สะเอียบ ประกาศกร้าว ยกเลิกเขื่อนแก่งเสือเต้นเด็ดขาด
เผาหุ่น รมว.เกษตร อธิบดีกรมชล หน้าที่ว่าการอำเภอสอง จ.แพร่

fas fa-pencil-alt
ชาวบ้านตำบลสะเอียบ
fas fa-calendar
28 กุมภาพันธ์ 2550

เมื่อเวลา 09.09 น. ชาวบ้านตำบลสะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ กว่า 1,000 คน ได้เดินทางโดยกรถกระบะกว่าร้อยคัน มายังหน้าที่ว่าการอำเภอสอง จ.แพร่ โดยได้ทำการสักการะขื่อเมืองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจก่อนออกเดินทาง เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น อันเนื่องมาจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายนโยบายให้กรมชลประทานเร่งผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น พร้อมทั้งได้ทำการเผาหุ่นนายธีระ รมว.เกษตรฯ และนายสามารถ อธิบดีกรมชลฯ ที่เป็นตัวหลักในการผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นอีกด้วย


 นายเส็ง ขวัญยืน ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนชัยสักทอง หมู่ 9 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ หนึ่งในแกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นมากว่า 18 ปี กล่าวว่า “ชาวบ้านเดือดร้อนมายาวนานกว่า 18 ปีแล้ว ทุกแล้งทุกฝน ทุกรัฐบาลต้องหยิบยกเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาปัดฝุ่นทุกปี ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาแสดงเจตนารมณ์คัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นทุกปี ทั้งที่มีการศึกษามาอย่างชัดเจนแล้วว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นไม่คุ้มทุน ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ชาวบ้านและนักวิชาการก็ได้เสนอทางออกให้แล้วแต่ทุกรัฐบาลกลับไม่ฟังเสียง พวกเราเดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นด้วยเหตุด้วยผล หวังว่ารัฐบาลคงจะเข้าใจในเจตนาของพวกเรา” 


 นายอุดม ศรีคำภา ชาวบ้านบ้านดอนชัยหมู่ 1 ได้ปราศรัยชี้แจงว่า “การมาแสดงเจตนารมณ์ในครั้งนี้ ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องลงทุนลงแรง เติมน้ำมันรถ ห่อข้าวห่อน้ำกันมาเอง เพราะต้องการให้รัฐบาลยกเลิกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นเสียที และหันไปแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมตามที่มีการเสนอกันมาจากหลายหน่วยงานและนักวิชาการอย่างมหาวิทยาลัยนเรศวร ก็ได้เสนอแผนงานแก้ภัยแล้งน้ำท่วมแบบบูรณาการตั้ง 19 แผนงาน แต่ทำไมรัฐบาลไม่ยอมทำเสียที หากจะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นก็ให้เอาระเบิดไปทิ้งให้พวกเราชาวบ้านตายเสียให้หมด” นายอุดมกล่าว

เมื่อชาวบ้านเดินทางมาถึงหน้าที่ว่าการอำเภอสอง ได้เปิดเวทีปราศรัยถึงเหตุผลว่าทำไมจึงต้องคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น นายสมาน สร้อยเงิน อายุ 52 ปี หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน ได้กล่าวว่า “โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นได้สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านมายาวนาน อยากให้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกโครงการอย่างเด็ดขาดชาวบ้านจะได้มีวิถีชีวิตอย่างปกติสุขเสียที การที่รัฐบาลหยิบยกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่อีก เป็นการสร้างความกดดันให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้เกิดปัญหาต้องออกมาประท้วง สังคมแตกแยก รัฐบาลไม่ควรสร้างปัญหา สังคมกำลังต้องการการความสมานฉันท์ อย่าให้แผ่นดินต้องลุกเป็นไฟอีกเลย” นายสมานกล่าว


