eng homeabout usmekong riversalween rivermun riverthai baan researchpublication
 

สมัชชาคนจนผิดหวัง“สนธิ-สุรยุทธ์”
ลุกสู้อำนาจเถื่อนเปิดเขื่อนปากมูนเอง

ผู้จัดการออนไลน์  11 กรกฎาคม 2550

เจ้าหน้าที่ตำรวจผลักดันชาวปากมูนออกจากทำเนียบรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

 ผู้จัดการออนไลน์ – ตัวแทนชาวปากมูนที่เฝ้ารอมติครม.ให้เปิดเขื่อนปากมูลแต่ต้องผิดหวังเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วในวันนี้ (11 ก.ค.) พร้อมประกาศลั่นเมื่อรัฐบาล – คมช. ไม่แยแสข้อมูลเชิงวิชาการ ปล่อยให้ชาวบ้านที่พึ่งพิงอาชีพหาปลาต้องอดตาย ก็จะกลับไปเปิดเขื่อนด้วยตนเองและขอยืนหยัดสู้กับอำนาจเถื่อนแม้จะเสี่ยงคุกตะราง
       
        ก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.) และสมัชชาคนจน ได้ออกแถลงการณ์แสดงถึงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ที่ไม่ยืนอยู่บนข้อเท็จจริงในเชิงวิชาการที่มีงานศึกษาวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า การเปิดเขื่อนปากมูน จะให้ประโยชน์ต่อผู้อาศัยพึ่งพาลุ่มน้ำแม่มูล รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ระบบนิเวศน์ และชาวแม่มูนได้ตัดสินใจจะแก้ไขปัญหาโดยจะเปิดเขื่อนด้วยตนเอง แม้ว่าจะต้องเสี่ยงคุกตะรางก็ตาม
       
        แถลงการณ์ของสมัชชาคนจน ระบุว่า รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บิดเบือนงานวิจัยม.อุบลฯ ด้วยการเปิดเขื่อน ๔ เดือน แทนการเปิดตลอดปี แต่รัฐบาลสุรยุทธ์และคมช.ล้มล้างผลการศึกษาม.อุบลฯ และมติรัฐบาลทักษิณด้วยการปิดเขื่อนปากมูล ถาวร ปฏิเสธความเดือดร้อนของชาวบ้าน อีกทั้งยังเล่นลิ้นว่าเป็นการรักษาระดับน้ำ สร้างภาพแหกตาประชาชนให้เห็นว่าเขื่อนปากมูลสร้างผลประโยชน์ด้านชลประทานให้กับชาวบ้านกว่า ๒ หมื่นราย ทั้งที่ในหลายปีที่ผ่านมารายงานทางวิชาการได้ระบุว่า เขื่อนฯไม่ได้มีศักยภาพในด้านการชลประทาน การผลิตไฟฟ้า และด้านอื่นๆ เหมือนที่ กฟผ.ได้โฆษณาไว้
       
        ดังนั้น การอ้างประชามติว่ามีชาวบ้านเห็นด้วยกับการปิดประตูระบายน้ำ จึงน่าจะเป็นทางเดียวที่ กฟผ.นำมาใช้เป็นเหตุผลเพื่อรักษาเขื่อนปากมูล ซึ่งกระบวนการดังกล่าวได้อาศัยอำนาจพิเศษของ กอ.รมน.ที่มีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผู้อำนวยการ ดำเนินการรวบรวมรายชื่อและเสนอตรงต่อคณะรัฐมนตรี ล้มล้างมติครม. ที่ให้เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
       
        การเข้าพบ พล.อ สนธิ ในฐานะผอ.รมน.ที่เสนอเรื่องต่อครม. ได้ข้อยุติว่า พล.อ.สนธิ จะนำเสนอเรื่องเขื่อนปากมูลเข้าสู่ครม.อีกครั้งหนึ่งในอังคารที่ 10 ก.ค. 2550 เพื่อยืนยันการเปิดประตูน้ำ 4 เดือนดังเดิม ซึ่งเรื่องนี้โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็ได้ออกมาแถลงยืนยันอีกครั้งหนึ่ง พวกเราได้เข้าไปรอฟังผลที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในเวลาต่อมามีการประสานงานว่าไม่มีการนำเรื่องปากมูนเข้าพิจารณาในครม. นับเป็นการใช้อำนาจทหารเข้ามาแทรกแซงการแก้ปัญหา ก่อนที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะถูกตราขึ้นมาใช้อย่างเป็นทางการ
       
        พวกเรา ในฐานะเหยื่อของอำนาจเถื่อน พยายามใช้เหตุผลทางวิชาการโน้มน้าวให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายได้สำนึกในความผิดชอบชั่วดี เปลี่ยนแปลงแก้ไขในสิ่งผิด ด้วยการเข้าพบรัฐมนตรีและผู้นำทางทหาร จนกระทั่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยืนยันต่อหน้าพวกเราและคณะนักวิชาการที่เข้าพบว่าจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล 4 เดือนตามเดิมในวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา
       
        แต่ความจริงอันโหดร้ายก็ประจักษ์ชัด เมื่อไม่มีการนำเสนอเรื่องปากมูนเข้าพิจารณาในครม.โดยไม่มีผู้มีอำนาจคนใดแยแสสนใจที่จะให้ความกระจ่างชัดกับชาวบ้าน จนพวกเราต้องเข้าไปทวงถามในทำเนียบรัฐบาลด้วยความสงบ แต่ต้องเผชิญกับมือตีนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้ามาผลักดันพวกเราให้ออกพ้นจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่สนใจต่อเสียงร่ำร้องขอความเป็นธรรมแต่อย่างใด
       
        ในวันนี้พวกเราจึงไม่เข้าใจว่า คมช.และรัฐบาลนี้มาเพื่อทำสิ่งใดกันแน่ แต่สำหรับกรณีเขื่อนปากมูล า รัฐบาลนี้สร้างปัญหาให้เลวร้ายลงกว่าเดิม ทำลายช่องทางการทำกินของชาวบ้าน จากพอมีกินให้อดมื้อกินมื้อ และต้องดิ้นรนหนักขึ้นกว่าเดิมปฏิเสธความเดือดร้อนของชาวบ้าน ปฎิเสธการใช้เหตุผลตามแนวทางประชาธิปไตย กลับยืนหยัดในการใช้อำนาจเผด็จการโดยอ้างเสียงส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือซึ่งเป็นการยืนยันว่าอำนาจที่ยึดมาไม่ใช่เพื่อประชาชน
       
        พวกเราจึงขอประกาศ ณ ทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้ว่าว่าเราจะกลับไปเปิดเขื่อนด้วยตัวเราเองแม้จะต้องเสี่ยงกับคุกตาราง และการใช้อำนาจเถื่อนในรูปแบบต่างๆ ก็ตาม
       
        สมพาร คืนดี ตัวแทนคณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มนักวิชาการติดต่อขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ข้อมูลในวันเสาร์นี้อีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็ไม่คาดหวังอะไรมาก ชาวบ้านยืนยันว่าจะหาวิธีการทางแก้ปัญหาด้วยตนเองเพื่อเปิดประตูน้ำให้ได้ แต่จะด้วยวิธีการใด จะฟื้นคืนหมู่บ้านแม่มูนมั่นยืน ที่เคยใช้เป็นแนวทางต่อสู้เหมือนในอดีตหรือไม่ ต้องดูอีกครั้งว่ามติของชาวบ้านจะเอาอย่างไร เพราะสิบกว่าปีที่ผ่านมาเราสู้กันมาทุกวิถีทาง แต่ก่อนเราสู้กับ กฟผ. และข้าราชการ แต่ตอนนี้เราต้องสู้กับอำนาจทหารเพิ่มเข้ามาอีก
       
        “รัฐบาลทุกรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลปัญหาปากท้องของชาวบ้าน รัฐบาลนี้ก็เหมือนกัน เรากังขาเพราะตอนเข้ามาประกาศตัวว่าเป็นคนดี มีคุณธรรม แต่ตอนนี้กลับมาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ปิดหนทางทำมาหากิน” ตัวแทนคณะกรรมการชาวบ้านฯ กล่าว และเชื่อว่าสังคมจะรู้ว่า กลุ่มชาวบ้านและสมัชชาคนจนเคลื่อนไหวเพื่อปากท้อง ไม่ใช่เป็นประเด็นทางการเมือง เพราะการต่อสู้ของชาวแม่มูนดำเนินมายาวนานและต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง

 
 

สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต   138/1 หมู่ 4 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่   50200
Living River Siam Association  138 Moo 4, Suthep, Muang, Chiang Mai, 50200   Thailand
Tel. & Fax.: (66)-       E-mail : admin@livingriversiam.org

ข้อมูลในเวปนี้สามารถนำไปเผยแพร่ได้โดยอ้างอิงแหล่งที่มา