จดหมายเปิดผนึก
กรณี การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การสร้างเขื่อนบนแม่น้ำนานาชาติ:ลุ่มน้ำสาละวิน
ซึ่งจะจัดขึ้นที่เชียงใหม่ ประเทศไทย วันที่ 13-16 กันยายน 2542
จากการที่กลุ่มของนักวิชาการ,เจ้าหน้าที่รัฐ,บริษัทที่ปรึกษาเอกชนและธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุพาคี จะเข้าร่วมประชุม เชิงปฏิบัติการเพื่ออภิปรายถึงทรัพยากรน้ำที่ระหว่างประเทศ กรณีการพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน ซึ่งเป็นการประชุมในสถานที่เฉพาะและ เก็บเป็นความลับและเห็นได้ชัดว่า "เพื่อเป็นการพบปะสนทนากันระหว่างตัวแทนกลุ่มต่างๆ ที่มีความสนใจในการพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน" นั้น
เป็นที่ชัดเจนว่าการประชุมดังกล่าว ไม่มีรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมที่เป็นคนในท้องถิ่นเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นคนท้องถิ่นนั้นสำคัญที่ จะขาดเสียมิได้ในโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในทางตรงกันข้าม รายชื่อผู้ที่เข้าร่วมประชุมกลับเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ไม่มีวันจะแสดงให้เห็นได้ เลยว่าพวกเขาให้ความสนใจกับชุมชนท้องถิ่น ผู้ที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ได้แก่ อธิบดีกรมการไฟฟ้าแห่งพม่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลพม่าอีก หลายคน อธิบดีกรมชลประทานของไทย อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาพลังงานของไทย ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกและธนาคารเพื่อ การพัฒนาแห่งเอเชีย บรรดาวิศวกร นักวิชาการจากจีน ญี่ปุ่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และไทย นอกจากนี้ยังมีนักสร้างเขื่อน และที่ปรึกษาด้านการสร้างเขื่อนจากบริษัทปัญญาคอนเซาท์ติ้งจำกัดและบริษัทอิตาเลี่ยน-ไทย
การประชุมนี้ดูเหมือนว่าจะมีการเกี่ยวพันกับการสร้างเขื่อนสาละวินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำและผันน้ำสู่ประเทศไทย ด้วย โดยความช่วยเหลือจากบรรดาที่ปรึกษาจากประเทศญี่ปุ่น ไทย และนอร์เว รัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่าได้ตระเตรียมแผนการนี้มา นานนับทศวรรษ เพราะต้องปกปิดอย่างแนบเนียนเพื่อไม่ให้ประชาชนรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำสาละวิน ทั้ง ๆ ที่ชนพื้นเมือง เหล่านี้ได้รับความทุกข์ทรมานมานานปีจากการพุ่งรบและการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐบาลทหารของพม่า และหลายแสนคนถูก บังคับให้ละทิ้งถิ่นฐานของตน ผู้คนส่วนหนึ่งจากการอพยพครั้งใหญ่ล่าสุดถูกเกณฑ์ไปไว้ในพื้นที่เดียวกัน ในขณะเดียวกับที่นักสำรวจ ได้เริ่มศึกษาที่ตั้งของเขื่อนที่จะกั้นแม่น้ำในรัฐฉาน
มีโครงการเขื่อนอย่างน้อยที่สุด 5 โครงการที่ถูกศึกษาในลุ่มน้ำสาละวิน อันเป็นกระบวนการตามคำแนะนำของคณะที่ ปรึกษาที่ทำงานให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ภายใต้แผนการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง แผนเหล่าได้พัฒนาไปจนถึงการ ประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคมได้ทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ไม่มีการรับฟังความเห็นใด ๆ จากผู้ที่ได้รับผลกระทบ แท้จริงในโครงการนี้ คนท้องถิ่นเหล่านี้มีสิทธิแค่ยืนดูผืนแผ่นดินของพวกเขาที่จะสูญเสียไปตลอดกาล
