ใบแถลงข่าว
๓ ธันวาคม ๒๕๕๐
ผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 5 หมื่นคนลงชื่อเรียกร้องให้จีนควบคุมโครงการสร้างเขื่อนในพม่า
ประชาชนมากหว่า 5 หมื่นคนและ 80 องค์กรจากพม่าลงนามในจดหมายที่จะยื่นในวันนี้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจีนควบคุมการดำเนินงานของบริษัทสร้างเขื่อนจากจีนในพม่า
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา บริษัทจากจีนอย่างน้อย 10 แห่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ในพม่ามากกว่า 20 โครงการ โดยคิดเป็นกำลังผลิตติดตั้งประมาณ 30,000 เมกะวัตต์ และเป็นเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยประกอบด้วยโครงการเขื่อนท่าซางขนาด 7,100 เมกะวัตต์ในแม่น้ำสาละวิน ซึ่งจะเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์
โครงการเหล่านี้ดำเนินไปโดยปราศจากความโปร่งใส ไม่มีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือสังคม และไม่มีการแจ้งข้อมูลให้ชุมชนในท้องถิ่นได้ทราบ หลายโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ชนชาติพันธุ์ต้องทนทุกข์กับการละเมิดสิทธิอย่างเป็นระบบของทหารพม่าเป็นเวลานับทศวรรษ
เครือข่ายแม่น้ำพม่าซึ่งเป็นผู้จัดทำจดหมายฉบับนี้ตระหนักถึงกฎหมายควบคุมการสร้างเขื่อนในประเทศจีน ซึ่งเป็นกฎหมายที่น่าชมเชย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีนนำมาตรฐานเช่นนั้นมาใช้กับโครงการก่อสร้างโดยบริษัทจีนในต่างประเทศด้วย
เขื่อนจากจีนเหล่านี้จะทำลายสิ่งแวดล้อมและสังคมของประชาชนในพม่า และทำลายภาพลักษณ์ต่อประชาคมโลกของจีนเอง อ่อง เง โฆษกเครือข่ายแม่น้ำพม่ากล่าว
การยื่นจดหมายฉบับนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวรายงาน Under the Boot โดยกลุ่มเครือข่ายเยาวชนปางหลวง ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเขื่อนฉ่วยหลีใกล้พรมแดนจีน-พม่า ซึ่งนับเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแบบที่ให้เอกชนสร้างและโอนเป็นของรัฐภายหลัง (BOT - Build-Operate-Transfer) แห่งแรกของจีนที่สร้างร่วมกับรัฐบาลทหารพม่า รายงานยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่นักลงทุนจากจีนใช้ทหารพม่าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับโครงการเขื่อน
ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ อ่อง เง เลขาธิการเครือข่ายแม่น้ำพม่า 084-3636603
จายจาย ผู้ประสานงานสาละวินวอชต์ 089-7557354
สำหรับจดหมายฉบับเต็มโปรดคลิกที่นี่ หรือ ดูที่ www.salweenwatch.org

องค์กรต่างๆร่วมรณรงค์ที่หน้าสถานกงศุลจีน ที่เชียงใหม่เมื่อ 3 ธค. 50 |