นายกฯ 'เบ็ดเสร็จ'
แก้ปัญหาปากมูล
กรุงเทพธุรกิจ 16
มค 46
http://www.bangkokbiznews.com/2003/01/16/pol/index.php?news=pol1.html
ชาวบ้านโวยถ้าเห็นเป็นชนกลุ่มน้อยให้เอาไปฆ่าได้เลย
แข็งกร้าวทั้งสองฝ่าย
ระหว่างสมัชชาคนจน
กับนายกรัฐมนตรี
กรณีเปิดเขื่อน 4 เดือนปิด 8
เดือน
ยกพระราชดำรัสในหลวงเตือนทักษิณ
สมัชชาคนจน
ประกาศสู้แบบอหิงสา
ตั้งหมู่บ้านหน้าทำเนียบ
จนกว่าจะเปลี่ยนแปลงมติ
ตำหนินายกฯ
หลอกคนทั้งประเทศ
เขียนด้วยมือลบด้วยตีน
โง่กว่าเด็กอมมือ
ท้าเอาไปฆ่าหากเห็นว่าเป็นคนส่วนน้อย
ด้านรัฐบาลชูสำรวจสำนักงานสถิติ
คนอุบลฯร้อยละ 80
หนุนเปิดเขื่อน 4 เดือน ปิด 8
เดือน พร้อมออก 3
มาตรการช่วยผู้เดือดร้อน
การตัดสินใจยึดมติคณะรัฐมนตรี
1 ต.ค.2545
ที่ให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล
4 เดือน และให้ปิด 8 เดือน ของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มสมัชชาคนจนที่ปักหลักบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
โดยเมื่อเวลา 10.00 น.กลุ่มสมัชชาคนจน
100 คน
ได้รวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งและเดินขบวนมาที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์
โดยได้ร่วมกันอาราธนาศีล
ทำจิตให้สงบ
พร้อมกับนำตาชั่งที่ทำขึ้นเองอย่างง่ายๆ
จากวัสดุธรรมชาติ
มาทำการชั่งน้ำหนักของผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
โดยตาชั่งได้เอียงกระเท่เร่ชัดเจน
นอกจากนี้
สมัชชาคนจนยังทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
ว่า การสำรวจของสำนักสถิติฯ
ที่รัฐบาลใช้ในการตัดสินใจเป็นการดำเนินการโดยพลการ
ประชาชนไม่เคยได้รับรู้
และมีส่วนร่วมในการกระบวนการต่างๆ
ทั้งนี้
การเก็บข้อมูลก็เป็นไปอย่างไม่โปร่งใส
ทั้งวิธีการ
และกลุ่มคนที่ลงไปสำรวจ
และจู่ๆ
รัฐบาลก็โหมโฆษณาตัวเลขของการทำงานชุดนี้
ซึ่งกระบวนการและผลของข้อมูลเหล่านี้
จะสร้างความสับสนต่อสังคม
ในการแก้ปัญหาเรื่องเขื่อนปากมูล
สมัชชาคนจนจึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี
ออกมาชี้แจงถึงกระบวนการในการเก็บข้อมูลของคณะทำงานส่วนตัวในครั้งนี้
นายเปาโล
คำสวัสดิ์ ตัวแทนชาวบ้าน
กล่าวว่า
สมัชชาคนจนยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลต่อไป
พร้อมกับจะสร้างเป็นหมู่บ้านให้มีความเข้มแข็งขึ้น
จนกว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงมติหรือพิจารณาใหม่
ขอถามรัฐบาลว่า
คณะทำงานเก็บข้อมูล 4 ชุด
ที่ลงพื้นที่เพียง 3 วัน
แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาอ้างว่า
เป็นมติเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในพื้นที่นั้น
มีองค์กรหรือหน่วยงานใดมารับรองความถูกต้องหรือไม่
ซึ่งขัดกับผลการวิจัยของ ม.อุบลราชธานี
ที่ลงพื้นที่กว่า 1 ปี
หากนายกฯ
ยังคงยึดหลักการอย่างนี้
ผมเสนอให้ยกเลิกสถาบันการศึกษาทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า
หากสมัชชาคนจนยังเคลื่อนไหวไม่ยอมรับมติรัฐบาลจะเข้าข่ายคำว่า
อนาธิปไตยหรือไม่ นายประพล
สิงห์แก้ว กล่าวว่า
สมัชชาคนจนไม่ได้เป็นพวกอนาธิปไตย
เพราะพวกเรามีจำนวนเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น
พวกเราชุมนุมแบบสันติวิธี
หากจะห่วงการเคลื่อนไหวของพวกเรา
เขาเห็นว่า
ควรจะห่วงการตัดสินใจของนายกฯ
ที่อยู่ในรูปแบบเผด็จการมากกว่า
"ขอถามว่ามติ
ครม.ที่เดินตามรอย กฟผ.ที่ต้องเปิดเขื่อนนั้น
ในความเป็นจริงมันต้องเปิดเขื่อนอยู่แล้ว
เพราะเป็นช่วงฤดูฝน
มิฉะนั้นน้ำจะท่วมเมืองอุบลฯ
ฉะนั้น ขอถามว่า
การตัดสินใจเช่นนี้
นายกฯหรือนายพงศ์เทพ
เทพกาญจนา จะมีกิน 4 เดือน อด 8
เดือน ได้หรือไม่
เพราะที่ผ่านมา ใน 1 ปี
เราจับปลาได้ 4 เดือน อีก 8
เดือน ก็อดอาหาร"
ท้านายกฯให้เอาไปฆ่า
ด้าน
นายสมเกียรติ พ้นภัย
กล่าวว่า
รัฐบาลจะหลอกคนทั้งประเทศได้
แต่หลอกคนส่วนน้อยอย่างพวกเราไม่ได้
การที่ให้กรมประมงมาสอนการจับปลาน้ำลึก
และขยายพันธุ์ปลานั้น
เขาคิดว่าไม่จำเป็น
เพราะถ้าเปิดเขื่อนแม่น้ำมูลก็จะมีความสมบูรณ์
สมัชชาคนจนมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อยู่แล้ว
"ที่นายกฯอ้างว่า
ต้องทำตามเสียงส่วนใหญ่
หากเห็นว่าพวกเราเป็นเสียงส่วนน้อยที่ค่อนข้างมีปัญหา
ก็ควรมาฆ่าเสีย
ควรจะนำความจริงออกมาพูดกัน
การพัฒนาของรัฐที่ผ่านมามันเสียหายไม่คุ้มค่า
และออกมาพูดว่าควรเสียสละนั้น
รัฐบาลควรที่จะหันมามองดูคนส่วนน้อยที่เสียสละวิถีชีวิตเพื่อคนส่วนใหญ่จะดีกว่า"
นอกจากนี้
ที่อ้างคำว่าเสียงส่วนใหญ่เพียงอย่างเดียว
สิ่งสำคัญคือ
สัจธรรมในการทำงานที่นายกฯ
ควรจะคำนึงถึง
ไม่อย่างนั้นนายกฯ
จะบริหารประเทศได้อย่างไร
หากยังทำงานแบบเอามือเขียน
เอาตีนลบนั้น
โง่กว่าเด็กอมมือเสียอีก
อย่างนี้จะให้เราเชื่อถือได้อย่างไร
น.ส.สมภาร คืนดี
กล่าวว่า การเคลื่อนไหวใดๆ
ของสมัชชาคนจนนั้น
ยังไม่ได้กำหนด
เพราะต้องรอการประชุมกันอีกครั้ง
แต่ในวันที่ 21 ม.ค.นี้
เครือข่ายสมัชชาคนจนลุ่มน้ำโขง
จะเดินทางมาสมทบ
และนำอาหารมามอบให้
ยืนยันว่า
สมัชชาคนจนเขื่อนปากมูลจะดำเนินการเคลื่อนไหวโดยสันติวิธี
"พงศ์เทพ"ยกผลสำรวจสนง.สถิติ
วันเดียวกันนี้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.พลังงาน
และนายสือ ล้ออุทัย
เลขาธิการสำนักงานสถิติฯ
ได้เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
โดยมีการฉายสไลด์ประกอบ
โดยนายพงศ์เทพ แถลงว่า
รัฐบาลยืนยันถึงผลสำรวจแนวทางการเปิด-ปิดเขื่อนปากมูล
ที่เหมาะสม
และเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
โดยประชาชนใน จ.อุบลราชธานี 3
อำเภอ คือ โขงเจียม สิรินธร
และพิบูลมังสาหาร จำนวน 3,750
คน เสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 83
