-
เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.)
นายปองพล อดิเรกสาร
รองนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
ในเรื่องปัญหาเขื่อนปากมูลว่า
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ได้ทำการศึกษาและเสนอแนวทางการเปิด-ปิดประตูเขื่อนมา
4 แนวทางคือ 1.ปิดตลอดปี 2.เปิดตลอดปี
3.เปิด 5 เดือน ปิด 7 เดือน
และ 4. เปิด 8 เดือน ปิด 4
เดือน
ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาในแนวทางที่
3 คือ เปิด 5 เดือน
แต่เพื่อให้เป็นการพบกันครึ่งทางจึงเห็นว่า
ควรจะเปิดประตูเขื่อน 4
เดือน และปิด 8 เดือน
นั่นคือเปิดหน้าน้ำ
ปิดหน้าแล้ง
โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ไปหารือร่วมกับกรมประมงเรื่องปลา
และมอบให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและสถาบันพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ไปทำการวิจัย
ซึ่งแนวทางนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี
-
-
ส่วนกรณีของเขื่อนราษีไศลนั้น
คณะกรรมการมีมติให้ชดเชยจำนวน
12
ล้านบาทเฉพาะกลุ่มที่พิสูจน์ได้จากภาพถ่ายทางอากาศ
ที่ใช้เป็นเกณฑ์
ส่วนปัญหาป่าที่ จ.ขอนแก่นก็ให้ไปดูว่าเดือดร้อนเท่าใด
นอกจากนี้ปัญหาที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง
ได้ให้กรมป่าไม้ไปดูเรื่องการโอนที่
-
-
ไม่ทราบว่าผู้ชุมนุมจะพอใจหรือไม่ก็แล้วแต่เขา
แต่อันไหนที่รัฐบาลให้ก็ควรจะชม
ขอบใจรัฐบาลบ้าง
ไม่ใช่ไม่พูดเลย
อันที่ไม่ได้
แต่มาว่าอันที่ยังไม่ได้
คนที่ทำงานช่วยเหลือก็ท้อใจเหมือนกัน
นายปองพล กล่าว
-
-
ผู้สื่อข่าวถามว่า
ที่ประชุมได้พูดถึงมติครม.
23 เม.ย.
ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการสลายการชุมนุมหรือไม่
นายปองพล กล่าวว่า
ไม่ได้พูดถึง ซึ่งมติ ครม.
23 เม.ย.
ก็ไม่ได้เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่
และคงยังไม่มีการแก้ไข
เพราะไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุม
ครม.
-
-
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา
13.30 น. กลุ่มสมัชชาคนจน
และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเขื่อนปากมูลกว่า
50
คนได้ชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล
และได้ยื่นหนังสือถึงนายปองพล
เพื่อขอให้เลื่อนการพิจารณาการแก้ไขปัญหากรณีเขื่อนปากมูล
เนื่องจากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนในครั้งนี้
ไม่มีตัวแทนของสมัชชาคนจน
และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าร่วม
ทั้งที่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีคณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนที่มี
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
เป็นประธาน
ซึ่งมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและตัวแทนสมัชชาคนจนร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
-
-
ดังนั้นทุกส่วนจึงจำเป็นต้องประสานงานกัน
เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนยังได้แต่งตั้งคณะทำงาน
กลั่นกรองผลการศึกษาที่เกี่ยวกับกรณีเขื่อนปากมูล
เพื่อสรุปผลการศึกษาทั้งหมดและนำมาประกอบการตัดสินใจแก้ไขปัญหา
ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
โดยตามแผนงานได้กำหนดไว้ว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.
ดังนั้นเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลเป็นไปด้วยความรอบคอบ
ก็ควรรอจนกว่าคณะทำงานกลั่นกรองผลการศึกษาจะดำเนินการเสร็จ
-
-
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
คณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนไม่ได้อนุญาตให้ตัวแทนสมัชชาคนจน
และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเขื่อนปากมูลเข้าประชุม
โดยนายปองพล
ให้เหตุผลว่า
การประชุมของคณะกรรมการเป็นการพิจารณาในเรื่องที่คณะอนุกรรมการเสนอ
ซึ่งคณะอนุกรรมการจะมีตัวแทนจากสมัชชาคนจนร่วมด้วย
จึงถือว่าได้ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว
