สมัชชาคนจนลอย
กระทงเขื่อนปากมูล
ย้ำรัฐสร้างเขื่อนทำผิดต่อน้ำ
วอนรัฐร่วมขอขมา
เมื่อเวลาประมาณ
11.00 น.สมัชชาคนจนร่วมตัวกับกลุ่มผู้ป่วยจากสารพิษ
และกลุ่มกับเครือข่ายต้านกฏหมายขายชาติ
11 ฉบับ กว่า 500
คนได้เดินขบวนแห่กระทงรูปทรงต่างๆ
ออกจากลานพระบรมรูปทรงม้า
มุ่งไปยังทำเนียบรัฐบาลฝั่งตรงข้ามสำนักงาน
ก.พ.
กระทงของแต่ละกลุ่มปัญหาจะแสดงถึงสัญลักษณ์ของปัญหา
ได้แก่กรณีเขื่อนปากมูล
กระทงจะเป็นรูปตัวเขื่อน
ผู้ป่วยจากสารพิษ
เป็นรูปหุ่นคนนอนตาย
มีป้ายติดว่า โคบอลล์ 60
โรงไฟฟ้าแม่เมาะ คลองเตย
ส่วนกระทงของกลุ่มเครือข่ายต้านกฏหมาย
11
ฉบับเป็นกระทงรูปหนังสือกฎหมายเล่มใหญ่
กระทงรูปหน้าทักษิณ
ในปากอมคำว่าการปะปา
นอกจากนี้ชาวบ้านสมัชชาคนจนยังได้ร่วมกันทำกระทงเล็ก
สำหรับลอยในวันนี้
บางอันจะเขียนป้ายติด ไม่เอาเขื่อน
หรือ รัฐบาลไม่เหลียวแลคนแก่
บางคนเขียนคำอธิษฐานจิตลงในกระทงอีกด้วย
เมื่อเดินทางมาถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล
กลุ่มผู้ชุมนุม
ได้สับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ข้อเรียกร้องที่มีถึงรัฐบาล
และผลต่างๆ ได้แก่
กลุ่มทีพีไอ
พนักงานบริษัทเบสแอนส์บาส
การประปา การท่าเรือ
การไฟฟ้านครหลวง
กรณีเขื่อนปากมูล
กระทั่งเวลาประมาณ 11.45 น.กลุ่มปัญหาจึงเคลื่อนขบวนไปยังสะพานมยุรเชษฐ์ และตัวแทนส่วนหนึ่งข้ามไปยังฝั่งคลองเปรมประชากร
ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นก็ได้เริ่มปล่อยลอยกระทง
โดยเริ่มจากกระทงของกลุ่มคัดค้านการออกกฎหมาย
11 ฉบับก่อน
กระทงสุดท้ายที่ปล่อยลงได้แก่กระทงเขื่อนปากมูล
ก่อนปล่อย
ชาวบ้านได้ร่วมกันตะโกนด้วยเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณว่าเอาเขื่อนออกไป
เอาธรรมชาติคืนมา
นางโสม
วงศ์พันธ์
ชาวบ้านบ้านคันไร่ใต้ ต.คันไร่ใต้
อ.สิรินธร จ.อุบลฯ กล่าวว่า
แม่น้ำมูนเป็นแม่น้ำที่มีบุญคุณต่อชาวปากมูนมาก
เมื่อสร้างเขื่อนถือว่าเป็นการลบหลู่แม่น้ำ
ดังนั้น
การที่พวกเราทำเขื่อนกระทงมาลอยในวันนี้เพื่อจะขอขมาต่อแม่น้ำ นางโสมกล่าวต่อไปว่า
ตนอยากให้รัฐบาลทำพิธีขอขมาต่อแม่น้ำด้วยเพราะการที่คณะรัฐมนตรีตัดสินใจปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลนั้น
ถือเป็นการทำผิดต่อแม่น้ำ
ต่อคนลุ่มน้ำมูนด้วย
นายดำ
ชาตะพันธ์
ตัวแทนชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า
ลุ่มน้ำมูนนับเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่
เป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชนชาวอีสานนับเป็นเวลาหลายพันปี
เป็นเส้นทางอาหารปลาจากแม่น้ำโขง
และเป็นแหล่งก่อเกิดอารยธรรมอันยิ่งใหญ่
รัฐบาลสร้างเขื่อนปากมูลถือว่าทำผิดต่อแม่น้ำอย่างรุนแรงและเลวร้าย
เพราะมันทำลายทุกอย่างที่อยู่ในน้ำรวมทั้งคนที่พึ่งพาแม่น้ำด้วย ปีที่แล้วมีการทดลองเปิดเขื่อนปากมูลนับว่าเป็นการชุบชีวิตให้กับคนอีสานอีกครั้งหนึ่ง
แต่เมื่อมีมติ ครม. วันที่ 1
ตุลาคม 2545
ทำให้ความเดือดร้อนเข้ามาสู่ชาวบ้านอีก
ปลาก็เข้ามาไม่ได้
ระบบนิเวศที่กำลังฟื้นก็กลับตายลงไปอีก
ดังนั้น
ตนเห็นว่าเป็นการจงใจที่จะทำให้คนลุ่มน้ำมูนทุกข์ยาก
ลำบาก
และเป็นการตัดสินใจผิดต่อแม่น้ำที่กำลังฟื้นตัวขึ้นมาหล่อเลี้ยงชุมชน
รัฐบาลจะร้องทบทวนและตัดสินใจใหม่ในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
นายดำ
กล่าวต่อไปว่า
พวกเรายืนยันว่าจะต้องต่อสู้เพื่อที่จะได้แม่น้ำมูนที่อุดมสมบูรณ์กลับคืนมา
ภายหลังลอยกระทงเขื่อนแล้ว
ชาวบ้านได้ร่วมกันร้องเพลงสมัชชาคนจน
และเดินทางกลับไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล
ด้านข้าง กพ.และในช่วงเย็นของวันนี้สมัชชาคนจนจะได้เดินทางไปร่วมลอยกระทงที่บริเวณคลองหลอด
ภายในกรุงเทพมหานคร
|
