สมัชชาคนจน
เหลวเจรจา รมต.
ค้านปิดเขื่อนปากมูล
กรุงเทพธุรกิจ
กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนปากมูล
แถลงข่าวคัดค้านมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่
1 ตค.ที่ผ่านมา
ให้ปิดประตูน้ำเขื่อนเป็นเวลา
8 เดือน และเปิดเป็นเวลา 4
เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พย.นั้น
นางอภิญญา แดงวงศ์
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูนคนหนึ่ง
กล่าวว่า
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 1 ปี
ที่รัฐบาลมีมติให้ทดลองเปิดประตูน้ำเป็นเวลา
1 ปี
ทำให้วิถีชีวิตชาวบ้านที่เคยมีในอดีตกลับคืนมา
ชาวบ้านหาปลา นำปลาไปขาย
เก็บผัก เก็บสมุนไพรไปขาย
ลูกหลานที่เคยไปทำงานในเมืองก็กลับคืนสู่อกพ่อแม่
เพื่อมาช่วยกันทำมาหากิน
เรียกได้ว่า
สังคมชาวลุ่มแม่น้ำมูลกลับมีความสุขเหมือนในอดีตที่ยังไม่มีการสร้างเขื่อน
แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อ
ครม.กลับมีมติว่าให้ปิดประตูน้ำอีกครั้ง
เราไม่รู้ว่ารัฐบาลเอาตัวเลขและมาตรฐานอะไรมากำหนด
ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่เคยให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเป็นผู้ศึกษาเรื่องผลดีของการเปิดประตูน้ำในระยะ
1 ปีที่ผ่านมา
รวมทั้งชาวบ้านเองก็ได้ร่วมกันเอาประสบการณ์ของตัวเองทำวิจัยควบคู่กันไปเรียกว่างานวิจัยไทบ้านด้วย
สรุปว่า
ตั้งแต่เปิดประตูน้ำวิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก"นางอภิญญากล่าว
ในส่วนงานวิจัยของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
เธอบอกว่า
รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัย
ซึ่งยังทำไม่เสร็จ
และยังไม่มีผลสรุป
ไม่รู้ว่ารัฐบาลเอาบรรทัดฐานเรื่องนี้มาจากไหน
จึงอยากให้ทบทวนมติครม.ฉบับนี้อย่างเร่งด่วน
หลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือเรียกร้องเรื่องนี้กับทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นางสาว วนิดา
ตันติวิทยาพิทักษ์
ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน
กล่าวว่า
ที่ผ่านมาได้พยายามเจรจากับหลายรัฐมนตรี
แต่ยังไม่มีช่องทางที่จะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านเข้าไปให้ข้อมูลบที่ถูกต้องเลย
ซึ่ง
หากศึกษาข้อมูลการวิจัยของ
ม.อุบลจะพบว่าการปิดประตูเขื่อนส่งผลกระทบต่อพันธ์ปลา
ผู้สื่อข่าวรายงาน
เมื่อวันที่ 6 พยที่ผ่านมา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ได้เจรจากับกลุ่มสมัชชาคน
โดยมีนายประพัฒน์
ปัญญาชาติรักษ์ รมว.ทรัพยากรฯเข้าร่วม
พร้อมทั้งยืนยันกันแกนนำสมัชชาว่าจะรวบรวมข้อมูลทุกด้านที่ศึกษาเรื่องเขื่อนปากมูล
โดยจะนำมาพิจารณาด้วยตัวเองก่อนจะมีมาตรการเสนอให้ครม.ตัดสินใจ
|