รายงานข่าวประกอบภาพและวีดีโอคลิป "ชาวสะเอียบเยี่ยมผู้ว่าฯแพร่"
15 กรกฎาคม 2553
หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายสมชัย หทยะตันติด ส่งหนังสือที่ออกด้วยหน่วยงานราชการมีบัญชาให้ข้าราชการ คณะครู นักเรียน ของสถานศึกษาในจังหวัดแพร่ ให้ลงลายชื่อเห็นด้วยกับโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคมที่ผ่านมา และในเช้ามืดของวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ชาวบ้านตำบลสะเอียบ
หนึ่งพันกว่าชีวิตที่ไม่เห็นกับคำบัญชา ได้เตรียมวาจาความคิดเห็นที่ต่างฝากให้ผู้ว่าฯเมืองแพร่ เริ่มด้วยการซักซ้อมขบวนในการเข้าพบเจ้าเมือง ณ ตลาดสดของหมู่บ้าน สองข้างทางขนาบด้วยรถยนต์พาหนะในการเดินทางมากกว่าสองร้อยคัน เพื่อพาชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการออกคำสั่งที่เผด็จการต่อเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา ให้ยินยอมสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ทั้งที่เยาวชนบางคนในจังหวัดแพร่เองยังไม่เคยเห็นแก่งเสือเต้น
เมื่อชาวบ้านพร้อมเพรียงกันบนพาหนะ จึงได้เวลาออกเดินทางจากหมู่บ้านโดยมีรถตำรวจนำขบวน ด้วยระยะทางจากหมู่บ้านถึงศาลากลางจังหวัดแพร่แปดสิบกิโลเมตรไม่ทำให้ชาวบ้านสะเอียบหวาดหวั่นแต่อย่างได รถทุกคันเคลื่อนไปสู่จุดหมายด้วยพลังและความมุ่งมั่นคันต่อคันความยาวมากกว่าห้ากิโลเมตร ผ่านชุมชนต่างๆมากมายจนถึงโรงเรียนสองพิทยาคมเพื่อรับลูกหลานชาวสะเอียบ ที่ถูกลิดรอนสิทธิจากผู้ว่าฯ และครูที่โรงเรียนให้เซนต์ยินยอมกับโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น นักเรียนบางคนบอกว่าไม่อยากเซนต์ชื่อแต่ครูกลับบอกว่าถ้าไม่ทำจะถูกหักคะแนน พ่อแม่ผู้ปกครองจึงขออนุญาตครูให้นักเรียนที่ไม่เห็นด้วยไปพบกับผู้ว่าฯพร้อมกัน เสร็จภารกิจที่โรงเรียนสองพิทยาคมขบวนรถขับเคลื่อนมุ่งหน้าต่อไป ถึงตัวจังหวัดแพร่รถทุกคันเข้าจอดที่สนามกีฬากลางจังหวัดให้ชาวบ้านและเยาวชนตั้งขบวนพร้อมป้ายผ้าสัญลักษณ์ของการไม่เห็นด้วยกับเขื่อนแก่งเสือเต้น สื่อให้ชาวจังหวัดแพร่ สื่อมวลชนต่างๆได้รับรู้สาเหตุของการเข้ามาพบผู้ว่าฯ ขบวนตั้งแถวอย่างเป็นระเบียบก็เริ่มขยับเท้าจากสนามกีฬากลางสู่ศาลากลางจังหวัดแพร่ มีป้ายผ้าข้อความมากมายเป็นแนวขบวนให้ชาวบ้านและผู้สัญจรผ่านได้อ่านทั้งสองข้างของขบวน ไม่ได้มีแค่ข้อความบนผืนผ้ายังมีเสียงเรียกร้องของผู้ที่จะได้รับความเดือนร้อนจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น สลับกันหลายคนพูดออกจากลำโพงตัวใหญ่บนรถเครื่องเสียงที่ขับตามท้ายขบวนคนเดิน ต่อด้วยขบวนรถพาหนะที่ไม่สามารถบอกได้ว่าท้ายสุดของขบวนเป็นรถคันไหน
ป้ายแรกมีข้อความว่า “ขอโอกาสให้นักเรียนได้คิดเอง” หยุดที่หน้าประตูศาลากลางมีนักเรียนเป็นผู้ถือป้าย ภาพที่มองเห็นตรงประตูศาลากลางคือรั้วเหล็กกับตำรวจนับสิบนายยืนหัวไหล่ชิดกันจนเข็มยศที่ติดบนบ่าเสียดสีกันไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร ช่างเป็นการต้อนรับของสถานที่ราชการอย่างน่าประทับใจ จำนวนข้อความบนผ้านับสิบผืนได้ถูกถือให้ดูน่าอ่านเหมาะกับการเข้ามาเยี่ยมเยือนเจ้าเมืองแพร่ถึงที่ทำงาน ถนนพระยาไชยบูนณ์ด้านหน้าศาลากลางใกล้กับวงเวียนถูกกั้นด้วยรั้วเหล็กเช่นเดิม ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่นำมากั้นเป็นแนวให้ป้ายผ้าได้มีที่อยู่แสดงตัวอักษรให้คนผ่านมาได้สนใจ
ด้วยระยะทางที่ขบวนเดินเท้าเคลื่อนผ่านมาไม่ทำให้ชาวบ้านและเยาวชนเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย เพราะถือเป็นการทำเพื่อปกป้องสิทธิ ชุมชนและทรัพยากรบ้านเกิดของตนเองจากโครงการอัปยศที่จะกลืนกินทรัพยากรป่าสักทองผืนสุดท้ายของประเทศ ชาวบ้านมาพร้อมกันที่หน้าศาลากลางเป็นที่เรียบร้อยไม่มีแม้คำเชิญชวนเข้าไปพักใต้ชายคาศาลากลาง เพื่อไม่เป็นที่ลำบากของเจ้าบ้านหาที่นั่งให้ ชาวบ้านนำเต็นท์มากางป้องกันแสงแดดที่ส่องปั่นทอนพลังมวลชนผู้มาเยือน พื้นถนนที่ถูกแดดยามเช้าเผ่าจนร้อนระอุต่างถูกจับจองเป็นที่นั่งใต้เต็นท์ ด้านหน้าประตูทางเข้าศาลากลางมีรถกะบะเปิดฝาท้ายจอดชิดกับรถเครื่องเสียง เสมือนเวทีให้ผู้ว่าฯละจากเก้ากี้ทำงานในห้องแอร์ลงมาพบปะชาวบ้านนับพันคนอย่างทั่วถึงกัน บนเวทีถูกสลับสับเปลี่ยนผู้ถือไมค์แสดงการทักทายเจ้าบ้านคนต่อคนไม่ว่างเว้น ตรงหน้าเวทีมีเสียงปรบมือดังมาจากใต้เต็นท์สนับสนุนผู้พูดอย่างต่อเนื่อง
บนเวทีมีการลำดับเหตุการณ์ว่าทำไมชาวบ้านและเยาวชนสะเอียบถึงต้องการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
“สืบเนื่องมาจาก พล.ต.สนั่น ขจรประสาน รัฐมนตรี มีถอยคำแถลงต่อสื่อมวลชนว่าต้องการนำโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นเข้าสู่การประชุมขอมติของ ครม. ให้มีการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ซ้ำยังใช้อำนาจนักการเมืองสั่งการลงมายังให้อดีตผู้ว่าฯคนบ้านเดียวกันจังหวัดพิจิตร ที่ย้ายมาเป็นผู้ว่าจังหวังแพร่ให้ล่ารายชื่อผู้สนับสนุนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะต้องถูกโยกย้าย ด้วยความกลัวการย้ายผู้ว่าฯเมืองแพร่จึงเร่งปฏิบัติอย่างด่วนที่สุด เริ่มจากส่งหนังสือไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนทุกโรงให้สำรวจผู้สนับสนุนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นจังหวัดแพร่ ลงนามด้วย นายสุนัย วงศ์สุวคันธ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแพร่ เขต1 เนื้อหาหนังสือบอกว่าท่านผู้ว่าฯบัญชาการมาและเพื่อสนองนโยบายของผู้ว่าฯ ให้สถานศึกษาในสังกัด ข้าราชการ ครูอาจารย์ นักเรียนลงลายมือชื่อยินยอมสนับสนุนการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น”
