แรงบันดาลใจจากราษีไศล
พวกเราผู้เข้าร่วมประชุมกว่า ๓๐๐ คนจาก ๖๒ ประเทศทั่วโลก
ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อน นักสู้ผู้ คัดค้านเขื่อน นักกิจกรรมการพัฒนาเพื่อความสมดุลย์และยั่งยืนในการจัดการน้ำและพลังงานประชุม
กันที่ราษีไศล ประเทศไทย เราได้พบกัน ณ ดินแดนที่ได้รับการฟื้นฟูเพื่อชีวิตภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อน
บัดนี้ประตู เขื่อนราษีไศลได้เปิดออกแล้ว สายน้ำได้ไหลผ่านอีกครั้ง ในขณะที่ผลผลิตเริ่มงอกเงย
หมู่ปลาได้หวนกลับคืนมา ชีวิตชุมชนเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ผู้ประสบภัยจากการ
สร้างเขื่อนของไทยได้ถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิต การตัดสินใจ และบทเรียนการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ชีวิต
แม่น้ำ เขตแดน วัฒนธรรม และ อัตลักษณ์ แก่พวกเราและประชาชนทั่วโลก
น้ำเพื่อชีวิต มิใช่เพื่อความตาย ! คำประกาศในการประชุมผู้เดือดร้อนจากการ
สร้างเขื่อนนานาชาติครั้งแรก ที่เมืองคูริทิบา ประเทศบราซิลเมื่อปี ๒๕๔๐
ได้ปรากฏเป็นจริงที่ราษีไศล ประเทศไทย
ความสำเร็จของเรา
นับแต่การประชุมที่คูริทิบา พวกเราได้ผลักดันให้เกิดความคืบหน้าในการต่อสู้อย่างมาก
ตามลุ่มน้ำต่าง ๆ ปฏิบัติการรณรงค์แล ะระดมสรรพกำลังของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบได้ท้าทายอุตสาหกรรมเขื่อน
รัฐบาล และสถา บันการเงิน ขบวนการเพื่อคัดค้านเขื่อน จากนานาชาติได้แสดงศักยภาพในการท้าทายต่ออุตสาหกรรมเขื่อนทั้งในด้าน
เทคนิค การเมือง และจริยธรรม เราได้หยุดเขื่อนและปลด ระวางเขื่อนบางแห่ง
ในบางพื้นที่เราประสบผลสำเร็จในการ เรียกร้องสิทธิในการได้รับค่าปฏิกรณ์ความเสียหายอย่างเป็นธรรม
ผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนและองค์กรพันธมิตรมีบทบาทอย่างสำคัญในการเข้าร่วมเป็นผู้ตัดสินใจและ
เป็นผู้กำหนดชะตา กรรมของตนเอง
เราประสบความสำเร็จในการดำเนินการจัดการน้ำในระดับชุมชนที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งทางสังคม และ สิ่งแวดล้อม เรามีส่วนสนับสนุนให้เกิดพัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนแบบใหม่
ๆ รวมถึงการจัดการด้านความต้องการพลังงาน
การเติบโตของขบวนการต่อสู้ของเรา เป็นผลมาจากการกระชับความร่วมมือของกลุ่มชนพื้นถิ่น
กลุ่มชาติพันธุ์ ขบวนการ ประชาชน ระดับรากหญ้า องค์กรพัฒนาภาคเอกชน และระหว่างประชาสังคมจากทั้งประเทศกลุ่มเหนือ
และ ประเทศกลุ่มใต้ เราได้ สมานฉันท์กับขบวนการต่อสู้ของกลุ่มระดับโลกที่รวมตัวต่อต้านลัทธิเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่
และ ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสังคม ที่เสมอ ภาคและเป็นธรรม
กระบวนการของคณะกรรมการเขื่อนโลก
ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญยิ่งในช่วงระยะเวลา ๖ ปีที่ผ่านมา รายงานฉบับสมบูรณ์
ของคณะกรรมการเขื่อนโลกถือเป็นบทวิพากษ์ที่สำคัญต่อการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่อย่างชัดแจ้ง
แม้ว่ารายงานฉบับนี้ไม่ได้ตั้งคำถาม ต่อ ความผิดพลาดของแบบแผนการพัฒนาตามแนวเสรีนิยมใหม่
แต่ข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการเขื่อนโลกก็ได้กำหนดกรอบกระบวน การ ตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย
มีความโปร่งใส และความรับ ผิดชอบที่สามารถตรวจสอบได้
ความท้าทายของเรา
ในอดีต พวกเรามักได้รับการบอกกล่าวว่า เขื่อนขนาดใหญ่นำมาซึ่งการพัฒนา
ปัจจุบันนักสร้างเขื่อนยังกล่าวอ้างอีกว่า เขื่อน ขนาดใหญ่มีความสำคัญต่อการบรรเทาปัญหาความยากจน
และลดช่องว่างระหว่างประเทศกลุ่มเหนือและกลุ่มใต้ ในช่วง ๕๐ ปีที่ผ่านมา
ได้ปรากฏให้เห็นชัดแจ้งว่าคำกล่าวดังว่านั้นเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงทั้งเพ
