รวมพลังค้าน"เสือเต้น" สะเอียบ - 16 องค์กรลุย ครม.
- ข่าวสด หน้า 1 - 28
มิย 47
http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod.php?sectionid=0301&searchks=''&sk=''&s_tag=03p0113280647&day=2004/06/28&show=1
 |
|
ชาวบ้านต.สะเอียบ จ.แพร่ กว่า 3,000
คนร่วมกันชุมนุมใหญ่ คัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ก่อนร่วมกันเผาเขื่อนจำลอง
และจะยื่นหนังสือคัดค้านต่อนายกฯ ระหว่างการประชุมครม.สัญจรที่จ.ลำพูนในวันนี้
|
ชาวบ้าน 3,000 คนร่วมใจทิ้งหินขื่อบ้านใช้วัฒนธรรมชุมชนสู้โครงการยักษ์รัฐบาลแม้ว
แกนนำหมู่บ้านกล่าวปฏิญาณก่อนเผาเขื่อนจำลองยันต่อสู้เขื่อนแก่งเสือเต้นถึงที่สุด
ครั้งนี้ขอต่อสู้เพื่อปิดตำนานเขื่อนแก่งเสือเต้น 29 มิ.ย เปิดเวทีหน้าที่ประชุม
ครม.สัญจรร่วมกับ 16 เครือข่ายสภาประชาชนภาคเหนือ ยื่น 11 ข้อเสนอ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. ชาวบ้านจำนวน
3,000 คน จาก 4 หมู่บ้านได้แก่บ้านดอนชัย บ้านดอนชัยสักทอง บ้านแม่เต้น
และบ้านดอนแก้ว ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ที่ประสบปัญหากรณีรัฐบาลต้องการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น
ส่งผลกระทบให้หมู่บ้านเหล่านี้ต้องอพยพออกจากพื้นที่ มารวมตัวกันที่หน้าวัดดอนชัยเพื่อประท้วงโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น
โดยผู้ประท้วงทั้งหมดได้เดินไปรวมตัวกันที่บริเวณหอแดง ประตูทางออกหมู่บ้าน
ที่เรียกว่า "ขื่อบ้าน" ห่างจากชุมชนไปทางตัวเมืองแพร่ราว
1 ก.ม. แล้วร่วมกันนำก้อนหินและช่อดอกไม้ทิ้งที่เสาขื่อบ้าน เพื่อยืนยันการต่อสู้กับโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ
ในการชุมนุม หมู่บ้านต่างๆ ได้ส่งตัวแทนขึ้นเวทีกล่าวถึงแนวทางการต่อสู้
หลังจากนั้นนายอุดม ศรีคำภา แกนนำชาวบ้านสะเอียบต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น
ได้กล่าวประกาศเจตนารมณ์ของ 4 หมู่บ้านในการต่อสู้กับโครงการสร้างเขื่อน
จากนั้นได้ร่วมกันเผาหุ่นเขื่อนแก่งเสือเต้นจำลองร่วมกันเพื่อไม่ให้เขื่อนกลับมาสร้างความเดือดร้อนต่อชุมชนอีก
นายอุดม กล่าวว่า ชาวสะเอียบอยู่ในพื้นที่ป่ามานานกว่า
200 ปี แม้ในตำนานพระลอก็ยังปรากฎหมู่บ้านสะเอียบ ชาวบ้านยังมีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับป่าอย่างสมดุล
แต่กลับมีคนคิดร้าย คิดทำลายป่าสักทองที่เรารักษาไว้ ทำลายชุมชน ทำลายวิถีชีวิตโดยอ้างการพัฒนาในโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น
ซึ่งโครงการนี้ผลาญงบประมาณถึง 12,000 ล้านบาท เราได้ทำประชาคมในหมู่บ้านแล้วทุกหลังคาเรือนยืนยันไม่ออกจากชุมชนเดิมอย่างเด็ดขาด
เพราะทางเลือกในการแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมมีอีกมาก แต่รัฐบาลไม่เอาเมื่อรัฐประกาศออกมาชัดแล้วว่าต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น
ชาวสะเอียบจะเข้าร่วมกับเครือข่ายสภาประชาชน 16 เครือข่ายและเข้าร่วมชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน
ระหว่างการประชุม ครม.สัญจร ในวันที่ 29 มิ.ย. เพื่อให้รัฐหยุดโครงการที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้
จะชาวสะเอียบจำนวน 3,000 คน เข้าร่วมประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน
และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมนับหมื่นคน โดยได้มีการรวมปัญหาของชาวบ้านเข้าด้วยกัน
ได้แก่ปัญหาทรัพยากรดิน น้ำป่า ราคาพืชผลตกต่ำ ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ปัญหาผลกระทบจากโครงการรัฐ
ปัญหาละเมิดสิทธิชุมชนบนพื้นที่สูง ปัญหาชุมชนเมือง และเรียกร้องคำตอบจากรัฐบาลกรณีที่มีการสังหารนายเจริญ
วัดอักษร ประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ่อนอก
วันเดียวกัน 16 องค์กรเครือข่ายสภาประชาชนภาคเหนือ
ออกแถลงการณ์ยื่นข้อเสนอ 11 ข้อที่จะเสนอต่อรัฐบาลในวันที่ 29 มิ.ย.
คือ 1.การประชุม ครม.จะต้องยืนอยู่บนหลังการแก้ปัญหาความยากจนเชิงโครงสร้างที่เกษตรกรรายย่อยไม่ได้รับความเป็นธรรม
2.การประชุม ครม.ครั้งนี้จะต้องไม่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองทิ้งทวนงบประมาณเพื่อการหาเสียงล่วงหน้า
แต่จะต้องทบทวนโครงการใหญ่ๆ ของรัฐที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน 3.กรณีการลอบสังหารนายเจริญ
วัดอักษร เป็นรายที่ 15 แล้วรัฐยังหาผู้กระทำผิดไม่ได้สักรายเดียว 4.
กรณีการตายของนายเจริญ สะท้อนให้เห็นความขัดแย้งการพัฒนาเชิงโครงสร้าง
แย่งชิงทรัพยากรโดยไม่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ เช่น แก่งเสือเต้น โรงไฟฟ้าแม่เมาะ
เป็นต้น 5.ยุติการหลอกลวงในโครงการต่างๆ ที่มีการจัดประชาพิจารณ์แบบหลอกๆ
6.ใช้กรณีความล้มเหลวการจัดปฏิรูปที่ดินของลำพูนมาแก้ปัญหาเพื่อการจัดปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ
7.กรณีการแก้ปัญหาของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ
รัฐยังไม่ชัดเจนและจริงใจ
8.กรณีโครงการพัฒนาใหญ่ๆ รัฐบาลจะต้องใช้องค์ความรู้ที่มีการศึกษาวิจัยทางวิชาการจากหลายสถาบันมาประกอบ
เช่นโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น กระเช้าลอยฟ้าดอยหลวง เป็นต้น 9.กรณีพ.ร.บ.ป่าชุมชน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รับปากว่าจะนำพ.ร.บ.ป่าชุมชนเข้าสู่การพิจารณาโดยรัฐสภา
แต่ปัจจุบันสภาได้ปิดสมัยประชุมไปแล้ว โดยไม่มีการพิจารณา 10.รัฐบาลต้องยุติและทบทวนนโยบายการค้าเสรี
11.สภาประชาชนภาคเหนือ จะไปร่วมกันแสดงเจตนารมณ์นำความเดือดร้อนไปเรียกร้องให้นำไปสู่การแก้ไขโดยเร็วตามระบอบ
ประชาธิปไตย