การสร้างเขื่อนบนแม่น้ำสาละวินจะทำให้เกิดน้ำท่วมป่าไม้และพื้นที่เกษตรกรรมจำนวนมาก หมู่บ้านจำนวนมากจะจมอยู่ ใต้น้ำ การเกษตรถูกแยกออกจากการประมงในบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน เขื่อนขนาดยักษ์นี้ยังเป็นมหันตภัยร้ายแรงเนื่องจากมัน อยู่ในพื้นที่ทีมีการเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้งด้วย นอกจากนี้ ไม่ว่าเขื่อนใดก็ตามที่จะสร้างบนแม่น้ำสาละวิน ล้วนแต่เป็นเขื่อนที่จะต้อง มีราคาแพงลิบลิ่ว ทั้งนี้ก็เพราะเป็นโครงการที่ถูกวางแผนขึ้นมาเพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินจำนวนมากของทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่า ซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้วการจัดหาพลังงานไฟฟ้านั้นมีอยู่อย่างเกินพอแล้วและสามารถคิดหาวิถีทาง ที่เหมาะสมและยุติธรรมในการ จัดสรรทรัพยากรน้ำได้ดีกว่านี้แน่นอน
เรามีความกังวลเป็นอย่างยิ่งที่การประชุมเพื่อการวางแผนในครั้งนี้ มิได้รวมเอาตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไว้ด้วย และอาจถูกใช้เพื่อให้เกิดความชอบธรรมในทางกฏหมาย ได้โดยง่ายในกระบวนการพัฒนาอันอัปลักษณ์เช่นนี้
เราขอลงนามเพื่อเรียกร้องให้การวางแผนใด ๆ ก็ตามในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่บนลุ่มน้ำสาละวินปฏิบัติดังต่อไปนี้
- โครงการต้องมีการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างจริงใจ โปร่งใสและซื่อตรง
- ต้องยืนหยัดเพื่อระบบนิเวศน์อย่างแท้จริงและยั่งยืน
- ตระหนักและเคารพในความเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่ อันเป็นหน้าที่พื้นฐานของทุกโครงการที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ให้การยอมรับและเชื่อมั่นในการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งต้องจ่ายค่าชดเชยในสิ่งที่พวกเขาต้องสูญเสียไปอย่างเป็น ธรรม
พวกเราขอยืนยันว่าแผนงานหรือโครงการใดก็ตามที่ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว โครงการนั้น ๆ จะต้องถูกล้มเลิกไปอย่างแน่นอน
- สมัชชาคนจน(Assembly of the Poor)
- กลุ่มจับตาสาละวิน(Salween Watch)
- เครือข่ายแม่น้ำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(Southeast Asia Rivers Network)
- มูลนิธิสิทธิมนุษยชนแห่งรัฐฉาน( Shan Human Rights Foundation)
- กลุ่มสิ่งแวดล้อมคะเรนนี(Karenni Evergreen)
- องค์การยุวชนกะเหรี่ยง(Karen Youth Organisation)
- สหพันธ์เพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ-เขตปลดปล่อย (National League for Democracy (liberated area))
- โครงการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายคนชายขอบ(Legal Aid for Marginalised People)
- องค์การยุวชนแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Youth Agency)
- แนวร่วมนักศึกษาพม่าเพื่อประชาธิปไตย(All Burma Students' Democratic Front)
- เครือข่ายทำงานด้านเขื่อน แม่น้ำและประชาชน แห่งเอเชียใต้(South Asia Network on Dams, Rivers and People)
- เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศญี่ปุ่นเพื่อติดตามเอเปค(APEC Monitor NGO Network, Japan)