ระบุว่า
ไม่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล
และมีความพอใจเขื่อนถึงร้อยละ
88.1
และเห็นว่ารัฐบาลควรเปิดเขื่อน
4 เดือน
จะทำให้ประชาชนรับผลกระทบน้อยที่สุด
สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือ
3 ประการ คือ 1.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน
เร่งทำคลองชลประทานส่งน้ำให้ประชาชนประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม
2.ให้กรมประมงเร่งให้การสนับสนุนผู้ประกอบอาชีพประมง
รวมทั้งส่งเสริมอบรมให้ชาวบ้าน
มีความชำนาญในการทำประมงน้ำลึก
3.ให้กระทรวงพลังงาน
โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทไทย
(กฟผ.)
ช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ
ในการดำเนินการตามข้อ 2
รวมถึงการปล่อยสัตว์น้ำขยายพันธุ์ปลา
พันธุ์กุ้ง
ให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น
เช่น กุ้งก้ามกาม เป็นต้น
"ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติฯ
ซึ่งรัฐบาลนำมาประกอบการตัดสินใจนับว่าสอดคล้องกับการสำรวจของหน่วยงานอื่น
คือ ทั้งฝ่ายทหาร
และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้
เป็นการสำรวจที่ยึดหลักวิชาการ
จึงมีความน่าเชื่อถือ
เพราะผลสำรวจเป็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง"
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า
การสำรวจแบบนี้จะใช้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใจโครงการอื่นๆ
ที่มีปัญหา เช่น
โครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย
หรือโรงไฟฟ้าบ่อนอก-หินกรูด
ด้วยหรือไม่ นายพงศ์เทพ
กล่าวว่า
การสำรวจข้อมูลครั้งนี้เป็นเพียงส่วนประกอบในการพิจารณาตัดสินใจ
ซึ่งการตัดสินใจโครงการต่างๆ
นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัย
สถานการณ์ในแต่ละเรื่องด้วย
ซึ่งต้องดูว่าการสำรวจข้อมูลในลักษณะนี้จะช่วยให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ดีขึ้นหรือไม่
"ทักษิณ"ปิดประตูประชาพิจารณ์
ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ
ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบเขื่อนปากมูล
ว่า รัฐบาลได้ทำเต็มที่
พยายามอดทนและตั้งใจฟัง
รวมถึงการเดินทางลงพื้นที่
เพื่อต้องการรู้ข้อเท็จจริง
และยังส่งคนลงพื้นที่ถึง 4
หน่วย คือ ตชด.กองทัพภาคที่ 2
ฝ่ายปกครอง
และสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ซึ่งรายงานของทั้ง 4
หน่วยงานออกมาใกล้เคียงกันมาก
ว่า
คนส่วนใหญ่ต้องการแบบนี้
แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีคลองชลประทาน
และเพาะพันธุ์ปลาเพิ่มขึ้น
ซึ่งรัฐบาลก็จะทำเพิ่มเติมให้
เราทำได้ในระดับหนึ่ง
และจะให้คน 63 ล้านคน
รับได้ทุกมิติที่รัฐบาลทำ
รับรองว่าไม่ต้องมีรัฐบาลเลย
คือ
