ใบแถลงข่าว
เครือข่ายแม่น้ำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
นักกิจกรรม
14 ประเทศร่วมกันคัดค้านเขื่อนและปกป้องแม่น้ำ
องค์กรรณรงค์คัดค้านเขื่อนและปกป้องแม่น้ำในภูมิภาคเอเซียตะวันออกและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ได้ประกาศร่วม มือกันคัดค้านเขื่อนและปกป้องแม่น้ำใน 2 ภูมิภาคนี้ ในการประชุมว่าด้วยเรื่องเขื่อน
แม่น้ำ และประชาชนในภูมิภาค เอเซียตะวันนออกเฉียงใต้ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่
อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2543 โดยมีผู้เข้าร่วมจาก
14 ประเทศ
ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีคำประกาศร่วมกันว่า
"จะร่วมมือกันทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติเพื่อหยุดการให้การลง
ทุนในโครงการสร้างเขื่อน ในภูมิภาคเอเซียและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และร่วมกันฟื้นฟูแม่น้ำให้กลับคืนสู่
ชุมชน"
นายไชยณรงค์
เศรษฐเชื้อ ผู้อำนวยการเครือข่ายแม่น้ำเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast
Asia Rivers Network: SEARIN) ซึ่งเป็นฝ่ายจัดการประชุมครั้งนี้ แถลงว่า
"การรวมตัวกันของกลุ่มต่างๆในภูมิภาคเอเซียและเอเซียตะวัน ออกเฉียงใต้
จะทำให้เกิดพลังในการปกป้องสิทธิของชุมชนที่ต้องพึ่งพาแม่น้ำในการดำรงชีวิต
จากการประชุมพวกเรา เห็นร่วมกันว่า ปัญหาความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน
เป็นปัญหาร่วมที่กระทบต่อสิทธิชุมชนท้องถิ่นที่เคยพึ่งพา แม่น้ำ ซึ่งสาเหตุของปัญหานั้นมาจากการเข้ามาจัดการน้ำและทรัพยากรโดยรัฐและนักลงทุน
พวกเราเห็นร่วมกันว่า พวกเราจะร่วมกันรณรงค์เพื่อหยุดบรรดาอุตสาหกรรมเขื่อนทั้งหลายที่กำลังมีบทบาทอย่างสูงใน
2 ภูมิภาคนี้"
ผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งรวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนโดยตรงจากประเทศมาเลเซีย
เกาหลี ไทย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และกัมพูชา และพันธมิตรทั่วภูมิภาค ได้มีคำประกาศปากมูล
ซึ่งมีข้อเรียกร้องที่สำคัญคือ ให้ระงับโครงการ เขื่อนขนาดใหญ่ไว้ก่อนจนกว่าได้มีการแก้ปัญหาที่เกิดจากเขื่อนที่สร้างเขื่อนไปแล้วรวม
ถึงมีการฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับ ผลกระทบเรียบร้อยแล้ว ให้ยกเลิกการใช้เขื่อนซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมและทำลายสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม
และเรียกร้องให้องค์กรการเงินทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารโลก
ธนาคารพัฒนาเอเซีย และธนาคาร เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JBIC)หยุดให้เงินทุนสนับสนุนการสร้างเขื่อนโดยทันที
ผู้เข้าร่วมการประชุมยังได้เข้าเยี่ยมชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนที่ชุมนุมที่เขื่อนปากมูล
และเขื่อนราษีไศล ซึ่งได้เข้ายึดเขื่อน เรียกร้องให้มีการเปิดประตูเขื่อน
โดยผู้เข้าร่วมประชุมได้กล่าวกับชาวบ้านที่ชุมนุมว่าจะสนับสนุน การต่อสู้เพื่อฟื้นฟูแม่น้ำมูน
นางสาวโจแอน คาร์ลิง
เลขาธิการองค์กรพันธมิตรของประชาชนคอร์เลลา ซึ่งเป็นองค์กรคนพื้นเมืองฟิลิปปินส์ที่กำลัง
ต่อสู้คัดค้านเขื่อนซานโรเก ที่ได้รับทุนสร้างเขื่อนจากประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวกับชาวบ้านปากมูล
และราษีไศลว่า "พวก ท่านจะไม่โดดเดี่ยว เพราะประชาชนจาก 12 ประเทศในเอเซียตะวันออกและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
และจากสหรัฐ นอร์เวย์ และออสเตรเลีย ได้มาที่นี่ในวันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า
พวกเราสนับสนุนการต่อสู้ของท่าน พวกเราได้เห็น แล้วว่าเขื่อนปากมูลและเขื่อนราษีไศลไม่ได้มีประโยชน์อย่างที่ตั้งไว้
และควรที่จะเปิดประตูเขื่อนอย่างถาวรเพื่อฟื้นฟู แม่น้ำมูน พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน
เพื่อการฟื้นฟูแม่น้ำและชีวิตกลับคืน มาโดยทันที"
|