 นายชาติชาย ธรรมโม แกนนำกลุ่มเยาวชนตะกอนยม กล่าวว่า “พวกเราเป็นลูกหลานของชาวบ้าน เมื่อบ้านเรามีภัยก็ต้องช่วยกันปกป้อง ผมเห็นว่าโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และยังทำลายป่าสักทองธรรมชาติผืนสุดท้ายของประเทศไทย ส่วนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมนั้นก็มีวิธีการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การสร้างอ่างขนาดเล็ก การสร้างทางเบี่ยงน้ำ การทำแก้มลิง การปลูกป่าเพื่อรักษาระบบนิเวศ พวกเราเห็นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรคิดให้มาก มองถึงอนาคตของลูกหลานด้วย ไม่ใช่แก้ไขปัญหาหนึ่งแล้วไปสร้างปัญหาให้เกิดในอนาคต ลูกหลานจะประนามเอาได้” 


 นางสาวเยาวลักษณ์ ศรีคำภา หนึ่งในแกนนำเยาวชนกลุ่มตะกอนยม กล่าวว่า “ชาวบ้านและลูกหลานได้ร่วมกันศึกษาวิจัยจาวบ้าน ได้รู้ได้เห็นว่า ป่าไม้ สัตว์ป่า ระบบนิเวศน์ มีความสัมพันธ์กับชุมชนอย่างลึกซึ้ง จนชาวบ้านขนานนามป่าแม่ยม แม่น้ำยม ว่าเป็นซุปเปอร์มาเก็ตของชุมชน อยากให้รัฐมนตรีได้อ่านได้เรียนวิชาสิ่งแวดล้อม จะได้เห็นความสำคัญของระบบนิเวศ ถ้ารัฐมนตรี ก.เกษตร และอธิบดีกรมชล อยากรู้ชาวบ้านและลูกหลานเยาวชนกลุ่มตะกอนยมยินดีถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ จะได้ตระหนักและเข้าใจในความสำคัญของระบบนิเวศ” 


 จากนั้นเวลาประมาณเที่ยง ชาวบ้านได้ยุติการปราศรัย พักรับประทานอาหารที่ตระเตรียมกันมาตามอาคารหอประชุม ตามร่มไม้ รอฟังคำตอบจากส่วนราชการว่าจะมีใครมารับหนังสือจากชาวบ้านหรือไม่


 เวลาประมาณ 13.30 น. ชาวบ้านได้รวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ โดยมีนายอำเภอสอง นายปัญญา นาคฉ่ำ ได้ขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับชาวบ้าน และยินดีที่เห็นชาวบ้านกระตือรือร้นในการเรียกร้องปกป้องสิทธิของตนเอง และเดินทักทายชาวบ้าน จากนั้นเวลาประมาณ 14.30 น. รองผู้ว่าราชากรจังหวัดแพร่ นายสมชัย หทยะตันติ ได้เดินทางมารับหนังสือจากชาวบ้าน โดยมีนางสุดารัตน์ ชัยมงคล เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ของชาวบ้านที่แสดงเจตนารมณ์ในการคัดค้าน โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นและให้ยกเลิกโครงการอย่างเด็ดขาดต่อไป จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับหนังสือจากแกนนำชาวบ้านเพื่อแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ติดราชการรับเสด็จที่จังหวัดน่าน โดยนายสมชัย ได้กล่าวขอโทษชาวบ้านที่ต้องให้รอนาน เพราะตนติดภารกิจถึง 6 งาน และรับปากกับชาวบ้านว่าจะนำเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และจะประสานส่งต่อไปยังรัฐบาล ต่อไป 


 จากนั้นตัวแทนชาวบ้านได้ประกาศ เจตนารมณ์ในการยืนหยัดต่อสู้คัดค้านเขื่อนแก่งเสือเต้นจนถึงที่สุด และได้ทำการเผาหุ่น นายธีระ สูตะบุตร รมว.กระทรวงเกษตรฯ และนายสามารถ โชคนาภิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอสอง และได้แยกย้ายกันเดินทางกลับในเวลาต่อมา   


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง