ครม.สั่งเปิด
ปากมูล
ต่อให้ครบปี
ข่าวสด ๑๒
ธันวาคม
๒๕๔๔
ครม.สั่งเปิดแล้วบานระบาย
เขื่อนปากมูล
จ.อุบลฯ ครบ 1
ปี ให้กฟผ.ยกสุดบานห้ามเบี้ยว
เพื่อศึกษาการฟื้นฟู
ระบบ นิเวศ
หลังถูกกฟผ.ค้าน
อ้างต้องผลิตไฟฟ้า
ทั้งที่ได้ไฟแค่หยิบมือเดียว
แถมไม่กระทบกับระบบด้วย
ด้านชาวบ้าน
บำโดมใหญ่
ร้อง ก.วิทย์
ยกเลิกอีไอเอกรมชลฯ
ที่มั่วข้อมูลและนักศึกษาไม่ครบ
เมื่อวันที่
11 ธ.ค
ที่ทำเนียบรัฐบาล
น.ส.ณหทัย
ทิวไผ่งาม
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แถลงภายหลังการ
ประชุมครม.ว่า
ครม.พิจารณาข้อเสนอในการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล
จ.อุบลราชธานี
ตามที่นายจาตุรนต์
ฉายแสง รมต.ประจำสักนายกฯ
ซึ่งเป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
ที่รับผิดชอบปัญหากลุ่มเขื่อน
ที่เกี่ยวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.)เสนอแล้ว
โดยครม.มีมติอนุมัติให้ขยายเวลาเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลทั้ง
8 บาน
สุดบานประตูออกไปให้ครบ
1 ปี
เพื่อให้ครบรอบวัฏจักรของการเคลื่อนย้ายและขยายพันธุ์ของปลาต่าง
ๆ
อันจะทำให้การศึกษาวิจัยระบบนิเวศน์สัมฤทธิผล
จะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
น.ส.ณหทัยกล่าวว่า
ทั้งนี้
เนื่องจากการศึกษาโครงการศึกษาวิจัยแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศ
วิถีชีวิตและชุมชน
ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล
จะมีความชัดเจนและเป็นไปตามหลักวิชาการจะต้องเปิดประตูระบาย
น้ำครบวงจรของสิ่งที่ศึกษา
1
รอบเป็นอย่างน้อย
ซึ่งข้อมูลจากการศึกษาที่ผ่านมาเพียง
4 เดือน
ตามมติของคณะทำงานเพื่อฟื้นฟูชีวิตและชุมชนชาวบ้าน
ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล
ครั้งที่ 2/2544
เมื่อวันที่
14 ก.ย. 2544
ไม่เพียงพอต่อการนำมาใช้เป็นฐานในการจัดทำแผนฟื้นฟูและชุมชนชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ชาวบ้านเรียกร้องให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล
เพื่อคืนชีวิตให้ลุ่มน้ำมูลอีกครั้ง
ชาวบ้านต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า
หากไม่มีเขื่อนปากมูลมาขวางกั่นสายน้ำ
ชาวบ้านจะไม่ได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตแม้แต่น้อย
เพราะสามารถหาอาหารเลี้ยงชีพได้
ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
พยายามขัดขวางการเปิดเขื่อนโดยอ้างว่า
จะไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้
ขณะที่กระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนนี้มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าโดยรวม
วันเดียวกัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล
ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มลำโดมใหญ่มั่นยืน
นำโดยนายสุนัน
โดดามรรค
ยื่นหนังสือถึง
รมว.วิทยาศาสตร์ฯ
ผ่านเจ้าหน้าที่
เรียกร้องให้มีคำสั่งยกเลิกการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
(อีไอเอ)
โครงการสร้างเขื่อนลำโดมใหญ่ของกรมชลประทาน
โดยระบุว่า
กลุ่มลำโดมใหญ่มั่นยืน
จ.อุบลราชธานี
ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายชาวบ้าน
27
หมู่บ้านจาก
3 อำเภอ
ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนลำโดมใหญ่ของกรมชลประทาน
เข้าร่วมต่อสู้คัดค้านในนามสมัชชาคนจนและได้ข้อสรุปการเจรจากับรัฐบาลเป็นมติครม.
ออกมาชัดเจนให้ระงับการดำเนินการใด
ๆ
และให้คณะกรรมการติดตามการดำเนินการตามมติครม.วันที่
29 เม.ย. 2540
กรณีเขื่อนที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง
4 เขื่อน
โดยมีนายวรวิทย์
เจริญเลิศ
เป็นประธาน
ดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
หนังสือระบุต่อว่า
แต่กรมชลประทานยังจัดทำอีไอเอเสนอเข้าสูการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม
(สผ.)หลายครั้ง
ซึ่งขัดกับมติครม.
อีกทั้งรายงานฉบับนี้มีข้อมูลบกพร่อง
ไม่รอบด้าน
ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
จึงขอให้รมว.วิทยาศาสตร์ฯสั่งการให้สผ.ยกเลิกรายงานดังกล่าวโดยด่วน |