ยุคสมัยของเขื่อนขนาดใหญ่ได้นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำ ไม่เสมอ ภาคระหว่างประเทศกลุ่มเหนือและใต้ที่ไม่สามารถยอมรับได้
และช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนที่นับวันจะขยายกว้างมากขึ้นทุกที
เราขอประณามคำกล่าวอ้างโคมลอยที่ว่า เขื่อนขนาดใหญ่และโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำช่วยลดปัญหาโลกร้อนจากปรากฏการณ์
เรือนกระจก
ชนพื้นถิ่นถูกคุกคามทั้งทางด้านเขตแดน ผืนดิน และทรัพยากร การใช้กำลังทหารในการจัดการกับโครงการเหล่านี้ถือเป็นการ
ล่วง ละเมิดสิทธิมนุษยชนและคุกคามต่อการอยู่รอดของชนพื้นถิ่น
การแปรรูปกิจการรัฐวิสาหกิจให้เป็นของบรรษัทธุรกิจเอกชนได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
แม้ล้มเหลวทั่วโลกมานาน กว่าทศวรรษแล้ว ก็ตาม
เราขอยืนหยัดคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เป็นของบรรษัทธุรกิจเอกชนซึ่งจะทำให้น้ำและแม่น้ำอันเป็นปัจจัยสำคัญของ
ชีวิต ต้องตกอยู่ในมือของ บรรษัทธุรกิจ ภายใต้ระบบกลไกตลาด
โครงการเชื่อมลำน้ำ และผันน้ำระหว่างลุ่มน้ำต่าง ๆ รวมถึงอภิมหาโครงการข้ามชาติที่เกี่ยวกับน้ำได้สะท้อนให้เห็นถึงความ
ไร้ศักยภาพ ของบรรดาผู้สนับสนุนเขื่อน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล บรรษัท และบรรดานักเทคนิคในการเรียนรู้และเข้าใจถึงผลกระทบ
อันเนื่องมาจาก โครงการขนาดใหญ่ ตลอดจนความล้มเหลวทั้งทางเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ของโครงการขนาดยักษ์เหล่านี้
การโยกย้ายอุตสาหกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากๆ เช่น อุตสาหกรรมอลูมิเนียม
จากประเทศอุตสาหกรรมกลุ่มเหนือไปสู่ประเทศกลุ่มใต้ จากประเทศศูนย์กลางไปยังประเทศบริวาร
ทำให้ประเทศกลุ่มใต้หรือประเทศบริวารต้องแบกรับภาระการเงินเพิ่มมากขึ้น
เกิดหนี้ต่างประเทศ อย่างมากมาย และได้รับหายนะจากโครงการเขื่อนขนาดใหญ่
ข้อเรียกร้องของเรา
จากประสบการณ์ร่วมของเรา รวมกับ ๕ วันที่พวกเราได้ร่วมกันแลกเปลี่ยน
เราเห็นพ้องต้องกันว่า
๑. เรารับรองและยืนยันในหลักการและข้อเรียกร้องตามคำประกาศคูริทิบา
พ.ศ. ๒๕๔๐
๒. เราคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนใดๆ
ก็ตามที่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เราคัดค้านเขื่อนใดๆ ก็ตามที่มิได้รับความเห็นชอบ
และฉันทานุมัติจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการ ตัดสินใจ และเราต่อต้านโครงการเขื่อนใดก็ตามที่ไม่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของชุมชน
๓. เราเรียกร้องให้มีการเคารพภูมิปัญญาของชนพื้นถิ่น
กลุ่มชาติพันธุ์ การจัดการทรัพยากรตามแบบแผนประเพณี และสิทธิส่วนรวมในการกำหนดอนาคตของตนเองอย่างเป็นอิสระ
ตลอดจนความเห็นชอบในการวางแผนและร่วมตัดสินใจในการจัดการน้ำและพลังงาน
๔. จะต้องคำนึงถึงความเสมอภาคหญิงชายในนโยบาย
แผนงานและโครงการด้านน้ำและพลังงาน
๕. รัฐและภาคธุรกิจเอกชนจะต้องหยุดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
ทั้งการข่มขู่ บีบบังคับ ปราบปรามประชาชน และใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงจัดการกับผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนรวมถึงกลุ่มองค์กรประชาชนผู้คัดค้านเขื่อน
๖. จะต้องมีการชดใช้ค่าปฏิกรณ์ความเสียหายให้กับประชาชนและชุมชน
โดยการเจรจากับผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนนับล้านคน รวมถึงการจัดตั้งกองทุน
การจัดสรรให้มีที่ดิน ที่อยู่อาศัย และสาธารณูปโภคอย่างเพียงพอ โดยที่เจ้าของแหล่งเงินทุน
เจ้าของโครงการ และผู้ได้รับผลประโยชน์จากเขื่อนไปแล้ว จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าปฏิกรณ์ดังกล่าว