ทุกคนเป็นนายกรัฐมนตรีหมด
ทุกอย่างต้องมีวันจบ
ถ้าหากไม่มีวันจบหรือยืดเยื้อ
คงไม่ได้
เมื่อรัฐบาลใช้ความรอบคอบแล้วก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำเพื่อคนส่วนใหญ่
และบรรเทาความเดือดร้อนของคนส่วนน้อยเท่าที่จะทำได้"
เมื่อถามว่า
กลุ่มผู้ชุมนุมยังแสดงท่าทีแข็งกร้าวอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า
ไม่รู้จะทำอย่างไร สังคมไทย
ถ้ามีคนไม่ยอมรับอยู่จำนวนนิดหนึ่ง
และจะต้องหยุดหมดทุกอย่าง
เพื่อกลุ่มเล็กๆ
กลุ่มเดียวคงไม่ได้
ทิศทางประเทศต้องเดินหน้า
ส่วนที่เกรงว่าจะการใช้วิธีรุนแรงนั้น
ก็ไม่มีปัญหา
บ้านเมืองมีกฎหมาย
เขาเป็นคนที่ใช้หลักเมตตาธรรม
และหลักกฎหมายบ้านเมืองประกอบกัน
เมื่อถามว่าต้องทำประชาพิจารณ์อีกหรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า
ไม่ต้องทำ
เพราะชาวบ้านบอกว่าถ้าเมื่อไหร่รัฐบาลตัดสินใจตามที่ประชาชนคนกลุ่มน้อยเรียกร้อง
เขาก็จะเดินทางมาหลายพันคน
ซึ่งที่เขาไม่มาก็บอกว่าทุกอย่างมันดีแล้ว
เราอย่าไปยุให้คนส่วนใหญ่มาเดินขบวน
เราทำตามคนส่วนน้อยไม่ได้หรอก
"หมอประเวศ"ยกพระราชดำรัสในหลวงเตือน
วันเดียวกันนี้
น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส
กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลของรัฐบาล
ว่า
การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญ
และปัญหาใหญ่มากโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาคนยากจน
กับการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ
ถือว่าเป็นปัญหาที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงในอนาคตได้
การแก้ไขปัญหาของราชการที่ยึดหลักกฎหมาย
จำเป็นต้องมีการปฏิรูป
"การนำแนวคิดนี้มาใช้ในขณะที่รัฐของเราเป็นรัฐเผด็จการ
ทำให้กฎหมายเป็นตัวสร้างความรุนแรง
กฎหมายเช่นนี้เป็นกฎหมายที่ทำร้ายประชาชน
เช่น กฎหมายป่าสงวน
ที่ทำให้คนไม่น้อยกว่าสิบล้านคน
กลายเป็นคนทำผิดกฎหมาย
ในหลวงเคยทรงตรัสในเรื่องเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง
แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไข
เรื่องอย่างนี้ควรจะต้องทำความเข้าใจมากกว่าจะไปตัดสินให้เด็ดขาด"
ทั้งนี้
เรื่องนี้ได้เตือนมาแล้วหลายครั้งหลายหน
ได้เตือนนายกฯ
มาแล้วว่าการตัดสินเข้าข้างใดข้างหนึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง
เรื่องนี้จำเป็นต้องใช้วิธีในรูปของขบวนการในการแก้ปัญหา
โดยนำหลักสันติวิธีมาใช้
สิ่งต่างๆ
เหล่านี้อยากจะเตือน
และไม่อยากให้รัฐบาลผลีผลาม
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน
หากเราทำความเข้าใจกับชาวบ้านจริงๆ
แล้ว
ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก
เพราะชาวบ้านถูกกระทำมาโดยตลอดจากฝ่ายรัฐ
และเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน
|