขบวนได้เคลื่อนเข้าด้านหลังตัวอาคารศาลากลางเพื่อเข้าสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมสมัชชาคนจน
จากนั้น
ตัวแทนเครือข่ายได้นำอ่านแถลงการณ์กรณีพลตรีสนั่น
ขจรประศาสน์
ทำการล่วงละเมิดทางเพศผู้สื่อข่าวสาว
โดยกล่าวว่าเครือข่ายสิทธิสตรีชุมชนแออัดอุบลราชธานี
ขอร่วมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี
สิทธิของสตรี
และเป็นกำลังใจให้กับกองบก.หนังสือพิมพ์มติชน
และข่าวสดและสื่อมวลชนทุกแขนงที่ไม่ต้องการให้เหตุการครั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นและเป็นปกติในสังคมไทย
ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบเปิดโปงพฟติกรรมอันเป็นการล่วงละเมิดทางเพศแก่สาธารชน
โดยเฉพาะแวดวงของนักการเมือง
ข้าราชการระดับสูง
หรือแม้กระทั่งในทุกระดับชั้นของสังคมไทย
พร้อมกันนี้
ขอเป็นกำลังใจให้กับนักข้าวหญิงผู้ตกเป็นเหยื่อแห่งความหื่นของผู้เฒ่าวัยเกือบ
70 ปีผู้นี้
จากนั้น
ได้มีการแสดงละครล้อเลียนการกระทำของพลตรีสนั่นที่ทำการลวนลามทางเพศนักข่าวหญิง
ภายหลังจากนั้น
สมัชชาคนจนได้อ่านแถลงการณ์
เข้ากรุงเทพฯเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี
โดยกล่าวว่ามีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อรัฐบาล
จากสองกรณีได้แก่กรณีการบุกรุกดอนคำพวง
เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานีไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้
การประชุมในวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาของส่วนราชการจังหวัดได้เพียงการแบ่งแนวเขตการปกครองเท่านั้น
เป็นการแก้ไขปัญหาที่วนเวียนอยู่แต่เรื่องการแบ่งแนวเขต
ซึ่งดำเนินการมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
เป็นการเปิดโอกาสให้นายทุนลอยนวลและบุกรุกเกาะดอนคำพวงต่อไป
ภายใต้ข้ออ้างของจังหวัดที่ต้องรอการตรวจสอบก่อน
นอกจากนั้นสมัชชาคนจนยังเห็นว่า
การประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนที่จะมีขึ้นในวันที่
23 กันยายน 2545 นี้
สมัชชาคนจนยื่นข้อเสนอเพื่อขอเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการ
แต่ก็ได้รับการตอบรับปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วม
โดยอ้างว่ามีหลายกลุ่ม
จะเป็นการยุ่งยาก
ถ้าให้เข้าก็ต้องให้เข้าหลายกลุ่ม
ซึ่งเหตุผลดังกล่าวไม่มีความชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง
เพราะกรรมการชุดนี้เป็นคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งเพื่อแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนโดยเฉพาะ
ดังนั้น
การกระทำของคณะกรรมการชุดนี้จึงขัดเจตนารมย์ของ
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
ที่ต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาโดยให้สมัชชาคนจนมีส่วนร่วม
สมัชชาคนจนจะเดินทางเข้าชุมนุมที่กรุงเทพฯ
ในวันที่ 22 กันยายน 2545
และยืนยันว่าข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจนเป็นข้อเรียกร้องที่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่
ไม่ได้เจตนาขัดขวางการบริหารพัฒนาประเทศแต่อย่างใด
ภายหลังการแถลงข่าว
ตัวแทนชาวบ้านจำนวนประมาณ 50
คนได้เดินทางไปยังศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เพื่อเข้าร่วมเวทีของเครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำมูน
|