- พันธมิตรแห่งประชาชนเพื่อการปฏิรูปศักยภาพและการพัฒนาที่เท่าเทียมกันแห่งปากีสถาน( Citizens Alliance in Reforms for Efficient and Equitable Development, Pakistan)
- สหพันธ์ประชาธิปไตยแห่งรัฐฉาน(Shan Democratic Union)
- เครือข่ายเกษตรกรคะเรนนี(Karenni Farmers' Network)
- พรรคประชาธิปไตยเพื่อสังคมใหม่ (Democratic Party for a New Society)
- กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติกะเหรี่ยง (Karen Nature Conservation Group)
- กลุ่มพระสงฆ์แห่งรัฐฉาน(The Buddhist Sangha of Shan State)
- กลุ่มเพื่อนประชาชน (Friends of the People)
- เครือข่ายผู้หญิงแห่งรัฐฉาน (Shan Women's Action Netwok)
- กลุ่มกรีนโนเวมเบอร์ 32 (Green Novemer 32)
- เครือข่ายชาติพันธุ์ศึกษา (Ethnic Studies Centre, Chiang Mai)
- องค์การสตรีคะเรนนีแห่งชาติ (Karenni National Women's Organisation)
- องค์การเพื่อเสรีภาพปะโอ (Pa-O People's Liberation Organisation)
- มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์(Wildlife Fund Thailand)
- องค์การรัฐฉาน (Shan State Organisation)
- สภาเยาวชนและนักศึกษาพม่า(The Students and Youth Congress of Burma)
- กลุ่มศึกษากฎหมายและสิทธิมนุษยชนคะเรนนี(Karenni Human Rights and Law Education Team)
- โครงการช่วยเหลือผู้อพยพ(Migrant Assistance Program)
- แนวหน้าเสรีภาพของประชาชนแห่งพม่า(People's Liberation Front of Burma)
- กลุ่มเครือข่ายเยาวชนปะหล่อง(Palaung Youth Network Group)
- องค์กรคณาจารย์คะเรนนี(Karenni Teachers' Union)
- กลุ่มเครือข่ายนักเรียนกะเหรี่ยง(Karen Student Network Group)
- คณะกรรมการต่อต้านทางการเมืองของสภาแห่งชาติแห่งสหพันธรัฐพม่า(Political Defiance Committee of the National Council of the Union of Burma)
- หน่วยงานข่าวสารและสิทธิมนุษยชนคะเรนนี(Karenni Human Rights and News Agency)
- เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ (Northern Farmers Network)
- เท็ดดี้ บุรี(สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)เขตเลือกตั้งลอยแก้ว 2 สมาพันธ์เพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ รัฐคะเรนนี
- ขุนมาโก บาน(สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)เขตเลือกตั้งเปคอน องค์กรประชาธิปไตยเพื่อรัฐคะยาน
- ไสวินเพ(สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)เขตเลือกตั้งมองสู สมาพันธ์แห่งชาติรัฐฉานเพื่อประชาธิปไตย
- แดเนียล อุง (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)เขตเลือกตั้งมองเป็ง พรรคพัฒนาชาติละหู่ รัฐฉาน
**************************************************************************************
แถลงการณ์
กรณีการประชุมเชิงปฏิบัติการการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่บนแม่น้ำสาละวิน
-
เราขอต่อต้านการสร้างเขื่อนบนลุ่มน้ำสาละวินที่ปราศจากความเห็นชอบของคนในท้องถิ่นอย่างถึงที่สุด
-
จะต้องไม่มีการร่างโครงการใด ๆ ขึ้นมาบนลุ่มน้ำสาละวินจนกว่าจะมีรัฐบาลพม่าซึ่งเป็นตัวแทนของคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
-
โครงการทั้งหลายจะดำเนินการต่อไปได้ก็ต่อเมื่อมีการประเมินผลกระทบทุกด้านที่เหมาะสมแล้วเท่านั้น
-
โครงการเขื่อนใด ๆ ก็ตามจะต้องดำเนินการตั้งแต่เริ่มจนเสร็จสิ้นด้วยความโปร่งใสที่สุด
คณะกรรมการกลางองค์การยุวชนกะเหรี่ยง
11 กันยายน 2542
|