เพราะนักเรียนถูกสอนว่าต้องเชื่อฟังคำครูอาจารย์ผู้เปรียบเสมือนเรือจ้าง ซ้ำนักเรียนบางคนเชื่อฟังครูมากกว่าบุพการีตนเองจึงมิอาจปฏิเสธคำสั่งคุณครูได้ เด็กนักเรียนไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจด้วยตนเอง.. มีครูสักกี่คนที่บอกกับนักเรียนว่าถ้าไม่เห็นด้วยไม่ต้องลงลายมือชื่อ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆเสียงเรียกร้องของชาวบ้านให้ผู้ว่าฯมาตอบถามยังคงดังก้อง ชาวบ้านบางคนยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าเมืองท่านนี้ด้วยซ้ำ ต้องคอยลุ้นอยู่ตลอดว่าท่านจะมาพบเมื่อไหร่ ส่งท่านรองผู้ว่าฯก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
เพราะชาวบ้านต้องการเยี่ยมพูดคุยกับท่านผู้ว่าฯไม่ใช่ท่านรองผู้ว่าฯ สิ่งที่บ้านสะเอียบอยากได้ยินจากปากท่านผู้ว่าฯคือ ทำไมถึงใช้เด็ก เยาวชน นักเรียนเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติภารกิจของตนเองเยี่ยงผู้เป็นเจ้าชีวิตเด็กตาดำๆ..? และนายสุนัย วงศ์สุวคันธ ทำหนังสือส่งไปทุกโรงเรียนในจังหวัดแพร่เป็นคำบัญชาจากท่านผู้ว่าจริงหรือ..? หากท่านผู้ว่าฯได้สั่งการให้ล่ารายชื่อผู้สนับสนุนเขื่อนแก่งเสือเต้นจริง วันนี้จะอะไรมายืนยันอย่างเป็นทางการได้ว่าท่านผู้ว่าฯจะไม่ผลักดันการลงรายชื่อสนับสนุนเขื่อนอีกและยกเลิกรายชื่อผู้ที่ได้เซนต์ยินยอมไปแล้ว..? ส่วนเวทีชุมนุมหมู่บ้านละ 10 คน ทั่วทั้งจังหวัดแพร่ในวันพรุ่งนี้จะมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อผู้สนับสนุนเขื่อนแก่งเสือเต้นจริงหรือ..? จวบจนเวลาบ่ายสามโมงชาวบ้านตกลงกันว่าจะเข้าไปเยี่ยมถึงโต๊ะทำงานท่านผู้ว่าฯหากท่านยังไม่มีทีท่าว่าจะมารับแขกผู้มาเยือนทั้งหลาย บางคนตะโกนบอกว่าบุกเข้าไปในเขตศาลากลาง หลายคนลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมเข้าไปข้างใน อนุญาตให้ตัวแทนชาวบ้านบางส่วนขึ้นไปทักทายถึงห้องทำงานและยื่นข้อเสนอให้ท่านผู้ว่าพิจารณาก่อนตัดสินใจต่อโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น จนกระทั่งบ่ายสามโมงกว่าท่านผู้ว่าฯเจ้าบ้านลงมาพร้อมทหารประกบสองข้างนับสิบๆนาย รีบเดินขึ้นเวทีไม่มีท่าทีจับไมค์พูดอะไรแค่ยืนถ่ายรูปรับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้านสะเอียบ ไม่ถึงสิบวินาทีท่านผู้ว่าขอตัวลงเวทีกลัวโต๊ะทำงานคิดถึง ท่านไม่ทันดูด้วยซ้ำว่าชาวบ้านผู้ได้รับความเดือนร้อนจากคำบัญชาท่านมาเยี่ยมเป็นจำนวนเท่าไหร่ สมกับเป็นคนส่วนน้อยที่ค้านเขื่อนตามทีท่านสนั่นบอกกับสื่อมวลชนจริงหรือ? หรืออาจจะมากกว่าขบวนเอาเขื่อนที่ท่านสั่งไปเดินที่จังหวัดพิจิตร...........
ชาวบ้านสะเอียบพอใจกับข้อตกลงที่ตัวแทนชาวบ้านขึ้นไปเจรจากับท่านที่ห้องทำงาน และอย่างน้อยชาวบ้านที่ไม่เคยเห็นท่านผู้ว่าเมืองแพร่ก็ได้เห็นหน้าจำหน้าตาท่านได้แล้ว โอกาสต่อไปหากท่านยังมีบัญชาด่วนที่สุดอีก คนไม่เอาเขื่อนแก่งเสือเต้นและเขื่อนอื่นๆทั่วประเทศจะมาเยี่ยมเยือนท่านอีกครั้ง