๗. ต้องมีการดำเนินการอันรวมถึงการปลดระวางเขื่อนเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์และวิถีชีวิตของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อน
และเพื่อรักษาความหลากหลายด้านชีวภาพของแม่น้ำเอาไว้
๘. เราปฏิเสธการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและน้ำให้เป็นของบรรษัทธุรกิจเอกชน
เราเรียกร้องให้มีกลไกการควบคุมและตรวจสอบความรับผิดชอบจากสาธารณะที่มีประสิทธิภาพและเป็นประชาธิปไตย
รวมถึงมีการควบคุมสาธารณูปการด้านน้ำและไฟฟ้า
๙. รัฐบาล สถาบันการเงินระหว่างประเทศ
หน่วยงานส่งเสริมการส่งออก และบรรษัทธุรกิจเอกชนจะต้องดำเนินการตาม ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการเขื่อนโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเห็นชอบจากสาธารณะและฉันทานุมัติจากชุมชน
การชดใช้ค่าปฏิกรณ์ความเสียหาย และการประเมินทางเลือกอย่างรอบด้าน ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการเขื่อนโลกควรได้รับการผนวกเข้าไปเป็นส่วนสำคัญของนโยบายและกฎหมาย
รวมทั้งกิจกรรมระดับภูมิภาค
๑๐. รัฐบาลและบรรษัททุนภาคเอกชนจะต้องให้หลักประกันในการลงทุนอย่างเต็มที่ในด้านการศึกษาวิจัย
และดำเนินการด้านเทคโนโลยีพลังงาน และการจัดการน้ำที่ยั่งยืนและเป็นธรรม
รัฐจะต้องดำเนินการตามนโยบายที่จะลดกากของเสีย การบริโภคที่มากและฟุ่มเฟือย
และให้มีหลักประกันในการกระจายความมั่นคงผาสุกอย่างเท่าเทียม
๑๑. หยุดยั้งโครงการผันน้ำระหว่างลุ่มน้ำ
และโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
๑๒. ให้มีการยุติตลาดการค้าคาร์บอนระหว่างประเทศ
๑๓. ทางน้ำเพื่อการเดินเรือจะต้องเป็นไปตามหลักการ
ปรับสภาพเรือให้เหมาะสมกับแม่น้ำ ไม่ใช่ ปรับแม่น้ำให้เหมาะสมกับเรือ
เรามีความมุ่งมั่นที่จะ
- ยกระดับการต่อสู้และรณรงค์คัดค้านเขื่อนมหันตภัย
และให้มีการชดใช้ค่าปฏิกรณ์ความเสียหายจากเขื่อนอย่างเป็นธรรม รวมถึงการฟื้นฟูแม่น้ำ
และลุ่มน้ำ
- ดำเนินการจัดการน้ำและพลังงานด้วยแนวทางแบบยั่งยืนและเป็นธรรมทั่วโลก
เช่น เกษตรกรรมน้ำฝน โครงการพลังงานหมุนเวียนที่จัดการโดยชุมชน
- พัฒนาองค์ความรู้และฟื้นฟูประเพณีในการจัดการทรัพยากรน้ำที่หลากหลาย
โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลุ่มเด็กและเยาวชน
- เสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักกิจกรรม
และขบวนการประชาชนที่ทำงานด้านเขื่อน น้ำ และพลังงาน รวมถึงโครงการแลกเปลี่ยนเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกันของบรรดาผู้ได้รับผลกระทบจากประเทศต่าง
ๆ
- เสริมสร้างความเข้มแข็งของขบวนการของเรา
ด้วยการประสานความร่วมมือกับเครือข่ายขบวนการประชาชนอื่น ๆ ในการต่อสู้
คัดค้านแบบแผนการพัฒนาตามแนวทางเสรีนิยมใหม่ที่เป็นตัวปัญหา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งทางสังคมและระบบนิเวศน์ในระดับโลก
- จัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง ๑๔ มีนาคม วันหยุดเขื่อนโลกเพื่อปกป้องแม่น้ำและชีวิต
เป็นประจำทุกปี เราขอเรียกร้องให้ขบวนการประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
องค์กรพันธมิตร และขบวนการทางสังคมอื่น ๆ รวมทั้งองค์กรพัฒนาภาคเอกชน ได้ประสานความร่วมมือในการปฏิบัติการร่วมในวันหยุดเขื่อนโลกเพื่อปกป้องแม่น้ำและชีวิต
ในปี ๒๕๔๗ ซึ่งจะมีการประท้วงธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(ไอเอ็มเอฟ) ในโอกาสครบรอบ ๖๐ ปีด้วย
การต่อสู้คัดค้านเขื่อนมหันตภัย และแบบแผนของการจัดการน้ำและพลังงานในปัจจุบัน
ถือเป็นการคัดค้านโครงสร้างทางการเมืองและสังคมที่ถูกครอบงำโดยวิธีคิดที่มุ่งหวังแต่ผลกำไรอย่างเต็มที่
และนี่คือการต่อสู้เพื่อสังคมที่อยู่บนฐานของความเสมอภาคและความสมานฉันท์ของประชาชนทั้งมวล
แบบแผนใหม่ในการจัดการพลังงานและน้ำที่ดีกว่าเดิมย่อมเป็นไปได้
!
น้ำเพื่อชีวิต มิใช่เพื่อความตาย !